Policy risk continues / Weekly picks
• SET: SET Index และตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเผชิญแรงขายลดความเสี่ยง ก่อนหน้าการประชุม FOMC ซึ่งจะทราบผลในช่วงคืนวันที่ 20 ก.ย.ตาม เวลาบ้านเรา มองเช่นเดิมว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจน่ามาสู่ความผิดหวัง ของตลาดได้ ในเชิงกลยุทธ์ จึงแนะนําให้ชะลอการลงทุนต่อไป หากจ่าเป็นต้องลงทุน ยังคงเน้น Selective ไปยังกลุ่มที่ปลอดภัยอย่าง เช่น กลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจจีนที่มีสัญญาณที่ดีขึ้นต่อเนื่องอย่างกลุ่ม Logistics & Shipping an III, LEO, SJWD, WICE, PSL, RCL (ล่าสุดดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปรับตัวสู่ระดับสูงสุดใน รอบ 4 เดือน: รูปที่ 1)
• Policy risk: สําหรับปัจจัยกดดันเมื่อวานนี้ เป็นเรื่องของ Policy risk ที่ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ประชุมครม.วานนี้มีมติปรับลด ค่าไฟงวดดีอน ก.ย.-ธ.ค. ลงอีกเป็นอัตราไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท ตามที กระทรวงพลังงานเสนอ ต่ากว่าตัวเลขเดิมก่อนหน้านี้ที่ 4.10 บาทต่อหน่วย นอกจากนั้น ยังมีการหาแนวทางปรับลดราคาหรือหามาตรการช่วยเหลือ ประชาชนกลุ่มพิเศษที่จําเป็นต้องใช้นํ้ามันเบนซินในการประกอบอาชีพโดย เร่งด่วน มองปัจจัยนี้เป็นปัจจัยกดดันภาพรวม Margin ของกลุ่ม โรงไฟฟ้าและกลุ่มปั๊มน้ํามันในบ้านเราต่อไป แนะนําหลีกเลี่ยง เช่นเดิม ได้แก่
• Weekly stock picks: เรานําเสนอไอเดียหุ้นเด่นน่าสนใจประจําสัปดาห์ นี้ ซึ่งมีปัจจัยเชิงบวกทั้งด้านพื้นฐานและธีมการลงทุนระยะสั้นสนับสนุน
1) RCL: ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้น 8 วันต่อเนื่อง และทําจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 เดือน โดยได้ผลบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวขึ้น และการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน บริษัทมีการเพิ่มเรือใหม่และเรือมือสองในช่วง 2066 ทดแทนเรือเก่าที่มีอายุเกิน 25 ปี ซึ่งจะทําให้ประสิทธิภาพการ ขนส่งดีขึ้น ทางด้านฐานะการเงิน สัดส่วน D/E ค่อนข้างต่ําาที่ 0.26 เท่า (เป็นเงินสด 1.4 หมุนล้านบาท) เมื่อเทียบกับหุ่นกลุ่มเดินเรือเทกอง แห้งอื่นที่ราว 0.4-0.6 เท่า ขณะที่ PBV ค่าสุดในกลุ่มที่ 0.41 เท่า เทียบกับหุ่นกลุ่มเดินเรือเทกองแห่งอื่นที่ 0.5-0.95 เท่า
2) BLA: เก็งก่าไรบนปัจจัย Bond yield สหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่ในระดับสูง ต่อไปสัปดาห์นี้ รับการประชุม FOMC ที่อาจมีโทนที Hawkish กว่าตลาดคาด ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกลุ่มประกันของไทยที่มี Correlation กับ Bond yield นี้ในระดับสูง แผน 2H66 บริษัทเร่งเพิ่มตัวแทนอีก 1500 คน +15% จากฐานเดิม ช่วยหนุนยอดขายประกันทั้งปีตั้งเป้า + 20% PBV เพียง 1 เท่า ยังต่ํากว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 1.5 เท่า Consensus ให้ราคาเหมาะสมที่ 36 บาท มี Upside ราว 37%
3) COM7: มีมุมมองเชิงบวกต่อกระแสตอบรับ iPhone 15 ที่ค่อนข้างดี คาด 3066 เติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จาก SSSG ที่ยังคงบวก ต่อเนื่อง ส่วน Gross Margin มีแนวโน้มสูงขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากการขายสินค้า High Margin เพิ่มขึ้น เช่นเคสโทรศัพท์ ก่อนที่ผล ประกอบการจะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q66 ของกลุ่มมือถือที่ ทยอยออกรุ่นใหม่ บริษัทตั้งเป้าเปิดอีก 100 สาขาใน 2H66 รวมเป็น 1,400 สาขา Forward P/E อยู่ที่ 19X ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 23X ให้ราคาเหมาะสมที่ 39 บาท แนะน่า “ชื่อ” ในเชิงพื้นฐาน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities