Rate hike fear is likely over / TESG / MSCI
• SET: คาดตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้สอดคล้องกับตลาด หุ้นทั่วโลก หลังจากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเมื่อคืนออกมาชะลอตัว มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ส่งผลให้ล่าสุดนักลงทุนลด คาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้แทบเหลือ 0% แล้ว แถมยังไป เพิ่มความน่าจะเป็นต่อการลดดอกเบี้ยของ Fed ลงในปีหน้าอีกด้วย ส่งผล ให้ Bond yield สหรัฐฯปรับตัวลดลงอย่างสําคัญเมื่อคืนนี้ โดยรุ่นอายุ 10 ปี ท่าจุด สดใหม่นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ย. เหตุการณ์ดังกล่าวยังทําให้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนผ่านดัชนี Dollar Index ร่วงลงสู่ระดับต่าสุด นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย.ด้วยเช่นกัน
•EYG: ปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกต่อ Risk sentiment ในภาพรวม ซึ่งน่าจะเห็น การเคลื่อนย้ายเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นทั่วโลก ตามมาตรวัด Yield gap ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในฝั่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่เราเห็นการปรับ เพิ่มประมาณการกําาไรเกิดขึ้นควบคู่กันไปด้วย ในฝั่งของไทยเราแม้ Fund flow ที่ไหลเข้าอาจยังไม่มีนัยสําคัญมากนัก จากประมาณการกําาไรบ.จ. ที่ถูกหั่นลงและยังไม่นิ่ง แต่เชื่อได้ว่าพอผ่านพ้นการประกาศงบไตรมาส 3 ไปสักพักหนึ่ง นักลงทุนต่างชาติจะเริ่มหันโฟกัสไปยัง Earnings momentum ในช่วงถัดไปมากขึ้น ซึ่งน่าจะทําให้หุ้นไทยฟื้นตัวชัดเจน หลังจากนั้นได้
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ มองดัชนี SET จะไม่ท่าจุด สุดใหม่ เช่นเดิม และประเมินว่าหลังจากดัชนี SET ผ่านการ Consolidate สร้างฐานในรอบนี้แล้ว จะสามารถทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องได้ในช่วง ปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า ดังนั้นสําหรับผู้ที่ถือหุ้นอยู่แล้ว สามารถถือ ครองหุ้นต่อไปได้ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่เราแนะนําโฟกัสให้เป็น Core portfolio ต่อไป Beneficiaries: ประเมินกลุ่ม Bond-liked เป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากการปรับลงรุนแรงของ Bond yield เมื่อคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม REIT, IFF, Utilities เนื่องจากจะมี Dividend yield gap ที่สูงขึ้น ส่วนกลุ่มหุ้น อื่นที่น่าจะได้รับ Sentiment เชิงบวกในระยะสั้น มองไปยัง 3 กลุ่มเค็ม ได้แก่
1) กลุ่มหุ้น Electronics ที่มีความสัมพันธ์กับดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ อาทิ DELTA, KCE, HANA
2) กลุ่มหุ้นโรงไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในหมวดของ Utilities อาทิ BGRIM, GPSC
3) กลุ่มหุ้น Consumer finance จากความกังวลทางด้านต้นทุนทาง การเงินที่ลดลง อาทิ ŞAWAD, MTC, TIDLOR
• China: สําหรับปัจจัยวันนี้ แนะน่าติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญ ของจีนประจําเดือนต.ค. ไม่ว่าจะเป็น ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (ตลาดคาด +4.5% YoY) และยอดค้าปลีก (+7.0% YoY) ซึ่งล่าสุดออกมาแล้ว ดีกว่าคาดทั้งคู่ โดยเฉพาะยอดค้าปลีกทีออกมาโต 7.6% มองเป็น ปัจจัยยืนยันการฟื้นตัวของภาคอุปสงค์ภายในประเทศของจีน ซึ่งมี แต่จะส่งผลบวกต่อภาคการส่งออกของไทยในช่วงถัดไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities