รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ปัจจัยแวดล้อมเอื้อ VALUATION ที่ถูกจะทำงาน 

เผยแพร่ 03/11/2566 10:01
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เรามีความเชื่อพื้นฐานประการหนึ่งว่า VALUATION ของหุ้นที่ถูกมากเกินไป จะ เป็นตัวดึงดูดแรงซื้อของนักลงทุนเข้ามา เมื่อปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐาน เอื้ออำนวย โดยภาวะตลาดในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า VALUATION ของ ตลาดหุ้นบ้านเราถูก เห็นได้จาก MARKET EARNING YIELD GAP ที่ 3.8% PBV ต่ำที่ -2SD มีหุ้นใน SET 100 ถึง 35 บริษัทที่ PBV ต่ำกว่า 1 เท่า เห็นบริษัท จดทะเบียน ประกาศซื้อคืนหุ้น (TREASURY STOCK) เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สัดส่วน การซื้อขายแบบ SHORT SELL ลดลง สำหรับปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานที่ เอื้ออำนวยเป็นเรื่องของ BOND YIELD ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการ สะท้อนถึงทิศทางดอกเบี้ยของ FED ว่าน่าจะคงไว้ที่เพดาน 5.5% สำหรับกรณี สงครามอิสราเอล-ฮามาส ต้องติดตามต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่จะเกิด การขยายวงของผู้ร่วมสงคราม

เกิด TECHNICAL REBOUND จากนี้ไปอาจเหลือ UPSIDE ที่จำกัด โดยประเมิน กรอบกาคเคลื่อนไหวของ SET INDEX ที่ 1394 – 1412 จุด ยังคงเน้นให้ใช้กล ยุทธ์BUY & HOLD หุ้น TOP PICK วันนี้BEM, CPALLและ PTTGC

บรรยากาศดูผ่อนคลายต่อเนื่อง แต่ยังต้องระวังสงคราม

สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่เบาลงของธนาคารกลางต่างๆ หนุนให้ภาพบรรยากาศ การลงทุนดูผ่อนคลายลงต่อเนื่อง โดยวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นแรงราว 1.7% -2.7% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดตัวนแดนบวกราว 1.4% -1.9% ขณะที่ BOND YIELD สหรัฐฯ 10 ปี ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.67% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงราว -25 BPS. ภายใน เวลาเพียงแค่ 2 วัน (เทียบเท่ากับการปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง) ถือเป็นปัจจัยบวกต่อ ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงไทยในวันนี้ด้วย ขณะที่ระยะถัดไปอาจเห็นภาพของดอลลาร์ที่ อ่อนค่าลงได้ และน่าจะเป็นแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่า

อย่างไรก็ตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (อิหร่านสนับสนุนและ มีฐานอยู่บริเวณตอนใต้ของเลบานอน) มีการประกาศว่าทำสงครามกับโดยตรงกับ อิสราเอล หากอิสราเอลไม่หยุดรุกรานฉนวนกาซาภายในวันนี้ (3 พ.ย.) ซึ่งจะมีการ กล่าวปราศรัยในเวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ความกังวลดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ BRENT วานนี้ ดีดตัวขึ้นราว 2.6% มาอยู่เหนือ 86 เหรียญฯ

สรุป เม็ดเงินมีแนวโน้มไหลเข้าสู่สินทรัยพ์เสี่ยงต่อเนื่อง หลังได้รับแรงหนุนจาก สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่เบาลง ทำให้ BOND YIELD ปรับตัวลงแรง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด เพราะเตรียมประกาศทำ สงครามกับอิสราเอล หากอิสราเอลไม่หยุดรุกรานฉนวนกาซาภายในวันนี้

ความคืบหน้านโยบาย DIGITAL WALLET หนุนกลุ่มค้าปลีกมี เสน่ห์อีกครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุดของนโยบาย DIGITAL WALLET คือ คณะอนุกรรมการฯ ได้หารือ รายละเอียดในหลายด้านจนได้ข้อสรุปเบื้องต้น และเตรียมนำมาเสนอคณะกรรมการ ชุดใหญ่พิจารณาเห็นชอบในสัปดาห์หน้า ซึ่งหนึ่งในรายละเอียดของโครงการนั้นมีการ เสนอเงื่อนไขว่า ผู้ที่ได้รับเงิน DIGITAL สามารถนำเงินดิจิทัลไปใช้ได้กับสินค้าตามที่ระบุ ไว้เท่านั้น โดยที่ไม่สามารถนำมาใช้กับ “บริการ” ต่าง ๆ ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม ผู้ประกอบการอิสระ อาทิ ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา ร้านซ่อมบำรุง อุปกรณ์ต่าง ๆ และบริการล้างรถ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะสามารถใช้เงินดิจิทัลได้ นั้น รัฐบาลกำหนดรายละเอียดไว้เบื้องต้นว่า จะเน้นไปที่สินค้าในกลุ่มที่เป็นสินค้า อุปโภคบริโภค ซึ่งใช้ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชนจริงๆ

ดังนั้นหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์หลักๆ คงเป็นกลุ่มค้าปลีก อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับลงมา แรงตั้งแต่ ก.ย.66-ปัจจุบัน โดยปรับตัวลงมาแล้ว -14.2% ขณะที่ SET INDEX ปรับตัว ลง -10.3% โดยหุ้นเด่นกลุ่มนี้ ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำ CPALL (BK:CPALL) CPAXT CRC BJC HMPRO อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วง HIGH SEASON ของกลุ่มนี้ เนื่องจากเข้าสู่ช่วง ปลายปีที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากกว่าปกติ

อย่างไรก็ตามหากการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า ไม่สามารถสรุปประเด็น DIGITAL WALLET ได้ ทั้งเรื่องของจำนวนคนได้รับสิทธิ, พื้นที่ที่สามารถใช้สิทธิได้ และเงื่อนไขต่างๆยังไม่เรียบร้อย อาจเป็น SENTIMENT เชิงลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และ นักลงทุนในตลาดหุ้นได้ โดยความคาดหวังการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 มีโอกาส ลดลง จากปัจจุบัน ธปท. คาด GDP ปี 2567 เติบโตได้ 4.4%(รวมนโยบาย DIGITAL WALLET) และสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นที่อาจคาดหวังการเติบโตลดลงได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม DOMESTIC อาทิธ.พ., ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ขนส่ง, อาหาร เป็นต้น

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

สรุป เริ่มเห็นมาตรการ DIGITAL WALLET ของรัฐบาลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หนุนเศรษฐกิจ ไทยเติบโตแรงในปี 2567 ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อ FLOW ต่างชาติให้ทยอยไหลเข้าตลาด หุ้นไทย อย่างไรก็ตามหากการประชุม ครม.สัปดาห์หน้ามีความไม่ชัดเจนของนโยบาย ดังกล่าวคาดทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชน และนักลงทุนถูกบั่นทอนลงไปอีก อาจ กดดันหุ้นกลุ่ม ธ.พ., ค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ขนส่ง, อาหาร ไปอีกสักระยะ ซึ่งเป็นสิ่งที่นัก ลงทุนต้องพึงระวังไว้เสมอ

3 ปัจจัย หนุน SET อยู่โหมดฟื้น พร้อมหาหุ้นเด็ดเข้าข่ายน่าซื้อ หุ้นคืน

วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงถึง 25.88 จุด หรือ 1.88% ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน มี 3 ปัจจัยหนุนให้ SET INDEX มี MOMENTUM ฟื้นตัวต่อ

1. ปริมาณการ SHORT SALES วานนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งวันที่ 2 พ.ย. 66 มีสัดส่วน SHORT SALES เทียบกับมูลค่าซื้อขายทั้งหมดเพียง 8.63% เท่านั้น ลดลงอย่างมีนัยฯ เมื่อเทียบกับสัดส่วน SHORT SALES ในทั้งเดือน ต.ค. ที่ 10.3% และเดือน ก.ย. ที่ 10.26% คาดจะหนุนให้ SET มีโอกาสผัน ผวนน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา

2. ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงมาลึกจนมีหุ้นถูกเต็มตลาด สังเกตได้จากมีหุ้นใน SET100 ต่ำ BOOK หรือ PBV

3. เริ่มเห็นการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน รวมถึงทยอยใช้สิทธิซื้อหุ้นคืน โดย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน คือ MAJOR, GUNKUL, SMT (ประกาศวานนี้) และเห็นทยอยใช้สิทธิซื้อหุ้นคืนพยุงราคาหุ้น คือ MAJOR, WP, III, SMD, NV,TACC, GENCO เป็นต้น

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ทั้ง VALUATION ของตลาดที่ถูกมากแล้ว ปริมาณการ SHORT SALES ที่ลดลง และบริษัททยอยประกาศซื้อหุ้นคืน น่าจะช่วยหนุนให้ SET INDEX มี MOMENTUM ขยับขึ้นต่อได้

ขณะที่ผ่านวิจัยฯ ลองค้นหา “บริษัทขนาดใหญ่ไหนเข้าข่ายน่าซื้อหุ้นคืน” ผ่านการตั้ง เงื่อนไขต่างๆ ดังนี

1. มีเงินสดเยอะ สามารถแบ่งมาซื้อหุ้นคืนได้

2. เป็นหุ้นที่ย่อตัวลงมาในปีนี้

3. มี FREE FLOAT สูง (>40%) ไม่กดดันสภาพคล่องที่ลดลงหลังซื้อหุ้นคืน

4. มี PBV

5. ผลประกอบการบริษัทยังมีกำไรในปีที่ผ่านมา

ได้ผลลัพธ์ “บริษัทขนาดใหญ่เข้าข่ายน่าซื้อหุ้นคืน” คือ AP, EGCO, RATCH, SCC, SPALI, STEC, TU ซึ่งหุ้นดังกล่าวถือว่าย่อตัวลงมาจนมี VALUATION น่าสนใจ พร้อมกับสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง น่าทยอยสะสม หวังราคาหุ้นกลับมา OUTPERFORM ตลาดในระยะถัดไป

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย