🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

FED นิ่ง ... กนง. นิ่ง ... FX น่าจะสวิงน้อยลง 

เผยแพร่ 13/06/2567 09:24
SETI
-

ผลการประชุมของทั้ง FED และ กนง. วานนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 5.5% และ 2.5% ตามลำดับ แต่ที่เราเห็นว่าสำคัญกว่าคือการส่ง สัญญาณของดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตที่ชัดเจน และมีความนิ่งมากขึ้น กล่าวคือ DOT PLOT ประเมินว่า FED จะลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปี 2567 ขณะที่ กนง. ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย ท่าทีดังกล่าวเป็นการลดระดับความ ไม่แน่นอนของทิศทางดอกเบี้ย และเมื่อพิจารณาร่วมกับทิศทางเงินเฟ้อที่อยู่ ภายใต้การควบคุมแล้ว เราเชื่อว่าน่าจะส่งผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความ ผันผวนน้อยลง (FX RISK ลดลง) อาจเป็นผลดีต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน ระหว่างประเทศ ส่วนประเด็นการเมืองในบ้านเราจุดสนใจอยู่วันที่ 18 มิ.ย. โดยศาลรัฐธรรมนูญให้ ผู้ถูกร้องกรณี พรรคก้าวไกล และ นายกฯเศรษฐา ยื่นบัญชีพยานที่ต้องการให้สอบ

ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้มีน้ำหนักค่อนไปทางบวกเล็กน้อย แต่ก็ยัง มีความกังวลเรื่องการเมืองรออยู่ คาด SET INDEX แก่วงตัวในกรอบ 1310 –1325 จุด TOP PICK เลือก CK, CPN และ KBANK (BK:KBANK)

ปัจจัยภายนอกดี ภายในขมุกขมัว แล้ว SET จะไปไหน?

เช้านี้ และวานนี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นได้ดี หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของ สหรัฐฯ เดือน พ.ค.67 ออกมา +3.3%YOY ต่ำกว่าตลาดคาด และงวดก่อนหน้าที่ ระดับ +3.4%YOY ขณะที่หากเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี CPI ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือน พ.ค.67 หรือ +0.0%MOM ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ +0.1%MOM ประเด็น ดังกล่าวจึงทำให้ตลาดมั่นใจว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.67 และจะปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.67 หนุน DOWJONES พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด หรือบวกเกือบ 1%ในช่วงตลาดฯเปิด

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ FED มีมติคง อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมคืนที่ผ่านมาตามคาด แต่ได้ปรับ การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (DOT PLOT) ลงเหลือเพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมครั้งก่อนหน้า จาก เหตุผลที่ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวสูงกว่าคาด การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ บวกกับแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงในช่วง ที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป จากเป้าหมายของ FED ที่ตั้งไว้ระดับ 2% ประเด็นนี้จะหนุนให้ค่าเงินบาทค่อยๆ มีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากทิศทางการลด ดอกเบี้ยของไทยจะช้ากว่าสหรัฐในช่วง 1 –2 ปีข้างหน้า

ส่วนประเทศไทยก็มีความไม่แน่นอนทางการเมืองต่อไป โดยจุดชี้ชะตาของการ เมืองไทย คือ วันที่ 18 มิ.ย.67 เนื่องจากมี 4 คดีที่จะดำเนินการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณา "คดียุบก้าวไกล” สั่งยื่นบัญชีพยานเพิ่ม

• ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณา “คดี 40 ส.ว.ยื่นถอดถอนนายกเศรษฐา" สั่ง ยื่นบัญชีพยานเพิ่ม

• ศาลรัฐธรรมนูญ นัดชี้ขาด คำร้องพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ขัดต่อ รัฐธรรมนูญหรือไม่

• อัยการนัดนำตัว"อดีต นายกฯ ทักษิณ"ส่งฟ้องศาลคดี ม.112

ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าในช่วงเวลานี้ SET INDEX จะเกิด OVERHANG และไร้ซึ่งปัจจัยหนุน อย่างมีนัยฯต่อไป จึงทำให้ FUND FLOW ต่างชาติยังไม่น่าจะไหลเข้าในช่วงเวลา ดังกล่าว กดดันให้ดัชนีกลับไปยืนเหนือระดับ 1330 จุดได้ยาก ส่วนวันนี้คาดกรอบ การเคลื่อนไหวของ SET INDEX ในกรอบ 1310-1325จุด

สรุป แม้ตัวเลข CPI สหรัฐฯจะออกมาต่ำคาด แต่ FED ยังมองว่าสูงกว่ากรอบ เป้าหมายที่ระดับ 2% จึงปรับลด DOT PLOT ลงเหลือ 1 ครั้งในปีนี้จากเดิม 3 ครั้ง ส่วนการเมืองไทยที่ยังหาแนวทางที่ชัดเจนไม่เจอ รอลุ้นความคืบหน้า 18 มิ.ย.67 จึง ทำให้ในปัจจุบัน SET INDEX เกิด OVERHANG และไม่มีแรงขับเคลื่อนอย่างมีนัยฯ จาก FUND FLOW

กนง. เสียงแตกน้อยลง...มีมติคงดอกเบี้ย 2.5%

วานนี้ กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลด ดอกเบี้ย 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำลง และจะมี ส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง

อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5% กนง. มองว่าอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการขยายตัว ของเศรษฐกิจเข้าสู่ศักยภาพและเงินเฟ้อที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งเอื้อต่อรักษาเสถียรภาพ เศรษฐกิจและการเงินในระยะยาว

สำหรับมุมมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง คาด +2.6% ในปี 2567 และ +3.0%ในปีหน้า จาก อุปสงค์ในประเทศ (C สูงกว่า 1Q67) และภาคการท่องเที่ยว บวกกับเบิกจ่ายภาครัฐเร่งตัวขึ้นใน 2Q67 (G) ขณะที่การส่งออกขยายตัวในระดับ ต่ำจากปัญหาเชิงโครงสร้าง ส่วนเงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับขึ้นและประเมินว่าจะกลับ เข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ตั้งแต่ 4Q67

คาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2567 ของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ มีทิศทางที่ สอดคล้อง โดย GDP GROWTH บ้านเราอาจเติบโตราว 2.4% - 2.7% ทำให้ในช่วง 2Q67 เป็นต้นไปมีโอกาสเห็นเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องแบบขั้นบันได้ ทั้งนี้ BLOOMBERG ประเมิน GDP GROWTH ไทยใน 2Q67 +2.1%YOY, 3Q67 +2.5%YOY, 4Q67 +3.8%YOY ภายใต้สมมติฐานตลอดปี 2567 โต +2.6%YOY

สรุป วานนี้ กนง. มีมติคงดอกเบี้ย 2.5% โดยมีเสียงแตกน้อยลง 6:1 (จากเดิม 5:2) หลังมีมุมมอง่วาเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และเงินเฟ้อปรับดีขึ้น ซึ่งอาจ เป็นสัญญาณการตรึงดอกเบี้ยตลอดทั้งปีนี้ สวนทาง FED ที่มีแนวโน้มปรับลด ดอกเบี้ยอย่างน้อยๆ 1 ครั้ง อย่างไรก็ดีถือเป็นผลบวกต่ออัตราแลกเปลี่ยน ที่ความ เสี่ยงจากความผันผวนมีโอกาสต่ำลง และน่าจะทำให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่าง ประเทศง่ายขึ้น

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานดี อิงเศรษฐกิจทะยอยฟื้นตัว KBANK BBL BJC CPALL (BK:CPALL) CPAXT HMPRO CRC JMART ADVANC AOT (BK:AOT) ERW STEC CK

ตลาดหุ้นไทยขาดความเชื่อมั่น สะท้อนจาก P/E ที่ลดลงเรื่อยๆ

วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐ NASDAQ ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และปรับขึ้นมาแล้วกว่า 17%YTD ซึ่งหุ้นใหญ่ที่ได้รับความสนใจอันดับต้นๆ คือ NVIDIA +154%YTD จนมี TRAILING P/E สูงถึง73เท่า และภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐคึกคักจนนักลงทุนยอมซื้อ ขายบน P/E ที่สูง และสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดตลาด NASDAQ มีTRAILING P/E สูง 42.7 เท่า และ FORWARD P/E 31.7 เท่า

กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย SET INDEX ปรับตัวลงแรงมาก โดยปี 2024 ปรับตัวลงมาแล้ว -7%(YTD) ต่อเนื่องจากปี 2023 ที่ -15% จนมี TRAILING P/E เหลือเพียง15.7เท่า และ FORWARD P/E 14.08 เท่า เท่านั้น และที่สำคัญคือ ตลาดหุ้นไทยถูกซื้อขายบน P/E ที่ต่ำลงมาเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนในไทยและต่างประเทศ ขาดความ เชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยอยู่ทั้งในช่วงนี้และช่วงที่ผ่านมา โดยยอมซื้อขายหุ้นไทยในราคาที่ ถูกลงเมื่อเทียบกับกำไรที่ทำได้มาตลอดทาง

ประเด็นดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า VALUATION ตลาดหุ้นไทยที่ถูกลงมา ยังไม่จูงใจพอ ให้นักลงทุนกลับมาสนใจซื้อหุ้นไทยได้เหมือนในอดีต และยังเทียบไม่ได้กับความคึกคัก ในตลาดหุ้นสหรัฐ

ดังนั้นการออกกฎเกณฑ์เสริมเสถียรภาพให้ตลาดฯ มีความจำเป็นมากในช่วงเวลา แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม SHORT SELL, UPTICK RULE, DPB (DYNAMIC PRICE BAND) รวมถึงการออกกองทุน LTF ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ น่าจะเหมาะสม และช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย