เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบทะลุโซน 31 บาทต่อดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์

เผยแพร่ 29/12/2025 18:06

Economic Highlight

ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากฝั่งสหรัฐฯ และรายงานการประชุม FOMC เดือนธันวาคม

 

 

ราคา

ราคาปัจจุบัน

แนวรับ

แนวต้าน

คาดการณ์แนวโน้ม

USDTHB

31.04

30.80/31.00

31.50/31.80

Sideways Down *ยังมีความเสี่ยง Two-Way และอาจผันผวนสูงช่วงปริมาณธุรกรรมเบาบาง

ทองคำ**

(ดอลลาร์ต่อออนซ์)

4,533

4,200/4,350

New All-time High

Sideways

**ราคาทองคำ = Spot Gold price (XAUUSD)

 

 

FX Highlight

  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบทะลุโซน 31 บาทต่อดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำ
  • ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนั้น เรามองว่า การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ส่วนใหญ่อาจเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมที่เบาบางลง
  • ทว่า ในระยะข้างหน้านั้น ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อตลาดการเงิน คือ 1) มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะเฟดและธนาคารกลางญี่ปุ่น 2) ทิศทางการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ 3) ประเด็นเสถียรภาพการคลังของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก 4) บรรยากาศในตลาดการเงิน ซึ่งต้องจับตาการเคลื่อนไหวของหุ้นธีม AI/Semiconductor และ 5) ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์
  • ควรระวังความผันผวนในช่วงปลายปี โดยเฉพาะหากเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงหนัก จนทางการญี่ปุ่นเริ่มเข้าดูแลค่าเงิน โดยเฉพาะในช่วงสภาพคล่องตลาดเบาบาง ก็อาจทำให้เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่าขึ้นเร็ว กดดันเงินดอลลาร์ได้
  • เรายังคงประเมินว่า เงินบาท (USDTHB) จะยังอยู่ในแนวโน้มการแข็งค่าขึ้น จนถึง ตลอดช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 หลังโมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนั้นยังมีกำลังอยู่
  • ในช่วงระยะสั้นนี้ (จนถึงสิ้นปี 2025) การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม อีกทั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็ถือว่าเป็นช่วงหยุดยาวทำให้ปริมาณธุรกรรมในตลาดการเงินเบาบาง ทว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวัง ว่า เงินบาทเสี่ยงเคลื่อนไหว Two-way Risk หรือพร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง ได้พอสมควร หามีโฟลว์ธุรกรรมด้านใดด้านหนึ่งเข้ามากระทบตลาด โดยเฉพาะในช่วงวันทำการสุดท้ายของตลาดการเงินไทย
  • หากเงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นทะลุโซนแนวรับสำคัญ 31.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้นั้น เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรเริ่มประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจชะลอตัวลงและมีแนวโน้มพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ในระยะข้างหน้า
  • โดยจากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของเงินบาท (Fair Value) จากโมเดล Behavioral Equilibrium Exchange Rate (BEER) ที่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยเทียบกับฝั่งสหรัฐฯ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเงินบาท (USDTHB) และดัชนีเงินบาทที่แท้จริง (Real Effective Exchange Rate REER) เราพบว่า Fair Value ของเงินบาทจะอยู่ในช่วง 33-34 บาทต่อดอลลาร์ (เฉลี่ยจากโมเดลของเราและของทาง Bloomberg Economics และ Fair Value ของ REER) ทำให้เงินบาทที่ระดับต่ำกว่า 30.75 บาทต่อดอลลาร์ ถือว่าเป็นระดับที่ Extremely Overvalued หรือเงินบาทแข็งค่าเกินไปมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเงินบาทจะมีแนวโน้มพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้ ในระยะ 3 เดือน และ 6 เดือน ข้างหน้า
  • ในเชิงเทคนิคัลนั้น เรามองว่า หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะยังอยู่ในแนวโน้มการแข็งค่าขึ้น จนกว่าจะสามารถพลิกกลับมาอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 31.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน (เราจะปรับมุมมองต่อแนวโน้มเงินบาทใหม่ หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์ หรือโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์)
  • ทั้งนี้ แนวต้านของเงินบาท (USDTHB) อยู่แถว 31.50 บาทต่อดอลลาร์ (แนวต้านถัดไป 31.80-32.00 บาทต่อดอลลาร์ และโซน 32.30-32.50 บาทต่อดอลลาร์) ส่วนโซนแนวรับแรกจะอยู่ในช่วง 31.00 บาทต่อดอลลาร์ (แนวรับถัดไป 30.80 บาทต่อดอลลาร์)

