ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำโลกเดินหน้าทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ใหม่ต่อเนื่องทำไฮสูงสุดที่ 2,790 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศขายออกทะลุบาทละ 44,400 เนื่องจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงตลาดยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. อีกทั้ง อีกทั้งจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ เผชิญกับการขาดดุลงบประมาณจำนวนมากยังทำนักลงทุนยังเลือกถือครองทำเพิ่มขึ้น ปัจจัยทั้งหมดดังกล่าวยังหนุนแรงซื้อทองคำในระยะนี้
สำหรับสัปดาห์นี้นักลงทุนจะจับตานโยบายการเงินของเฟด ผ่านข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทั้ง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment) รวมถึงรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อีกทั้งแนวโน้มผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับทิศทางทางดอกเบี้ยสหรัฐในมุมของนักลงทุนปัจจุบัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนหน้า อ้างอิง CME's Fed Watch นักลงทุนให้น้ำหนัก 94% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
Ausiris คาดการณ์ว่าระยะยาวราคาทองคำจะยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 จากการที่กระแสเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนอย่างมากด้านเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้งสงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้ราคาทองโลกมีโอกาสแตะ 3,000 เป็นอย่างน้อยในระยะ 6- 12 เดือนข้างหน้า
การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:
ต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ลดลง: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย เช่น เงินฝากหรือพันธบัตร จะลดลง ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสกุลเงินอื่น ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าของเงินลงทุน ตัวอย่างจากอดีต: ช่วงปี 1995 - 1999, 2001 - 2004, และ 2007 - 2015: ในช่วงเวลาเหล่านี้ เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะกลางถึงระยะยาวหลังจากการลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างการลดดอกเบี้ยของเฟดและราคาทองคำ ไม่ใช่กฎตายตัว และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในทองคำควรพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงอย่างเดียว
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแรงซื้อต่อเนื่องหลังเปิดตลาดในช่วงเช้า สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกบาทละ 44,550-44,600 บาท สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลาง-ยาว ยังเรียงตัวในทิศขึ้นอยู่ แนวโน้ม Sideway up และการเบรคแนวต้าน 2758 มาได้ทำให้ขาขึ้นกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งโดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2780-2,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะระวังในเรื่องของสัญญาซื้อมากในโซนดังกล่าวอาจทำให้มีแรงเทขายสลับออกมา
ราคาสูงสุดต่ำสุดของราคาทองโลกเมื่อวานนี้
สูงสุด 2,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุด 2,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,770/2,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,790/2,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 44,350/44,150บาท
แนวต้าน 44,500/44,700บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
1. Core PCE Price Index m/m เวลา 19.15น. คาดการณ์บวกต่อทอง
2. Unemployment Claims เวลา 19.15น. คาดการณ์บวกต่อทอง
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 889.78 ตัน (-1.72ตัน)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.75-5.00%
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง