บ่อยครั้งที่หุ้นไบโอเทคบางตัวพุ่งทะยานเกินความคาดหมายและดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอย่างมาก ซึ่งสัปดาห์นี้มันเกิดขึ้นกับ Longeveron LLC (NASDAQ:LGVN) เนื่องจากคาดว่าจะมีการรักษาภาวะหัวใจซ้ายเล็กไม่สมบูรณ์ (HLHS) ในการทดลองระยะที่ 2 ในระยะทดลองครั้งนี้ ทำให้บริษัทได้รับมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 234% ในสัปดาห์นี้
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่นักลงทุนได้รับคำเตือนว่าแม้จะมีความเสี่ยงสูงในภาคไบโอเทคเนื่องจากความซับซ้อน แต่หุ้นเหล่านี้ก็สามารถเลียนแบบประสิทธิภาพของเหรียญคริปโตได้ นอกจากนี้ยังมีหุ้นไบโอเทคมากมายที่อยู่ในหมวดหุ้นมูลค่าขนาดเล็ก ทำให้สามารถย้ายมูลค่าตลาดได้ง่ายขึ้น
ดัชนี S&P Biotechnology Select Industry แสดงผลตอบแทนที่ 5% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งต่ำกว่าตลาดหลัก S&P 500 เกือบ 3 เท่า แต่หุ้นไบโอเทคตัวใดที่จะสามารถดีดตัวออกจากการขาดประสิทธิภาพได้ชั่วคราวเหมือนกับ Longeveron
Arvinas
บริษัท Arvinas Inc (NASDAQ:ARVN) จาก Connecticut กำลังผลักดันขอบเขตด้วยเทคโนโลยี PROteolysis TArgeting Chimeras (PROTAC) ของตนเพื่อปูทางไปสู่แนวทางการรักษาใหม่ ๆ ในกรณีของการติดเชื้อ HIV เทคโนโลยีนี้แสดงถึงความหวังในการก้าวไปอีกขั้นด้วยการลดจำนวนของไวรัสแทนที่จะเพียงแค่กดเชื้อด้วยยาต้านไวรัส
พูดง่าย ๆ ก็คือ ขอบเขตที่กำลังบุกเบิกไปนี้จะทำลายโปรตีนที่เชื่อมโยงกับโรคร้ายแรงและหายากหลายชนิด Arvinas ใช้แพลตฟอร์ม Protac Discovery Engine ของตนในการพัฒนากลุ่มยาสำหรับมะเร็งวิทยา ภูมิคุ้มกันมะเร็ง และโรคหายากที่เกี่ยวกับการอักเสบ
ปัจจุบัน Arvinas ผ่านการยื่นขอยาใหม่เพื่อการทดลอง (IND) ARV-393 สำหรับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด non-Hodgkin และ ARV-102 สำหรับโรคประสาทเสื่อม เช่น โรคพาร์กินสันและ PSP ยาหลักของ Arvinas สำหรับมะเร็งเต้านม vepdegestrant (ARV-471) ก็กำลังพัฒนาร่วมกับ Pfizer (NYSE:PFE) ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะได้รับการวางจำหน่ายทั่วโลก
Arvinas ยังแสดงผลการดำเนินงานที่น่าสนใจกับ ARV-766 สำหรับมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งแนวทางการทำลายโปรตีนของบริษัทต่อโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ก่อนหน้านี้ดูนั้นเหมือนจะให้ผลลัพธ์ที่ดี
หุ้น ARVN ลดลง 38% ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากบริษัทยังไม่สามารถสร้างกำไรได้ ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 26.45 ดอลลาร์ สูงกว่าราคาต่ำสุดใน 52 สัปดาห์ที่ 13.57 ดอลลาร์และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยใน 52 สัปดาห์ที่ 30.83 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Ocuphire Pharma
อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าโรคอ้วนถือเป็นปัญหาใหญ่ในโลกที่พัฒนาแล้ว หนึ่งในผลกระทบของความอ้วนคือโรคเบาหวาน ผู้ป่วยเบาหวานต้องเผชิญกับปัญหาจอประสาทตาเสื่อมจากเบาหวาน (DR) และจอประสาทตาบวมน้ำจากเบาหวาน (DME) ซึ่ง DR เพียงอย่างเดียวก็มีผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 9.6 ล้านคน โดยมีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสี่ของกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานขึ้นอยู่กับอายุ
ทำให้ Ocuphire Pharma Inc (NASDAQ:OCUP) มีตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ ในรูปแบบของยารับประทาน APX3330 สามารถรักษา DR ไปจนถึงระยะที่ 2 (EOP2) และได้ยื่นขอการประเมินโปรโตคอลพิเศษ (SPA) กับ FDA Ocuphire ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มการจะทดลอง ZETA-2 ระยะที่ 2/3 สำหรับ APX3330 ในต้นปี 2025
กลุ่มยาจอประสาทตาของ Ocuphire อยู่ในขั้นตอนการสำรวจ บริษัทมี APX2009 สำหรับการเสื่อมทางภูมิศาสตร์และ APX2014 เป็นยารุ่นที่สองสำหรับการรักษาโรคจอประสาทตา เช่น โรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ Ocuphire จะเริ่มการทดลอง ZETA-2 ระยะที่ 2/3 สำหรับ APX3330 ในต้นปี 2025
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แนวทางของ Ocuphire ก็คือการมุ่งเน้นไปที่โดเมนเฉพาะผ่านตัวยับยั้งโมเลกุลขนาดเล็ก แต่โดเมนนี้มีตลาดที่มีศักยภาพขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีหุ้น OCUP ลดลง 45% มาอยู่ที่ 1.68 ดอลลาร์ต่อหุ้น หุ้นของ OCUP ร่วงลงเกือบครึ่งจากค่าเฉลี่ยใน 52 สัปดาห์ที่ 2.90 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าราคาสูงสุดใน 52 สัปดาห์ที่ 4.58 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Rocket Pharmaceuticals
ถ้า AI นั้นเป็นตัวแทนของนักลงทุนในโลกเทคโนโลยี การบำบัดด้วยยีนก็ถือเป็นตัวแทนในโลกเภสัชกรรมเช่นกัน Rocket Pharmaceuticals Inc (NASDAQ:RCKT) ใช้วิธีการหลายแพลตฟอร์มที่ตั้งอยู่ในนิวเจอร์ซีย์ โดยผสมผสานการบำบัดด้วยยีนใน vivo lentiviral (LV) และ vivo adeno-associated viral (AAV)
บริษัทซึ่งเน้นด้านโลหิตวิทยา (โรคเลือด) และหัวใจกับหลอดเลือด (โรคหัวใจ) ได้ยื่นคำขออนุมัติตลาด (MAA) สำหรับ LV RP-L102 เพื่อรักษาโรคโลหิตจาง Fanconi ในวันที่ 30 มิถุนายน โดย FDA มีกำหนดการณืจะตอบสนองต่อคำขอของบริษัทสำหรับ LV KRESLADI ในการรักษาภาวะ Leukocyte Adhesion Defence-I (LAD-I) อย่างรุนแรง
RCKT มีแนวโน้มที่จะกลับไปสู่ระดับสูงสุดประจำปีหากการตอบสนองเป็นบวก ในระหว่างนี้ หุ้น RCKT ยังคงลดลงที่ 25% ตั้งแต่ต้นปี ที่ราคาปัจจุบัน 22.86 ดอลลาร์ ราคาหุ้น RCKT นั้นสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยใน 52 สัปดาห์ของตน แต่ยังคงต่ำกว่าราคาสูงสุดใน 52 สัปดาห์ที่ 32.52 ดอลลาร์ต่อหุ้น