ทองคำโลกพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง รับคาดการณ์เฟดลดดอดเบี้ยสัปดาห์นี้
ข่าวสารทองคำประจำวัน
ทองคำโลกปิดลบครั้งแรกหลังราคาทองทะยานปิดบวก 3 วันติดต่อกัน แต่ยังคงเคลื่อนไหวใกล้จุด All Time High โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จากรายงาน ยอดค้าปลีก และ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม ในเดือนสิงหาคม ที่ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ตามดอลลาร์แข็งค่าไม่ได้มากนัก จากแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจมากถึง 0.50% ในคืนนี้ ล่าสุดในมุมมองของนักลงทุนในตลาดอ้างอิง Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมคืนนี้และให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันดังกล่าว
ขณะที่มุมมองของ MyGOLD Plus Investment research Dept มองว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% และหากว่าเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง อาจเห็นการปรับตัวขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ซึ่งจะกดดันทั้งราคาทองคำได้ กลับกันหากผลออกมาเชิงตรงกันข้ามทองมีโอกาสทะลุ 2,600 ดอลลาร์ต่ออนซ์
ในอดีต การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:
ต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ลดลง: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย เช่น เงินฝากหรือพันธบัตร จะลดลง ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสกุลเงินอื่น ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าของเงินลงทุน ตัวอย่างจากอดีต: ช่วงปี 1995 - 1999, 2001 - 2004, และ 2007 - 2015: ในช่วงเวลาเหล่านี้ เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะกลางถึงระยะยาวหลังจากการลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างการลดดอกเบี้ยของเฟดและราคาทองคำ ไม่ใช่กฎตายตัว และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในทองคำควรพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงอย่างเดียว
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,570 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกบาทละ 40,650 บาท สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น โดยยังคงเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายและยังเคลื่อนไหวในกรอบคู่ขนานขาขึ้น มองว่ายังมีโอกาสทำ All Time High
แต่ควรระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคเนื่องจากราคาราคาทองเข้าเขตซื้อสูง Overbought ราคาทองมีโอกาสดิ่งแรงหากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณ และลดดอกเบี้ยได้ตามตลาดคาดหวัง
ราคาสูงสุดต่ำสุดของราคาทองโลกเมื่อวานนี้
สูงสุด 2,587 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุด 2,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,560/2,535 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,590/2,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 40,500/40,250บาท
แนวต้าน 40,750/41,150บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 872.23 ตัน(คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50%
บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย MyGOLD Plus Investment research Dept.