Good oil
• Oil: ราคานํามันดิบร่วงลงแรงหลังการประชุมกลุ่ม OPEC+ เมื่อวานนี้มีมติ เพียงการคงนโยบายการลดกําลังการผลิตเดิมที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการสมัครใจของซาอุฯและรัสเซียที่ต้องการลด กําลังการผลิตและลดการส่งออกของตนเองตามลําดับ
• Our take: มองการปรับลดลงของราคาน้ํามันเมื่อคืนเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง เนื่องจากก่อนหน้านี้เราเคยกล่าวว่าปัจจัยเสี่ยงทั่วโลกที่สําคัญที่สุดใน ไตรมาส 4 ก็คือการวกกลับมาขยายตัวด้วยอัตราเร่งอีกครั้งของอัตราเงิน เฟ้อ ซึ่งอาจมีที่มาจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับตัวสูง โดยเฉพาะหากทะลุระดับ 100 เหรียญฯ/บาร์เรลขึ้นไป จากการที่โอกาสดังกล่าวน้อยลงนี้ ทําให้ท่าที ของเหล่าธนาคารกลางในช่วงถัดไปจะทํางานได้โดยง่ายขึ้น และมีความ จําเป็นในการเข้มงวดนโยบายในระดับสูงขึ้นน้อยลง ล่าสุด Bond yield ในตลาดโลกตอบรับทันที โดยมีการปรับตัวลงอย่างสําคัญ มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเช้าวันนี้
• SET: มองการปรับลงของราคาน้ํามันที่รุนแรงนี้ จะเป็น Sentiment เชิงลบต่อกลุ่ม Oil & Gas ของไทยในช่วงสั้นได้ แต่จะเป็นบวกต่อ กลุ่ม Non-oil ทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีน้ํามันเป็นส่วนหนึ่งของ ต้นทุนอย่าง โรงไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ และขนส่ง เป็นต้น
• THB: อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลพวงมาจากราคาน้ํามันที่ย่อลงนี้ มองไปยัง ค่าเงินบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ราคาน้ํามันดิบที่อยู่สูง จะส่งผลให้มูลค่าการนําเข้าของเราสูงตามไปด้วย และจะไปบั่นทอนใน ส่วนของดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดให้มีการขาดดุลมากขึ้น ดังนั้น ราคาน้ํามันที่ปรับตัวลงมานี้ จะทําให้แรงกดดันในส่วนนี้ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้เงินบาทได้รับแรงกดดันที่น้อยลงด้วยเช่นกัน มองเงินบาทที่ ปรับตัวแข็งค่าระยะสั้น อาจทําให้เห็นแรงปิดสถานะ Short ในค่าเงิน ที่รุนแรง จนอาจนํามาสู่ Flow ที่ไหลเข้าตลาดทุนไทยชั่วคราวได้ ล่าสุดเงินบาทถือเป็นสกุลเงินอันดับ 2 ของเอเชียที่มีการแข็งค่ามาก ที่สุดในรอบวันที่ผ่านมา
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ คงคําแนะนําการเข้าสะสมหุ้นต่อไป ในภาวะ Risk/Reward ที่มีความน่าสนใจอย่างมากในช่วงนี้ โดยเฉพาะที่ระดับดัชนี SET ต่ํากดว่า 1470 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเคียง PBV 1.4x โดยในอดีต มักเป็นค่าเฉลี่ยที่ดัชนี SET นั้นจะสร้างฐานได้ ณ จุดต่ําสุดต่างๆ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities