Trade data in focus
• SET: คาด SET Index อยู่ในเฟสของการรีบาวด์ต่อไป ภายหลังเมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวบวกต่อเนื่องน่าโดยกลุ่ม Big Tech เป็นสําคัญ ซึ่งน่าจะเป็นแรงหนุนต่อเนื่องมายังกลุ่มชิ้นส่วนฯของเราในวันนี้ ที่จะมี ประเด็นของตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย.ที่จะรายงานออกมาในวันนี้ด้วย
• Stimulus: สําหรับประเด็นที่เกิดขึ้นวานนี้ ผลการประชุมครม.ไม่ได้มีอะไร ออกมา Surprise โดยมาตรการสําคัญอย่าง Easy E-Receipt ได้รับความ เห็นชอบจากครม.เรียบร้อย โดยจะมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่ช่วง กลางเดือนมกราคมไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ประเมินเป็นผลกระทบเชิง บวกต่อกลุ่มค้าปลีก ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็น Positive momentum ของ Earnings ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น BJC, CPALL (BK:CPALL), CPAXT, CRC, COM7, HMPRO ส่วนในแง่ผลกระทบทาง เศรษฐกิจนั้น รัฐบาลคาดว่าโครงการนี้เมื่อรวมกับโครงการอื่นอย่างเช่น การเติมเม็ดเงินช่วยเหลือชาวนา เงินช่วยเหลือกลุ่มคนเปราะบางและ ผู้สูงอายุ จะทําให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกไม่ต่ํากว่า 7 หมื่นล้านบาท
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ สําหรับผู้ที่ได้เข้าสะสมหุ้นเพิ่ม ณ บริเวณดัชนี SET 1370 จุดตามที่เราแนะน่า สามารถถือครองหุ้นในส่วนดังกล่าวต่อไป ได้ แม้ในระยะสั้นดัชนีอาจจะยังมีความผันผวนบ้าง แต่หากเทียบเคียงระดับ ปัจจุบันกับระดับกรณีฐานและระดับเป้าหมายของเราในปีหน้าที่ 1455 และ 1560 จุด ต้องบอกว่าอัตราส่วน Reward-to-Risk ยังคงดูน่าสนใจเป็น อย่างมาก ทั้งนี้ Top pick ของเราประจําการลงทุนไตรมาส 1/25 ยังคง ได้แก่ AEONTS, CPALL, JMT, PTT (BK:PTT), TISCO, WHA, DIF, LHHOTEL, SCB, BDMS
• Trade data: สําหรับปัจจัยวันนี้ที่น่าติดตาม ได้แก่ รายงานตัวเลข ส่งออก-น่าเข้าของไทยประจําเดือนพ.ย. ที่ล่าสุดตลาดคาดการณ์การ ขยายตัวที่ 9.0% และ 1.3% ตามล่าดับ โดยมีดุลการค้าคาดการณ์ขาดดุล อยู่ที่ 780 ล้านเหรียญฯ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities