🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

SET Index น่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1570 จุด 

เผยแพร่ 30/08/2566 09:49
SETI
-

ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้ อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างนิ่ง โดยภาพใหญ่ของตลาด การเงินโลกให้ความสำคัญกับทิศทางดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งความคาดหมายก็ มักจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมา ส่วนเศรษฐกิจ ประเด็นอยู่ที่ปัญหาหนี้สินอสังหาฯ และมาตรการกระตุ้น ส่วนในบ้านเรา การเมืองอยู่ในกระบวนการขั้นท้ายๆ ของการจัดตั้ง ครม.ภาพดังกล่าวทำให้ SET Index น่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1570 จุด ส่วน Investment Theme ให้ น้ำหนักกับหุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ โดยเรื่องเด่นเป็นการแจก Utility Token (กลุ่มที่ 1) มูลค่า 10,000 บาท ให้กับผู้ที่ มีอายุเกิน 16 ปี ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน ซึ่งหวังว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดย ภาพรวม และทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่อยู่ใน Ecosystem ของระบบ

SET Index น่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1570 จุด โดยเบื้องต้นประเมินกรอบ 1550 – 1575 จุด ส่วนหุ้นที่เลือก จะอยู่ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก มาตรการกระตุ้นการ ท่องเที่ยว และ Digital Wallet หุ้น Top Pickเลือก AOT (BK:AOT), GULF และ SCGP

ปัจจัยแวดล้อมพลิกรายวัน เริ่มเทน้ำหนัก Fed คงดอกเบี ย ส่วน จีนจ่อลดดอกเบี ยเร็วสุดศุกร์นี้

  • ตัวเลขเปิดรับสมัครงานใหม่ อยู่ที่ 8.827 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 9.465

ล้านตำแหน่ง และลดลงจากครั้งก่อนที่ 9.165 ล้านตำแหน่ง รวมถึงเป็นการ

ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 2021

  • อัตราส่วนเปิดรับสมัครงานต่อการจ้างงานลดลงมาอยู่ที่ 1.5 ซึ่งตีความได้

ว่าพนักงงาน 1 คนสามารถเลือกทำงานได้ 1.5 งาน อีกทั้งยังเป็นระดับต่ำสุด

นับตั้งแต่ ต.ค. 2564

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่กำลังปรับเข้าสู่สมดุล ส่งผลให้ค่าจ้างมีโอกาสปรับตัวลดลง ซึ่งอาจหนุนเงินเฟ้อชะลอตัวในอนาคต และ Fed อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ Fed Watch tool เริ่มเทน้ำหนักว่า Fed จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.5% ในปีนี้ โดยเปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่คาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. หลังประธาน Fed ส่งสัญญาณ Hawkish ในการประชุม Jackson Holeเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ยังมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ซึ่งเชื่อว่าจะ Fed จะในประกอบการพิจาณาดำเนินนโยบายการเงิน อาทิ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อ การบริโภคส่วนบุคคล (PCE) (31 ส.ค.), การจ้างงานนอกภาคเกษตร (1 ก.ย.) ฯลฯ

ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจจีนช่วงที่ผ่านมาดูไม่คอยสดใส ทำให้ล่าสุด Bloomberg มี การปรับลด GDP Growth ของจีนในปี 2566 ลงมาสู่ระดับ 5.1% (เดิมคาด 5.2%) โดยมองว่า GDP 3Q66 จะขยายตัวได้แค่เพียง 4.4% YoY เนื่องจากการทรุดตัวของ ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีสัดส่วนต่อ GDP กว่า 1 ใน 4

อย่างไรก็ตาม ยังเห็นความพยายามของรัฐบาลจีนที่จะออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยล่าสุดธนาคารของรัฐขนาดใหญ่ที่สุดของจีน กำลังอยู่ใน ขั้นตอนพิจารณาลด “อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก” เป็นครั้งที่ 3 อย่างน้อยในรอบหนึ่งปี เพื่อเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะประกาศออกมาอย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์นี้

สรุป เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลัง ตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญยาณอ่อนแอลง ทำให้นักลงทุนเทน้ำหนักว่า Fed จะหยุดขึ้น ดอกเบี้ยแล้วในปีนี้ ขณะที่จีนยังเห็นความพยายามออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติม โดยล่าสุดกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเป็นครั้งที่ 3

เงินดิจิทัล 10,000 บาท มีโอกาสท้าได้จริงหรือไม่ ? และหุ้นได้มี โอกาสได้ประโยชน์ ?

หนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย คือ การแจก "เงินดิจิทัล 10,000 บาท"ให้กับ คนที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยนายกฯ ยืนยันว่าจะเห็นมาตรการนี้ออกมาช่วง ต้น ปี 2567 โดยเงินดิจิทัลที่แจก เป็น Utility Token ประเภทที่ 1 ซึ่ง Token ดังกล่าวมี วัตถุประสงค์การใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภค ไม่สามารถนำมาซื้อขายในศูนย์ซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล ได้ ขณะที่การนำไปใช้ซื้อสินค้า ต้องได้รับอนุญาติจาก ธปท. ซึ่งเดิม กำหนดให้ ไม่สามารถนำมาชำระค่าสินค้า-บริการได้

ในมุมของงบประมาณคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เม็ดเงินสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท โดย ความเห็นจาก TDRI หรือ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ระบุไว้ว่า แหล่งที่มา ของเม็ดเงินน่าจะมาจาก 4 แหล่ง ดังนี้

  • รายรับจากภาษีของรัฐบาลในปี 2567 ซึ่งประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 แสน

ล้านบาท

  • การจัดเก็บภาษีที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 1 แสน

ล้านบาท

  • การบริหารจัดการงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท

  • การบริหารงบประมาณสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 9 หมื่นล้านบาท

ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าประเด็นดังกล่าว “อาจมีคำถามต่อแหล่งที่มาของเงินทุนอยู่บ้าง” อาทิ ต้องปรับลดงบลงทุนภาครัฐ, ลดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยจากภาระหนี้ สาธารณะในปัจจุบัน รวมถึงปรับลดสวัสดิการที่ถูกมองว่าซ้ำซ้อน นอกจากนี้การ จัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าการกระตุ้น เศรษฐกิจในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างไร?

อย่างไรก็ตามยังมีอีก หนึ่งแนวทางที่สามารถทำให้นโยบายดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลได้ นั้น คือ การกู้เงิน โดยประเทศไทยมีหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 61.15% (ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย.66) ซึ่งตามกรอบวินัยการคลัง สามารถกู้เพิ่มได้จนกว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP จะอยู่ที่ระดับ 70%ซึ่งจะกู้เพิ่มได้อีกราว 1.58 ล้านล้านบาท (บนสมมุติฐาน GDP 17.86 ล้านล้านบาท) แต่โดยหลักการแล้วไม่ควรกู้จนเต็มเพดานหนี้

โดยสรุป เป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อระยะกลาง-ยาวว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ และจะ เกิดขึ้นช่วงเวลาไหน แต่ในระยะสั้น คาดทำให้เกิดความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว และ ถือเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET Index ให้ปรับตัวขึ้นต่อได้ และมีโอกาสสูงที่ดัชนีจะทะลุ แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1570 จุด ซึ่งกลุ่มหุ้นที่สามารถเก็งกำไรได้ คือ กลุ่มหุ้นที่ขาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ และเครือข่ายโทรคมนาคม ADVANC TRUE COM7 SPVI CPWและกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Digital Asset ทั้งหมด BROOK JTS RS ANAN SIRI SC ORI ASW MAJOR JMART KBANK (BK:KBANK) SCB XPG JTS GULFเป็นต้น

สรุป Digital wallet มีโอกาสเกิดขึ้นจริงจากแหล่งที่มาของเม็ดเงินทั้ง 2 รูปแบบข้างต้น ซึ่งต้องติดตามต่อว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และเกิดขึ้นช่วงเวลาไหน อย่างไรก็ตามในระยะ สั้น คาดทำให้ SET ปรับตัวขึ้นต่อได้ และหุ้นที่อยู่ในกระแสเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว และฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ COM7 TRUE SIRI SC JMART KBANK SCB GULF เป็น ต้น

หาหุ้นเก็งก้าไร หลังหุ้นจีนเริ่มรีบาวน์ชอบ AOT SCGP

หลังวันโหวตนายกฯ (22 ส.ค. 66) SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกวันราว 43 จุด หรือ 2.8% ซึ่ง Outperform กว่าตลาดหุ้นโลกที่บวก 2.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน และจะ สังเกตได้ว่า มีตลาดหุ้นจีนที่แอบฟื้นตัวขึ้นกว่า 4.9% ในช่วงเวลาเดียวกัน จากการ คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม คือ ในสัปดาห์นี้อาจเห็นจีนลดดอกเบี้ยเงิน ฝากลงอีกเป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหา “หุ้นไทยรับกระแสหุ้นจีนรีบาวน์ มีตัวไหนยัง Laggard บ้าง” เริ่มต้นจากการรวบรวมข้อมูลหุ้นไทยที่เคลื่อนไหวคล้ายๆ กับหุ้นจีน (มีตัวเลข Correlation ระหว่างกันสูง) อย่าง SCGP, KCE, IRPC, PTTGC, SJWD, MINT, TOP และหุ้นอื่นๆที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว AOT, ERW, CENTEL, III, HYANA, NOBLE, ORI, SCC, IVL, CBG, CRC, NER, MTC นำมาเปรียบเทียบ ผลตอบแทนต้งแต่ต้นปี (ytd)

ผลลัพธ์จากรายชื่อหุ้นดังกล่าว แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่รับกระแสหุ้นจีนฟื้น และลงมาลึก SCGP, IVL, SJWD, NER, NOBLE, PTTGC, IRPC รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก นโยบายหาเสียงของรัฐบาลใหม่ (Free VISA กับ Digital Wallet) คือ ORI CRC AOT ERW

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย