รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

VOLUME หาย กดดัน SET ขยับขึ้นได้ยาก

เผยแพร่ 29/03/2567 09:42

วันนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศหยุดทำการชั่วคราวถึง 59 ประเทศ โดยมีตลาดหุ้น ใหญ่ๆ ที่หยุดทำการต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 70% ของ MARKET CAP ทั่วโลก กดดันให้มูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยยังเบาบางต่อ และ SET ขยับขึ้นได้ ยาก เพราะปกติเวลามูลค่าซื้อขายตลาดหุ้นไทยต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน มัก ผลักดัชนีขึ้นได้น้อยและมักจะย่อตัวมากกว่าปกติขณะที่วันนี้ติดตามตัวเลข PCE เดือน ก.พ.67 ของสหรัฐฯ ที่ตลาดคาดอยู่ที่ +2.5% อาจเป็นการเพิ่มขึ้นจาก เดือนก่อนครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 66 เป็นต้นมาซึ่งต้องติดตามว่าผลลัพธ์จะ เป็นเช่นไร และจะทำให้ทิศทางดอกเบี้ยของ FED เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ในส่วนของ ไทยมีตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ก.พ.67 คาดพลิกกลับมาเป็น +1,300 ล้าน เหรียญฯ (เดือนก่อนอยู่ที่ -200 ล้านเหรียญ) ในส่วนถัดมากระทรวงการคลัง เตรียมขยายการลดค่าโอน และจดจำนอง บ้านราคาเกิน 3 ล้านบาท คาดหนุนให้ หุ้นกลุ่มอสังหาฯ กลับมาคึกคักช่วงสั้น ซึ่งหุ้นอสังหาฯที่คาดได้ประโยชน์และฝ่าย วิจัยฯ ชื่นชอบมากสุดในขณะนี้คือ AP และ SPALI

ส่วนของ SET INDEX วันนี้คาดแกว่งทรงตัวในกรอบแคบ 1365-1377 จุด ตาม มูลค่าการซื้อขายที่คาดเบาบาง และหาก SET จะขยับขึ้นได้ต้องพึ่งFUND FLOW ต่างชาติเป็นหลัก ส่วนหุ้น TOP PICK วันนี้เลือก JMART, BGRIM, CBG

มูลค่าซื้อขายเบาบางต่อไปอีก 2 วัน

วันนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศหยุดทำการชั่วคราวถึง 59 ประเทศ เนื่องจากเป็นวัน GOOD FRIDAY และหยุดต่อในวันจันทร์ อีก 44 ประเทศ เนื่องจากเป็นวันอีสเตอร์

โดยมีตลาดหุ้นใหญ่ๆ ที่หยุดทำการต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 70% ของ MARKET CAP อาทิ ตลาดหุ้นสหรัฐ, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, เยอรมนี, ฮ่องกง เป็นต้น

ัจจัยดังกล่าวกดดันให้ SET ขยับขึ้นได้ยาก เพราะปกติเวลามูลค่าซื้อขายตลาดหุ้น ไทยต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท/วัน มักผลักดัชนีขึ้นได้น้อยและมักจะย่อตัวมากกว่า ถ้าจะ ให้ดีต้องมีมูลค่าซื้อขายกลับไปเกิน 5 หมื่นล้านบาท/วัน สะท้อนได้จากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ที่มูลค่าซื้อขายมักแปรผันตามผลตอบแทนของดัชนี

ดังนั้น SET INDEX ในช่วง 1 – 2 วันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1365 – 1377 จุด ตามมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง ส่วน TOPPICK วันนี้ แนะนำ JMART, BGRIM, CBG

คลัง จ่อขยายการลดค่าโอน-จดจำนอง บ้านเกิน 3 ล้านบาท

รมว. ช่วยว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณา มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ จากเดิม 2%เหลือ 1%และค่าจดจำนองจากเดิม 1% เหลือ 0.01% ที่ปัจจุบันให้เฉพาะที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะทำการขยาย ให้สำหรับที่อยู่อาศัยราคาเกิน 3 ล้านบาทมีสิทธิเข้าร่วมมาตรการด้วย โดยให้สิทธิ เฉพาะ 3 ล้านบาทแรกเท่านั้น รวมถึงขยายราคาบ้านในโครงการบ้านล้านหลังเฟส 3 ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ปัจจุบันให้กู้ต่อรายไม่เกินราคา 1.5 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท ให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน และเพื่อสนับสนุนให้ ประชาชนมีที่อยู่อาศัยมากขึ้น (อิงจากแหล่งข่าวมติชนออนไลน์ ณ 28 มี.ค. 2567)

ือเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย สำหรับการพิจารณาขยาย มาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนฯ-จดจำนองให้กับบ้านที่ราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มเติม แม้ให้สิทธิเฉพาะในส่วน 3 ล้านบาทแรกก็ตาม แต่ก็ถือว่าครอบคลุมตลาดในวง กว้างมากขึ้น เนื่องจากตลาดบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นกลุ่มราคาที่คิดเป็น สัดส่วนไม่เกิน 30% ของมูลค่าทั้งตลาดรวม ดังนั้นการขยายกรอบราคาบ้านสูงขึ้น ย่อมสร้างประโยชน์ให้กับฝั่งผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่ม ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ บางส่วน ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET ซึ่งส่วนใหญ่มีพอร์ต สินค้าราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป ก็จะได้รับอานิสงค์จากมาตรการดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยเป็นส่วนช่วยให้ BACKLOG รวมสิ้น 4Q66ระดับ 2.05แสนล้านบาท (รวม JV 7.3หมื่นล้านบาท) เป็นส่วนที่พร้อมส่งมอบปีนี้ราว 1.13แสนล้านบาท และ ที่เข้าข่ายเกณฑ์ ราคาตามมาตรการสามารถโอนฯ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการระบายสต๊อกคง ค้างของผู้ประกอบการที่มีอยู่รวมเกือบ 8แสนล้านบาท (เป็นสต๊อกคอนโดฯ สร้างเสร็จ 1.26แสนล้านบาท)

คงแนะนำลงทุนเท่าตลาดสำหรับกลุ่มฯ เลือกหุ้นเด่นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ ดังกล่าว, มีพอร์ตสินค้าหลากหลาย, การเงินแข็งแรง (NET GEARING ต่ำกว่า 1 เท่า) มีการเติบโตของกำไรปีนี้ และปันผลเกิน 6% ได้แก่ AP (FV@16.00) และ SPALI (FV@B27.30)

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ หลังจากนี้มีอะไรบ้าง ... มาดูกัน

หลังตลาดหุ้นไทยไร้ปัจจัยบวกหนุนช่วงสั้น จนทำให้มีมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง (รายละเอียดอยู่ในหัวข้อถัดไป) จึงทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจมีส่วนกำหนดทิศทางตลาดหุ้น มากขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• 29 มี.ค.67ไทย - ดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ก.พ.67 คาดพลิกกลับมาเป็นบวก ราว 1,300 ล้านเหรียญฯ (เดือนก่อนอยู่ที่-200 ล้านเหรียญ) ตามการฟื้นตัว ของจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีซึ่งน่าจะทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ สูงขึ้น ถือเป็นแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

• 29 มี.ค.67 สหรัฐฯ – ตัวเลข PCE DEFLATOR เดือน ก.พ.67 ที่ตลาดคาด เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ +2.5%YOY (เดือนก่อนอยู่ที่ +2.4%YOY) อย่างไรก็ ตาม หากดัชนีเงินเฟ้อ PCE ออกมาต่ำกว่าคาด หรือชะลอตัวลง เชื่อว่าจะเป็น แรงหนุนให้ FED นำไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 2Q67 นี้

• 31 มี.ค.67 จีน – PMI ภาคการผลิต เดือน มี.ค.67 ที่ตลาดคาดเพิ่มขึ้น เล็กน้อยอยู่ที่ 50.1 จุด (เดือนก่อนอยู่ที่ 49.1 จุด) ซึ่งจะเป็นระดับที่สูงกว่า 50 จุด ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และจะเป็นสัญญาณการฟื้นตัวในภาคการผลิต ของจีน

ขณะที่สัปดาห์หน้าตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอื่น คือ PMI ภาคการผลิต ของสหรัฐฯ, ตัวเลขเงินเฟ้อของยุโรป +2.6%YOY(เท่าเดิมกับเดือนก่อน) , ตัวเลขการ จ้างงานนอกภาคเกษตร (NONFARM-PAYROLL) ของสหรัฐฯ คาดอยู่ที่ 2.16 แสน ตำแหน่ง (ลดลงจากเดือนก่อน 2.75 แสนตำแหน่ง) และประชุม OPEC+

ในส่วนของไทย ก็มีตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศ คือ อัตราเงินเฟ้อเดือน มี.ค.67( ประกาศวันศุกร์หน้า) ซึ่งมีโอกาสสูงที่อัตราเงินเฟ้อจะติดลบน้อยลง หรือพลิกกลับมา เป็นบวกได้ จากการที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง และตัวเลขส่งออก-นำเข้ายังฟื้นตัว ต่อเนื่อง อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวยังทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องเช่นกัน และ ส่วนที่สำคัญ คือ การนำงบประมาณปี 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันพุธหน้า ทำให้คาดมีเม็ดเงินลงสู่ ระบบเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

ดังนั้น การที่ตัวเลขเงินเฟ้อมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น และ การเบิกจ่ายงบประมาณเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ และคาดมีผลบังคับใช้ช่วงต้นไตรมาส 2 คาดหนุนให้ GDP ไตรมาส 2 สดใสอีก ครั้ง ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่

1. หุ้นเกี่ยวกับการกลุ่มอุปโภค-บริโภค อาทิ CPALL (BK:CPALL) CRC BJC DOHOME

JMART MTC TIDLOR KTC เป็นต้น

2. หุ้นกลุ่มก่อสร้าง-วัสดุก่อสร้าง อาทิ STEC CK TTCL TASCO SCC SCCC

เป็นต้น

ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆที่น่าสนใจ คือ หุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง TOP SPRC BCP PTTEP PTT (BK:PTT) ที่ราคาหุ้นยัง LAGGARD กว่าราคาน้ำมัน WTI อยู่มาก และหุ้นกลุ่มส่งออกอย่าง STA NER ITC ASIAN AAI CPF TU ที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกของไทยฟื้นตัว ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย