ประเมินจาก FEDWATCH TOOL ที่แสดงความน่าจะเป็น 63% คาดว่า FED จะปรับลดอกเบี้ย 0.5% และหากมีการปรับลด 0.5% จริง ก็มีโอกาส ที่จะทำให้เงิน USD อ่อนค่าต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้เงินบาทแข็งค่า และ FUND FLOW มีโอกาสไหลเข้าตลาดการเงินบ้านเราต่อ และในอีกทาง หนึ่งก็อาจสร้างแรงกดดันให้ กนง. ที่จะประชุมเดือน ต.ค.67 มีโอกาสปรับ ลดดอกเบี้ยลงไปได้ โดยภาพรวมถือว่าเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ส่วน ประเด็นอื่นที่อยู่ในความสนใจ เป็นเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาล ซึ่งวานนี้มี ครม. เห็นชอบการอัดฉีดเม็ดเง น 10000 บาท ให้กับ กลุ่มเปราะบาง คิดเป็นเม็ดเงินรวม 1.45 แสนล้านบาท พร้อมมีการจัดตั้ง บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ มาขับเคลื่อนมาตรการ ส่วนการเติบโต GDP ปี 2567 กระทรวงการคลังคาดอยู่ที่ 3% YOY เป็นไปได้ที่การเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้อาจเป็นการผันผวนใน กรอบแคบ รอดูผลประชุม FED ส่วนระยะต่อไปเชื่อว่ายังอยู่ในขาขึ้น วันนี้ คาดกรอบ 1426 –1440 จุด TOP PICK เลือก ADVANC, AOTและ AP
FED ลดดอกเบี้ยรอบนี้ (สักที) เสี่ยง RECESSION ? วานนี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ชุดล่าสุดออกมา ทั้งยอด RETAIL SALES และ INDUTIAL PRODUCTION ยังสูงกว่าคาด ซึ่งยังไม่ได้สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัวลง แรงอย่างมีนัยฯ อย่างไรก็ตามคืนนี้ตี 1 (ตามเวลาประทศไทย) รอติดตามการประชุม FED ครั้งที่ 6/2567 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี ขณะที่ FEDWATCH TOOL แสดงความน่าจะเป็น 63% ที่มองว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยแรง 0.5% ส่วน CONSENSUS คาด FED ลดดอกเบี้ยครั้งนี้ที่ 0.25%
ในกรณีที่ FED เร่งปรับลดดอกเบี้ยลงแร็วและแรง อาจตามมาด้วยความเสี่ยงในการ เกิดเศรษฐกิจ RECESSION ในสหรัฐฯ โดยจากสถิติในอดีต รอบการปรับลดดอกเบี้ย ครั้งแรกในอัตรา 0.5 % และหลังจากนั้น 6 เดือน ดอกเบี้ยร่วงลงแรงอย่างรวดเร็ว มักจะ ตามมาด้วยเศรษฐกิจชะลอตัวแบบ HARD LANDING แต่ในทางกลับกันหากดอกเบี้ย ปรับลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ สะท้อน FED ทำ SOFT LANDING สำเร็จ
การทยอยปรับลดดอกเบี้ยในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว บวกกับเงินบาทที่แข็งค่าอย่าง รวดเร็ว (แม้จะเป็นผลดีต่อการเรียกความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน แต่ในเชิงเศรษฐกิจมัก กระทบภาคส่งออก) เป็นปัจจัยหนุนให้บ้านเรามีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับลด ดอกเบี้ย เพิ่มคาดหวังว่าจะเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้ง ราว 0.25% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนตาม BOND YIELD ไทยอายุ10 ปี ลดลงมาแตะ 2.5% ครั้งแรก ในรอบ 4 เดือน
สรุป คืนนี้ตี 1 (ตามเวลาประทศไทย) รอติดตามการประชุม FED ซึ่งคาดว่าจะเป็น จุดเริ่มต้นของการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยในกรณีที่มีการลดดอกเบี้ย ลงแรงและเร็ว อาจส่งสัญญาเศรษฐกิจชะลอตัวแบบ HARD LANDING แต่ถ้าดอกเบี้ย ลดลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ สะท้อน FED ทำ SOFT LANDING สำเร็จ
รัฐบาลลุยฟื้นเศรษฐกิจ หนุน GDP GROWTH โต 3% วานนี้การประชุม ครม.นัดแรก มีรายละเอียดอะไรบ้าง มาดูกัน
• ครม.อนุมัติกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน 10,000 บาท 14.5 ล้านคน ให้ถือบัตร สวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนพิการ รวม 1.4 แสนล้านบาท เริ่มจ่าย 25 ก.ย.67
• ตั้ง "บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ" (คาดเสร็จภายในสัปดาห์นี้) พิจารณาแผน เศรษฐกิจปลายปี เล็งออกมาตรการของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
• "กระทรวงการคลัง" เตรียมขยายขนาดกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขัน ดึงอุตสาหกรรมเป้าหมาย ลงทุนในประเทศเพิ่มเติม
• การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท/วัน เริ่ม 1 ต.ค. 67
ขณะที่ในมุมของภาคท่องเที่ยว ถือว่ายังดูดี โดยภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยว ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.ย. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม รวมทั้งสิ้น 24.8 ล้านคน เติบโต 31%YOY ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวมีโอกาสเติบโตขึ้นอีก ตามการ เข้าสู่ช่วง HIGH SEASON ในไตรมาส 4 และ รมว.การท่องเที่ยวฯ เตรียมนัดถก ภาคเอกชนท่องเที่ยวกว่า 20 หน่วยงานในวันนี้ โดยเล็งปัดฝุ่นโครงการ "เราเที่ยว ด้วยกัน" ดันรายได้ท่องเที่ยวสู่ระดับ 3 ล้านล้านบาท
ประเด็นดังกล่าว คาดหนุนให้ GDP GROWTH ไทยปีนี้มีโอกาสแตะ 3% ดังที่ปลัด กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งหาก GDP GROWTH ปีนี้โต 3% จริงดังคาด ทำให้ ช่วง 2H67 จะต้องเติบโตสูงถึง 4.1%YOY
สรุป 2H67 ช่วงที่ดีของตลาดหุ้นไทย ด้วยการฟื้นตัวของ GDP GROWTH ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ดังที่ประชุม ครม.วานนี้
SET อาจชะลอหน่อย รอดูฟ้าฝนจากปัจจัยภายนอก ในช่วงที่ผ่านมา SET INDEX ถูกขับเคลื่อนด้วย FUND FLOW ต่างชาติที่ซื้อสุทธิ ติดต่อกัน 8 วันทำการ ด้วยมูลค่าสูงถึง 2.8 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากนี้คาดว่า FUND FLOW อาจชะลอช่วงสั้นๆ ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้
▪ วานนี้ต่างชาติสลับมาขายสุทธิ -416 ล้านบาท และยังขายสุทธิผ่าน NVDR อีก -848 ล้านบาท หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกัน 8 วันทำการ
▪ ค่าเงินบาทมีการชะลอการแข็งค่าช่วงสั้น หรืออ่อนค่าเล็กน้อย โดยค่าเงินบาท เคยย่อตัวลงไปใกล้ๆ 33 บาท/เหรียญ แต่ปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 33.35 บาท/เหรียญ ส่งผลให้ต่างชาติอาจชะลอการลงทุนบ้าง
▪ นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุน เพื่อรอดูทิศทางการลดดอกเบี้ยของ FED ในคืนนี้ซึ่งน่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี และประเมิน DOT PLOT ว่ามีมุมมองตอนโยบายการเงินในช่วงถัดไปอย่างไร
ทั้ง 3 ปัจจัยแวดล้อมภายนอก แสดงให้เห็นว่า FUND FLOW มีโอกาสชะลอการไหลเข้า และกดดันตลาดหุ้นไทยในช่วงสั้นๆ ได้ แต่ภาพรวมปัจจัยภายใน SET INDEX ยังโอเค มี โอกาสผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นโลก จากแนวโน้มกำไรมีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัว ของศรษฐกิจ และยังมีเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ทยอยเข้ามาหนุนในระยะถัดไป
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities