Economic Highlight
ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญรายเดือนของจีน
**ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.
FX Highlight
- สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าในช่วงท้ายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และความกังวลต่อเสถียรภาพการคลังของไทย
- โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มชัดเจนมากขึ้น ทว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจถูกชะลอลงได้บ้าง จากโฟลว์ขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออก
- ขณะเดียวกัน ผู้เล่นบางส่วนที่อาจรอจังหวะเพิ่มสถานะ Long THB (มองเงินบาทแข็งค่า) ก็อาจใช้จังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าในการเพิ่มสถานะได้
- ในส่วนปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า นั้น เรามองว่า ต้องจับตาทิศทางราคาทองคำ และฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ
- โดยหากราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดทยอยเข้าซื้อทองคำ ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวอาจกดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลงได้
- ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ ก็ยังมีความผันผวน โดยเฉพาะหลังผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ Digital Wallet มากขึ้น
- นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก, ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลต่อทิศทางเงินหยวน รวมถึงสกุลเงินเอเชียได้
- ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ชี้ว่า เงินบาทยังมีความเสี่ยงอ่อนค่าลงได้
- นอกจากนี้ ในส่วนของ Time Frame ที่สั้นลง เช่น H4 และ H1 สัญญาณจากทั้ง RSI และ MACD ชี้ว่า เงินบาทอาจเริ่มชะลอการอ่อนค่าลง หลังเงินบาทได้อ่อนค่าแรงและเร็วในช่วงวันศุกร์ (เริ่มเข้าโซน Overbought สำหรับ USDTHB) โดยต้องจับตาแนวต้านสำคัญ โซน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ว่าเงินบาทจะสามารถผ่านได้ชัดเจนหรือไม่ และแนวต้านถัดไปจะอยู่แถว 36.25-36.30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ โซนแนวรับแรกจะอยู่แถว 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์
Gold Highlight
- ราคาทองคำปรับตัวลงแรง กว่าที่เราคาดการณ์ไว้มาก ท่ามกลางปัจจัยกดดันทั้ง การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รวมถึง ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด
- สัปดาห์นี้ ควรจับตาสถานการณ์สงคราม รวมถึงมุมมองผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดและบรรยากาศในตลาดการเงิน
- ราคาทองคำยังเสี่ยงปรับฐานต่อได้ หากตลาดคลายความกังวลสถานการณ์สงครามและบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น
- ทั้งนี้ ราคาทองคำได้ปรับฐานมาพอสมควร และอาจแกว่งตัว sideway เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ อาทิ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ
- ในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI และ MACD (Time Frame รายวัน) ชี้ว่า ราคาทองคำยังมีความเสี่ยงปรับฐานต่อ ส่วน สัญญาณจาก Time Frame ที่สั้นลง อย่าง H4 และ H1 ชี้ว่า ราคาทองคำอาจแกว่งตัว sideway หรือรีบาวด์ขึ้นจากโซน Oversold ได้บ้าง
- หลังจากที่เราได้แนะนำ Trade Idea สำหรับ ผู้เล่นฝั่ง Short ซึ่งกำไรน่าจะคุ้มค่าความเสี่ยงแล้ว ทำให้ ผู้เล่นที่มีสถานะ Short อาจแบ่งขายทำกำไรออกมาได้บ้าง ทั้งนี้ หากราคาทองคำหลุดจากโซนแนวรับสำคัญอย่าง 1,935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็อาจเปิดโอกาสปรับตัวลดลงต่อได้ถึว 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ผู้เล่นในตลาดที่รอจังหวะเปิดสถานะ Long ทองคำ อาจรอให้ ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้าน 1,960-1,970 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้สำเร็จก่อน (Entry 1,960 Stop loss 1,945 and Target 1,990) หรืออาจเน้นรีบาวด์ระยะสั้น Entry 1,945 Stop loss 1,935 and Target 1,965+
Economics Highlight