รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หลังผ่านช่วงฝุ่นตลบ น่าจะพบสิ่งที่ดี

เผยแพร่ 14/09/2566 09:35

มติ ครม. วานนี้ภาพรวมต้องถือว่ามีส่วนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การ ตีความในรายละเอียดในบางเรื่องเฉพาะอย่างยิ่ง การลดค่าไฟฟ้า สร้างความ กังวลต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่การพูดถึงค่าการตลาดก็อาจกดดันกลุ่ม ผู้ค้าน้ำมัน และจากการที่หุ้นที่อยู่ในความกังวลเป็นหุ้น Market Cap ใหญ่ ทำให้ เกิดแรงกดดันมาที่ SET Index เชื่อว่าหลังจากที่เกิดความชัดเจนในเรื่องการ ปฎิบัติงาน และประเมินขอบเขตของผลกระทบแล้วน่าจะทำให้ราคาหุ้นที่ถูกกดดัน ปรับตัวขึ้นมาได้ โดยเราเห็นว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงอยู่ในระดับที่รุนแรงกว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สำหรับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ เราพบว่าไม่ได้เกิด เฉพาะตลาดหุ้นบ้านเรา แต่เป็นภาพรวมทั้งภูมิภาค ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ส.ค.66 ไม่ได้ทำให้มุมมองเรื่องดอกเบี้ยเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ Fed น่าจะเห็นการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.50% ไปจนถึงกลางปี 2567

SET Index ระหว่างวันวานนี้ปรับลงมาต่ำกว่า 1535 จุดซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่ก็สามารถดีดขึ้นไปได้ในที่สุด ช่วยลดแรงกดดัน วันนี้คาดกรอบ 1530 –1545 จุด หุ้น Top Pick เลือก CPN, CRC และ III

เงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐฯ ชะลอตัว...หนุน Fed หยุดขึ้นดอกเบี้ย

วานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. อยู่ที่ +3.7%YoY ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ +3.2%YoY และสูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ +3.6%YoY โดยหลักๆ เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่ขยับขึ้น ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ล่าสุด อยู่ที่ +4.3%YoY ตามคาด ชะลอตัวลงมาจากเดือนก่อนที่ +4.7%YoY ซึ่ง นับว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ดี

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดไส้ในของ Core CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. พบว่า เงินเฟ้อ ที่มาจากค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Shelter (กราฟแท่งสีฟ้า) ปรับตัวลดลงมามากทั้ง MoM และ YoY รวมถึง Medical Care Service (กราฟแท่งสีเขียว) หดตัว YoY ช่วย หนุนให้เงินเฟ้อภาคบริการค่อยๆ ชะลอตัวลง

แม้ CPI สหรัฐฯ เดือนส.ค. จะสูงกว่าคาดและขยับขึ้นจากเดือนก่อน แต่กลับสวนทาง กับ Core CPI ที่ชะลอตัวลง จึงทำให้มุมมองที่มีต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายไม่ได้ เปลี่ยนไปจาเดิมมากนัก โดย Fed Watch Tool ยังให้น้ำหนักสูงถึง 97% ที่ Fed จะคง ดอกเบี้ย 5.5% ในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ Bond Yield 2 ปี และ 10 ปี ของ สหรัฐฯ ล่าสุดยังคงต่ำกว่า Policy Rate

วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้จบในสหรัฐฯ เชื่อว่าจะสอดคล้องกับการดำเนินนโยบาย การเงินในบ้านเรา โดยการประชุม กนง. ในวันที่ 27 ก.ย. นี้ มีโอกาสที่บ้านเราจะเห็นการ คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% เพื่อที่จะได้ลดแรงกดดันและไม่ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจ ของนโยบายชุดใหม่ติดขัด

สรุป แม้ CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. จะสูงกว่าคาดและขยับขึ้นจากเดือนก่อน แต่Core CPI กลับชะลอตัวลง ช่วยหนุนให้วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้จบ และน่าจะเห็น Fed คง ดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5% ในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่บ้านเรามีโอกาสที่ กนง. จะคง ดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะได้ไม่ติดขัด

มติลดค่าไฟ และค่าน้ำมัน ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น โรงไฟฟ้า จริงหรือไม่ …มาดูกัน

หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกในวันนี้ (13 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้แถลงผลการประชุมครม. เบื้องต้น ดังนี้

1. จัดตั้งคณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติครบ 6 รอบ 72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน ปี2567

2. แก้ปัญหาความเห็นต่าง ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เห็นชอบให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ รับผิดชอบ แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ

3. วีซ่าฟรี ชั่วคราว ยกเลิกการขอเข้าเดินทางมาไทยของจีนและคาซัคสถานตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 –29 ก.พ. 67

4. ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ Soft Power

5. พักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็ก(SME) เป็นเวลา 3 ป

6. เปลี่ยนการจ่ายเงินข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบเป็นเดือนละ 2 รอบ คาดเริ่ม 1 ม.ค. 66

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

7. ลดค่าไฟฟ้า เป็น 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จาก 4.45 บาท เริ่มรอบบิลตั้งแต่ ก.ย.66-สิ้นปี

8. ลดราคาน้ำมันดีเซล ให้ต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร เริ่ม 20 ก.ย.66-สิ้นป

ึ่งนโยบายส่วนใหญ่เน้นไปที่การช่วยเหลือภาคประชาชน ลดค่าครองชีพเป็นหลัก ทั้ง การลดค่าไฟฟ้า และน้ำมันดิบ ซึ่งมองผิวเผินจะส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น-โรงไฟฟ้า อย่างไนก็ตาม ฝ่ายวิจัยฯจะมาจำแนกให้ดูว่า ทั้ง 2 กลุ่มโดนผลกระทบจริงๆ หรือไม่

เริ่มจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล เป็นการปรับลดผ่านการจัดเก็บภาษี สรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันภาครัฐจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 5.99 บาท/ ลิตร ดังนั้น ภาครัฐยังสามารถใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นกลไกในการช่วยให้ราคาน้ำมัน ดีเซลปรับลดลงเหลือไม่เกิน 30 บาท/ลิตรได้ โดยไม่กระทบต่อกลุ่มโรงกลั่น หรือ ผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันแต่อย่างใด จะกระทบเพียงภาครัฐที่รายได้จากการ จัดเก็บภาษีสรรพสามิตจะลดลงเท่านั้น ดังนั้น แนะนำทยอยสะสมหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น เมื่อราคาอ่อนตัวลงมา หรือเข้าใกล้แนวรับสำคัญทางเทคนิค ชอบ PTT (BK:PTT) PTTEP TOP SPRC

ส่วนต่อมา คือ การลดค่าไฟฟ้า ซึ่งยังต้องรอสรุปอย่างเป็นทางการว่าแนวทางการ ปรับลดค่าไฟครั้งนี้ จะใช้วิธีการใด ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดเนื้อข่าวที่แน่ชัด ฝ่าย วิจัยฯจึงจำแนกออกเป็น 2 วิธีที่สามารถเกิดขึ้นได้

1. หากรัฐบาลสามารถใช้วิธีการยืดการชำระหนี้ให้แก่ กฟผ. ออกไป อาจส่งผล ให้อัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่มีสัดส่วนขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่ม ลูกค้าอุตสาหกรรมค่อนข้างสูงอย่าง GPSC (สัดส่วนรายได้จากการขาย ไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมราว 30% ของรายได้รวม) , BGRIM (สัดส่วน รายได้จากการขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมราว 27% ของรายได้รวม), GULF (สัดส่วนรายได้จากการขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมราว 13% ของรายได้รวม)

2. หากใช้วิธีการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หรือ 500 หน่วย/เดือน จะไม่มีผลกระทบต่ออัตรากำไรของผู้ประกอบการกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP แต่อย่างใด

สรุป ผลการประชุมครม.นัดแรก มีนโยบายออกมามากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่การ ช่วยเหลือภาคประชาชน ลดค่าครองชีพเป็นหลัก ขณะที่ระยะถัดไปเตรียมผลักดัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนให้เศรษฐกิจตั้งแต่ 2H66 เติบโตเป็นขั้นบันได

หวัง Fund Flow ชะลอไหลออก หลัง Bond Yield เริ่มย่อตัว

ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา Fund Flow อยู่ในช่วงหมุนเวียนจากตลาดหุ้นไปตลาดตรา สารหนี้บางส่วน สะท้อนได้จาก ทั้งในวานนี้และเดือนนี้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นใน ภูมิภาคทุกประเทศ อาทิ ตลาดหุ้นไต้หวัน, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และไทย ส่วนหนึ่งถูกกดดันจาก Bond Yield 10 ปี สหรัฐที่เร่งตัวขึ้นมาเร็ว 17 bps. (ช่วง 1 – 12 ก.ย. 66) มาอยู่ที่ 4.28% สะท้อนความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐ ในเดือน ส.ค. ที่เร่งตัว ขึ้นมาเป็น 3.7%YoY

อย่างไรก็ตาม วานนี้หลังมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ข้อมูลจาก FedWatchTool ประเมินมาสัปดาห์หน้า Fed มีโอกาสคงดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 92% เป็น 97% และจะคงดอกเบี้ยไปจนถึงช่วงกลางปี 2567

ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปี สหรัฐ เริ่มย่อตัวลงมา 4 bps. และถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ต่อตลาดหุ้นที่ Fund Flow มีโอกาสไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นบ้าง

สรุปแรงขายนักลงทุนต่างชาติมีกาสชะลอ พร้อมกับตลาดหุ้นไทยที่ย่อตัวมาต่อเนื่อง จนปัจจุบันดัชนี 1535 จุด เริ่มเข้าใกล้จุดก่อนได้นายกคนใหม่ (21 ส.ค. 66) 1525 จุด ขณะที่แนวโน้มกำไรยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง (Blooberg Consensus ทยอยปรับ ประมาณการกำไรขึ้น) น่าจะเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นเพิ่มได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย