รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทิศทางดอกเบี้ยโลก ชัดกว่าดอกเบี้ยไทย 

เผยแพร่ 22/03/2567 10:04

บนความคาดหมายว่าทั้ง FED, ECB และ BOE จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายในการประชุมรอบเดือน มิ.ย. หนุนให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงทองคำ ปรับตัวขึ้น ซึ่งประเมินว่ายังเห็น MOMENTUM ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง สำหรับใน บ้านเรา เชื่อว่ามีโอกาสเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเช่นกัน โดยที่จะมี การประชุม กนง. รอบถัดไปวันที่ 10 เม.ย.67 และถัดไปอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 12 มิ.ย.67 ซึ่งเป็นการประชุมวันเดียวกันกับ FED ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เงินบาท กำลังอ่อนค่าโดยล่าสุดทะลุระดับ 36 บาท/USD ขึ้นไปแล้ว ทำให้เราเริ่มเห็นโอกาส ที่จะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิ.ย.67 มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสที่จะเกิด ความผันผวนของค่าเงิน แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องชั่งน้ำหนักกับภาพรวมเศรษฐกิจ ที่เติบโตช้า และต่ำกว่าศักยภาพ อีกประเด็นหนึ่งที่รอดูผลคือการขยายเวลาซื้อ ขายตลาดหุ้นจาก 270 นาที เป็น 300 นาที ว่าจะช่วยเพิ่ม TURNOVER ได้หรือไม่

การดีดตัวขึ้นของ SET INDEX ทำให้SENTIMENT ระยะสั้นดูดีขึ้น และน่าจะเป็น การย้ำให้เห็นว่า DOWNSIDE ของตลาดฯ อยู่ในระดับที่จำกัด วันนี้ประเมินกรอบ 1378 –1392 จุด หุ้น TOP PICK เลือก JMART, TASCO และTU

ตลาดหุ้นคึกคัก หลังวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงปีนี้ชัดขึ้น

วานนี้ตลาดหุ้นโลกดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ปิดตัวในแดนบวกราว 0.2% - 1.1% ส่วนในฝั่งยุโรปขยับขึ้นแรงราว 0.2% -1.9% เนื่องจากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงใน ปีนี้ มีกรอบเวลาที่ชัดเจนมากขึ้น

ขณะที่วานนี้ การประชุม BOE รอบเดือน มี.ค. 67 มีมติ8:1 คงอัตราดอกเบี้ยโยบาย ไว้ที่ระดับ 5.25% ตามคาดการณ์ ส่วนทิศทางดอกเบี้ยโลกในระยะถัดไป BLOOMBERG คาดว่า FED, ECB, BOE จะพร้อมใจกันปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก ของปีนี้ ในเดือน มิ.ย. 67 หากเงินเฟ้อยังมีโอกาสชะลอตัวลงสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ได้

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยจีน BLOOMBERG ประเมินว่า PBOC จะปรับลดดอกเบี้ย เงินกู้ชั้นดีอายุ 1 ปี (ONE-YEAR MLF RATE) ลดลงอีก 30 BPS. มาอยู่ที่ 2.2% ในช่วง 2Q67 พร้อมกันนี้ยังคาดหวังว่าจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านการปรับ ลดอัตราส่วนเงินสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลงอีก 50 BPS. ในช่วง 2H67 ซึ่งสอดคล้องกับแถลงการณ์ของรองผู้ว่าแบงค์ชาติจีน ที่กำลังพยายามกระตุ้นภาค สินเชื่อขยายตัว ด้วยการลดข้อกำหนดด้านเงินทุนสำรอง

สรุป ตลาดหุ้นโลกกลับมาคึกคัก หลังวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงปีนี้ดูชัดเจนมากขึ้น โดย อาจเห็น FED, ECB, BOE จะพร้อมใจกันปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ ในเดือน มิ.ย. 67 ส่วน PBOC จะปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 2Q67 เพื่อเป็นแรงหนุนฟื้นเศรษฐกิจ จีน ทั้งนี้ ภายในวันที่ 24 มี.ค. 67 รอติดตามตัวเลข FDI จีนในเดือน ก.พ ซึ่งหวังว่าจะ เห็นฟื้นตัวจากจุด BOTTOM ในเดือน ม.ค. ที่ -11.7%

ส่งออกไทยดูดีขึ้น และค่าเงินบาทอ่อนค่า ชอบ TU STA KCE

ตัวเลขการส่งออก และนำเข้าของจีนดูดีขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปี โดยยอดส่งออก +7.1%YOY(ตลาดคาด +1.9%YOY) และยอดนำเข้า + 3.5%YOY(ตลาดคาด +1.5%YOY) ซึ่งตัวเลขนำเข้าที่ดีกว่าคาด ส่งผลบวกทางตรงต่อไทยที่เป็นประเทศคู่ค้า อันดับ 1 ของไทย ขณะที่สัปดาห์หน้า(25-29 มี.ค.67) จะมีการประกาศตัวเลขส่งออกนำเข้า เดือน ก.พ. 67 ที่ตลาดคาดว่า +5.0%YOY และ +4.0%YOY หนุนให้ดุลการค้า เพิ่มขึ้นสู่ระดับ -573 ล้านเหรียญฯ(ติดลบน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า) ซึ่งสอดคล้องกับที่ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ว่า การส่งออกไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้น ตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าตาม ภาวะเงินเฟ้อโลกที่เริ่มชะลอตัว การได้รับอานิสงส์จาก มาตรการรักษาความมั่นคงทางด้านอาหารของหลายประเทศ และคาดว่ามูลค่าการ ส่งออกของไทยในปี 2567 จะโตราว 1% –2%YOY ดังนั้นหุ้นกลุ่มที่รายได้อิงภาคการ ส่งออก อาทิ TU ITC CPF STA NER KCE HANA คาดราคาหุ้นจะสามารถ OUTPERFORM ตลาดฯได้ไม่ยาก

ขณะที่หากพิจารณาในมุมของค่าเงินบาทนั้น เร่งตัวขึ้นมาแรงตั้งแต่ต้นปี +5.7% จน ล่าสุดทะลุระดับ 36 บาท/เหรียญฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ หนุนให้หุ้นกลุ่มที่รายได้อิงภาคการส่งออก เนื่องจากจะสามารถได้รับรู้ FX GAIN จาก การแลกเปลี่ยนค่าเงินกลับสู่สกุลไทย

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

สรุป ตัวเลขส่งออกไทย เดือน ก.พ.67 คาดจะดูดีต่อเนื่องต่อจากเดือน ม.ค.67 ที่ ขยายตัวสูงสุดในรอบ 18 เดือน บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าแรงตั้งแต่ต้นปี +5.7% จน ล่าสุดทะลุระดับ 36 บาท/เหรียญฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงคาดว่าหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ หลัก คือ หุ้นกลุ่มส่งออก อาทิ TU, ITC, CPF, STA, NER, KCE, HANA เป็นต้น

แรงกดดัน SET INDEX น่าจะจำกัด

วานนี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้ดี14.44 จุด มาอยู่ที่ 1387.62 จุด คาดมี MOMENTUM หนุนทำให้ SET INDEX มี DOWNSIDE จำกัดดังนี้

• ต่างชาติที่สลับมาซื้อสุทธิ 2.0 พันล้านบาท และซื้อสุทธิสัญญา SET50 FUTURES สูงถึง39,687 สัญญา เป็นการซื้อสุทธิภายในวันเดียวที่สูงสุดใน รอบ 4 เดือนกว่าๆ ซึ่งหากเทียบกับวันที่ 14 ธ.ค. 23 ต่างชาติเคยซื้อ SET50 FUTURES 41,005 สัญญาและ 2 สัปดาห์ถัดมา SET INDEX ปรับตัวขึ้นถึง 5.7%

• แรงกดดันจากการปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 แผ่วเบาลงไปมาก สะท้อนจากข้อมูลจาก BLOOMBERG ที่ EPS67F ในเดือน มี.ค. ถูกปรับลง จาก 96 บาท/หุ้น ลงมาเหลือ 94.7 บาท/หุ้น แต่สัปดาห์กว่าๆ ที่ผ่านมาไม่ถูก ปรับประมาณการลงแล้ว ทำให้ DOWSIDE จากการปรับลดประมาณการ จำกัด และในทางกลับกันยังมีกลุ่มหุ้นที่ถูกทยอยปรับ TARGET PRICE ขึ้น คือ CONS (ชอบ CK, STEC, TTCL), PROF, TOURISM ( ชอบ CENTEL, MINT), PF&REIT, COMM ( ชอบ HMPRO, BJC), AGRI ( ชอบ GFPT, STA) เป็นต้น

สรุปทั้งความแรงในการปรับลดกำไรที่ลดลง บวกกับ FUND FLOW ที่สลับมาซื้อหุ้น และ TFEX อย่างน้อยน่าจะหนุนให้ DOWSIDE ของ SET INDEX จำกัด และอาจ ผลักดันให้ SET INDEX ขึ้นไปบริเวณ 1400 จุด ได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย