รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ดักทางการลงทุนช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี “บิทคอยน์ – ทองคำ - หุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า”

เผยแพร่ 08/11/2566 13:33
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ดักทิศทางการลงทุนโค้งสุดท้ายของปีนี้ สินทรัพย์ดิจิทัล “บิทคอยน์ทองคำ – หุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า” มีโอกาสทำกำไร จากแรงหนุนช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ช่วยดันราคา โดยเฉพาะบิทคอยน์ กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่ ส่วนทองคำและหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อตัวลงมา มองเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุน

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ “บิทคอยน์” กลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์การลงทุนที่น่าสนใจขึ้นมาจากการที่ ก.ล.ต.สหรัฐอเมริกา มีโอกาสสูงที่จะอนุมัติกองทุน ETF ของบิทคอยน์ ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันไหลเข้ามาในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก

ประกอบกับตลาดคาดการณ์ว่าจะเกิด Bitcoin Halving ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 จะเป็นแรงผลักดันราคาบิทคอยน์ โดยอ้างอิงจากสถิติที่ผ่านมา และยังได้แรงหนุนจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่ใกล้จะผ่านจุดสูงสุดของการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า

ทั้งนี้มองระยะสั้น หากราคาบิทคอยน์ ปรับตัวลงมาทดสอบระดับ 31,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญได้จะถือเป็นจุดซื้อที่น่าสนใจ แต่ยังต้องระวังแนวรับที่ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากราคาหลุดจากแนวรับนี้ให้ขายตัดขาดทุนก่อน เพราะแนวโน้มทางเทคนิคจะเป็นขาลง ส่วนแนวต้านที่เป็นเป้าหมายของการฟื้นตัวในรอบนี้จะอยู่ที่ระดับ 42,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอาจจะเกิด Sell On Fact ถ้าหากมีการอนุมัติ Bitcoin ETF อย่างเป็นทางการ

“ถ้าหากไม่ต้องการลงทุนในบิทคอยน์โดยตรง ยังสามารถลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ETF ที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีบล็อกเชน หรือ ถ้าเป็นหุ้นรายตัวก็จะเป็น Coinbase (NASDAQ:COIN) ซึ่งเป็น Exchange ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ หรือ Block บริษัทฟินเทคที่เปิดให้สามารถทำธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลได้”

นอกจากบิทคอยน์แล้ว “ทองคำ” เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้จากแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีโอกาสอ่อนค่าลง ประกอบกับสงครามในอิสราเอลรวมถึงยูเครนยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง โดยมองการปรับตัวลงของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาหลังจากขึ้นไปแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนได้ในระยะกลาง โดยแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าไม่หลุดจากระดับแนวรับนี้ราคายังคงเป็นขาขึ้น โดยมีเป้าหมายแนวต้านที่ระดับสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป

ส่วนตลาดหุ้น มองว่าหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ยังสามารถที่จะลงทุนได้ จากผลประกอบการในไตรมาสสามที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด และราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น ประกอบกับดัชนี NASDAQ ยังคงมีทิศทางขาขึ้น โดยมองภาพสำหรับการลงทุนเป็นระยะกลาง หุ้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้ามีความน่าสนใจ เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลงทั้งกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา จากความกังวลเรื่องการแข่งขันที่สูงจนทำให้เกิดการตัดราคาขายมีผลต่ออัตรากำไร โดยเฉพาะ TESLA ที่ราคาหุ้นปรับตัวลงจากจุดสูงสุดถึง 25% และหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่ปรับตัวลงตามภาวะตลาด

“แม้ว่าราคาหุ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจะลงจากความกังวลของนักลงทุน แต่ภาพรวมผลประกอบการที่ออกมาถือว่าทำได้ดี และแนวโน้มของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้ารอบนี้เป็นโอกาสในการลงทุนระยะกลางขึ้นไป ไม่ว่าจะลงทุนในกองทุนรวม ETF หรือ หุ้นรายตัวที่เกี่ยวข้อง”

นายณพวีร์ กล่าวปิดท้ายว่า ภาพรวมของตลาดการลงทุนในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปีนี้ ยังถือว่าไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามารบกวนมากนัก เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจนว่าจะเกิดภาวะถดถอย และยังมีการเติบโตอยู่ ส่วนราคาน้ำมันยังไม่สูงมากพอที่จะทำให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามทั้งตลาดหุ้นจีน เวียดนามรวมถึงตลาดหุ้นไทย แม้ว่าจะปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก แต่ยังไม่เห็นจุดกลับตัวเป็นขาขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจยังไม่มีความแน่นอน จึงยังไม่ได้อยู่ในโฟกัสที่จะลงทุนช่วงสั้น แต่ให้จับจังหวะหากราคามีการฟื้นตัวกลับเป็นขาขึ้น ค่อยแบ่งเงินมาลงทุนบางส่วน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย