EYG depression
• EYG: ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงถูกกดดันจากท่าที Higher for Longer ของ Fed จากการประชุมรอบล่าสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดยังคงไม่ได้ Fully price in แต่อย่างใด (45%) ส่งผลให้สัญญาณ Bond yield สหรัฐฯยังคง มีแนวโน้มที่จะทรงตัวสูงหรือปรับตัวขึ้นต่อได้อีก ล่าสุด Bond yield 10 ปี ของสหรัฐฯท่าจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ระดับ 4.50% ส่งผลกดดันต่อตลาด หุ้นทั่วโลกผ่านมาตรวัด Earning yield gap ที่ปรับลง (รูปที่ 1) โดยเฉพาะ หุ้นกลุ่มเทคฯและหุ้นเติบโต ที่มัก Sensitive ต่อการปรับขึ้นของ Yield ด้วยเช่นกัน ในเชิงกลยุทธ์ เรายังไม่เห็นความจําเป็นใดๆที่จะต้องรีบร้อน เข้าลงทุนหรือเพิ่มน้ําหนักหุ้นในช่วงนี้ จนกว่าตลาดจะให้น้ําหนักต่อข่าว ร้ายเกี่ยวกับการเข้มงวดนโยบายการเงินของ Fed ให้มากกว่านี้
• Beware: ในระหว่างนี้ มองการปรับขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่ของ Bond yield จะส่งผลลบต่อกลุ่มที่เป็น Rate-sensitive อย่าง Finance และ Property โดยเฉพาะดัวที่มี High leverage ที่จะมีความเสี่ยงเผชิญต้นทุนทาง การเงินที่สูงขึ้นในช่วงถัดไป นอกจากนั้น อาจต้องระวัง แรงขายที่อาจเกิด ขึ้นกับกลุ่ม Bond-like ที่มีปันผลสูงอย่าง REIT/PFUND/IFF รวมถึงกลุ่ม Utilities ที่จะมีความน่าสนใจลดลง จาก Dividend yield gap ที่ปรับตัว ลดลงด้วยเช่นกัน
• Bol: อย่างไรก็ดีวันนี้อาจมีตัวช่วยทําให้ค่าเงิน USD ไม่แข็งค่ามากเกินไป นักหรืออาจจะกลับมาอ่อนค่าในช่วงสั้นได้ นั่นก็คือการประชุมของธนาคาร กลางญี่ปุ่น ที่อาจจะมีการส่งสัญญาณ Hawkish ออกมา จากผู้ว่า Kazuo Ueda เกี่ยวกับการยุตินโยบายการเงินผ่อนคลายแบบสุดโด่งในช่วงถัดไป อาทิเช่นการลดระดับการใช้ดอกเบี้ยนโยบายแท้จริงแบบติดลบ
• BoE: ในส่วนเมื่อวานนี้ มีปัจจัยที่ Surprise ตลาด ได้แก่การตัดสินใจคง อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ถือเป็นการหยุด การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก หลังจากที่มีการขึ้นติดต่อกันมาถึง 14 ครั้ง จากมติ ดังกล่าว ทําให้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวอ่อนค่าทันที 0.7% หลังการประชุม เรามองสัญญาณดังกล่าวเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่ดีที่น่าจะทําให้เราเห็น ธนาคารกลางอื่นๆทั่วโลกมีมติหยุดการขึ้นดอกเบี้ยตามมาในช่วงไตรมาสที่ 4 ข้างหน้านี้ได้ ซึ่งจะถือเป็น Turning point ที่สําคัญของตลาดหุ้นทั่วโลก ที่รออยู่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities