ราคาทองคําวันนี้ (11 ก.ย.) มีการปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับสูงสุดในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีแรงหนุน จากการปรับตัวลง ของค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ เนื่องด้วยนักลงทุนให้น้ําหนักต่อคาดการณ์ขนาดการปรับลด อัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ 1.25% ภายในสิ้นปีนี้ และที่ 2.50% ในระยะอีก 1 ปีข้างหน้า ซึ่งหมายถึงเฟดอาจมีการปรับลด อัตราดอกเบี้ยลงที่ 0.50% ในการประชุม 2 จาก 3 ครั้ง หลังจากนี้ กระแสคาดการณ์ดังกล่าว ถูกชี้นําจากความกังวล ต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังตลาดแรงงานสหรัฐส่อแววอ่อนแอลง ประกอบกับความคืบหน้าในกระบวนการปรับตัวลง ของเงินเฟ้อสหรัฐ โดยการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ของสหรัฐ ในคืนนี้ เวลา 19:30 น. ถูกคาดว่า จะเพิ่มขึ้นที่ 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ชะลอตัวลงต่อจากเดือนก่อนหน้า นักลงทุนจึงมีการประเมินว่า เฟดอาจสามารถ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากได้ ซึ่งกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับต่ําสุดใน รอบเกือบ 18 เดือน เงินดอลลาร์จึงมีแรงกดดันให้ปรับตัวอ่อนค่าลงตาม อีกทั้งในบ่ายวันนี้ จุนโกะ นาคากาวะ หนึ่งใน คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ออกมาย้ําถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ของ BOJ หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีพัฒนาการตามที่ประเมินไว้ หนุนให้เงินเยนดีดตัวขึ้น เพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคําจึงได้รับแรงหนุนเพิ่มสูงขึ้น อนึ่ง ประเด็นขนาดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้นยังมีความไม่แน่นอน ด้วยเหตุนี้ แนะนําติดตามการเปิดเผย CPI ของสหรัฐ และกระแสคาดการณ์ของตลาดในประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
คําแนะนํา
• ขายเพื่อทํากําไรระยะสั้น หากราคาไม่ผ่านแนวต้านโซน 2,526-2,532 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• รอซื้อคืนทํากําไร หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 2,493-2,470 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านระดับ 2,532 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th