 

 

Gold Highlight

  • นับตั้งแต่ช่วง สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำ (XAUUSD) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามการไล่ซื้อของผู้เล่นในตลาด หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ และมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่มั่นใจต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด มากกว่า Dot Plot
  • ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2026 ราคาทองคำอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ได้ หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
  • การปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำได้
  • นอกจากนี้ หากบรรยากาศในตลาดการเงินอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) ในช่วงปลายปี สอดคล้องกับ Santa Rally ก็อาจลดทอนโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำได้
  • ในทางกลับกัน หากตลาดกลับมากังวลประเด็นความเสี่ยงฟองสบู่ราคาหุ้นธีม AI/Semiconductor รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าว ก็จะพอช่วยหนุนราคาทองคำด้วยเช่นกัน
  • และที่สำคัญ ประเด็นความกังวลเสถียรภาพการคลังของบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ก็สามารถเป็นอีกปัจจัยที่หนุนความต้องการถือครองทองคำได้ (ธีม Currency Debasement เพิ่มความน่าสนใจในการถือทองคำ)
  • ส่วน พัฒนาการของการเจรจาเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามและสามารถกระทบราคาทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • ความผันผวนของราคาทองคำ (1-month volatility) ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้เล่นในตลาดควรระมัดระวังและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด
  • ทั้งนี้ ในเชิงเทคนิคัล หากประเมินจากกลยุทธ์ Trend-Following โมเมนตัมขาขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ยังมีอยู่ และราคาทองคำจะยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ตราบใดที่ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงหลุดโซน 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างชัดเจน
  • ภายใต้แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ที่ยังพอมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้บ้าง แต่เสี่ยงที่จะเข้าสู่ช่วงพักฐานในระยะสั้น ทำให้เรามองว่า กลยุทธ์ที่น่าสนใจ คือ รอจังหวะ Buy on Dip (ขอย้ำว่า ไม่ควร ไล่ราคาซื้อ) สำหรับผู้เล่นที่ต้องการถือทองคำบ้างในพอร์ตการลงทุน 5%-10% เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง ส่วนผู้เล่นในตลาดที่มีสถานะลงทุนแล้ว ก็อาจ Let Profits Run หรืออาจทยอยพิจารณาขายทำกำไร ในกรณีที่ ราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวลงทะลุโซน 4,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำเปลี่ยนไปและเข้าสู่ช่วงการพักฐาน  

 

 

Economics Highlight

สถานการณ์/เหตุการณ์สำคัญ

ผลกระทบต่อ

ค่าเงินบาท

ราคาทองคำ

รายงานการประชุม FOMC ของเฟด สะท้อนว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ สนับสนุนการลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ยอดการจ้างงานภาคเอกชน รายสัปดาห์ โดย ADP เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและออกมาต่ำกว่าคาด

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ปัจจัยลบเล็กน้อย

ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของจีน ในเดือนธันวาคม ปรับตัวขึ้น ดีกว่าคาด

ปัจจัยบวกเล็กน้อย

-

ทางการญี่ปุ่น ส่งสัญญาณชัดเจน พร้อมเข้าดูแลค่าเงิน หลังเงินเยนญี่ปุ่น อ่อนค่าลงหนัก

ปัจจัยบวก

ปัจจัยบวก *หากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

บรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน จากความกังวลมูลค่าหุ้นธีม AI/Semiconductor ที่อยู่ในระดับสูง

ปัจจัยบวกเล็กน้อย

ปัจจัยบวก

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยในเดือนพฤศจิกายน ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ปัจจัยลบเล็กน้อย

-

บรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าขายหุ้นไทยเพิ่มเติม

ปัจจัยลบเล็กน้อย

-

บรรดานักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อบอนด์ไทย หลังบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้า

ปัจจัยบวกเล็กน้อย

-

 

Week Ahead Calendar

1234

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย