ประเมินว่าในสัปดาห์นี้การจัดโผ ครม. น่าจะแล้วเสร็จพร้อมนำขึ้นทูลเกล้าฯ หลังจากนั้นกระบวนการต่างๆ ก็จะดำเนินไป จนถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนเริ่ม ทำงาน คือการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ซึ่งกำหนดเบื้องต้นไว้เป็น 8 ก.ย.66 นับ จากนี้ไปโหมดการสนทนาประเด็นทางการเมืองจะถูกปรับจาก ใครจะได้กระทรวง ไหน มาเป็นเรื่องแนวนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะทำ ซึ่งในส่วนของตลาดหุ้น ก็จะเห็น เม็ดเงินลงทุนไหลเข้าไปในหุ้นที่คาดหมายว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล ใหม่ สำหรับวันนี้เราหยิบยกมา 1 นโยบาย ได้แก่ การแจก Digital Wallet 10,000 บาทให้ประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป เบื้องต้นถูกกำหนดว่าน่าจะสามารถใช้ได้ช่วง สงกรานต์ปี 2567 ทั้งนี้ก่อนที่จะใช้ได้ต้องมีการสร้าง Ecosystem รองรับ ซึ่งจะ เป็นประโยชน์ต่อหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น Issuer, ICO Portal , Exchange Market และ ผู้ที่รับเงิน Digital ซึ่งมีหุ้นที่เกี่ยวข้องหลายบริษัท
SET Index ยังมีMomentum เหวี่ยงขึ้นได้ต่อ ขณะที่ Downside จำกัดมากขึ้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวช่วง 1545 –1570 จุด สำหรับ Investment Theme อยู่ที่ Digital Money Top Pick เลือก AOT (BK:AOT), ORI และ TRUE
Fed ยังส่งสัญญาณ Hawkish ขึ้นดอกเบี้ยต่อ
วันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวน เฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งสหรัฐฯ หลัง Fed ยัง ไม่มีวี่แววในการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ และดอกเบี้ยดูเหมือนจะยังไม่นิ่ง โดยถ้อยแถลง ของ Jerome Powel ในการประชุม Jackson Hole สรุปได้ 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
• Fed จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง แต่จะยังคงเป้าหมายเดิมคือ การปราบเงินเฟ้อให้อยู่หมัด
• Fed ยังมีโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ หากตัวเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งเกินไป จนอาจเป็นเหตุให้เงินเฟ้อมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
• Fed จะทำการคงอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจไม่ได้ร้อนแรงเกินที่คาดไว้ เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะถูกควบคุม
การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ ทำให้ Fed Watch Tool ปรับน้ำหนักโอกาส ขึ้นดอกเบี้ยปีนี้อาจไปถึง 5.75% โดยในการประชุมรอบเดือน พ.ย. มีความน่าจะเป็น ราว46.7% (เดิมอยู่ที่ 38%)ขณะเดียวกันยังส่งผลให้ Dollar Index พุ่งขึ้นสูงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 104.2 ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน
และเมื่อกลับมามองในบ้านเรา ดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.25% และมี แนวโน้มว่าจะคงไวที่ระดับดังกล่าว หลังเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ (เดือน ก.ค. +0.38%YoY) ประกอบกับภาพเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงชะลอตัวจนกดดันภาค การค้า รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้าในช่วงที่ผ่านมาจนอาจกระทบต่อ ภาคการบริโภค ทั้งนี้ การดำเนินนโยบานการเงินของ ธปท. ที่อาจสวนทางกับ Fed ทำให้ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อาจกดดัน Fund Flow ไหลเข้าเข้าไทย
สรุป ดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีโอกาสยังไม่นิ่ง โดยล่าสุดมีสัญญาณจากประธาน Fed ในการ ประชุม Jackson Hole ที่อาจขึ้นดอกเบี้ยต่อ หนุนค่าเงินดอลาร์แข็งค่า ขณะเดียวกัน อาจกดดัน Fund Flow ไหลเข้าไทย
ส่งออก ก.ค. -6.2%YoY หดตัวสูงกว่าคาด
ภาคการส่งออกไทยเดือน ก.ค. ที่ยังลดลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานราคาเดือน ก.ค. ของปี 2565 อยู่ในระดับสูง (โดยเฉพาะฐานราคาเชื้อเพลิงปีก่อนที่สูงกว่าปกติ มาก) บวกกับเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม การส่งออกในบ้านเราเดือน ก.ค. หดตัวต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย (-18%YoY), เกาหลีใต้ (-16.4%YoY), อินเดีย (-15.9%YoY), จีน (- 14.5%YoY) ฯลฯ และยังมีกลุ่มสินค้าที่สามารถขยายตัวได้ MoM ที่มีความเกี่ยวข้อง กับธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาทิรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (SAT, AH, STANLY), ทูน่ากระป๋อง (TU), ยางพารา (STA), อาหารสัตว์เลี้ยง (ASIAN, AAI, CFRESH, CPF)
ฝ่ายวิจัยฯ คาดในเดือน ส.ค. ภาคการค้าระหว่างประเทศยังมีความหวังว่าจะฟื้นตัว หลังรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุม Politburo ช่วง ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เป็น Sentiment ที่ดีต่อหุ้น SCC, SCGP, PTTCG, III, SJWD, IVL, CPF, NER
การจัดตั้งครม.ใหม่ คาดเสร็จต้น ก.ย.66 นโยบายเด่นๆ หุ้นใด ได้ประโยชน์บ้าง
หลังนายเศรษฐา ทวีสิน โปรดเกล้าฯนายกฯ ขั้นตอนต่อไป คือ การจัดทำรายชื่อ ครม. ซึ่งล่าสุด เริ่มเห็นการจัดสรรทีมครม.ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดย เบื้องต้นครม.ใหม่เตรียม แถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 8 ก.ย.66 ซึ่งหมายความว่า ช่วงเวลาภายใน 2 สัปดาห์นี้ กระบวนการต่างๆ ทั้งสำนักเลขาธิการตรวจสอบคุณสมบัติครม.ชุดใหม่, ทูลเกล้าฯ และเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ประเด็นดังกล่าว ทำให้ Sentiment เชิงบวกยังมีอยู่ และ ผลักดัน SET Index ไปทดสอบแนวต้าน 1560/1570 จุด
ขณะที่ประเด็นถัดไป คือ นโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ได้วาง แนวทาง และ วางกรอบเอาไว้เบื้องต้นแล้ว ประกอบด้วย 1 กระตุ้น 3 เร่งด่วน 3 สร้าง ดังนี้
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในประเทศ อาทิ นโยบาย Digital Wallet แจกเงิน 10,000 บาท/คน ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งประธานคณะกรรมการ ด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่าต้องใช้เวลาขั้นต่ำราว 6 เดือน เนื่องจากต้อง กำหนดเงื่อนไขการใช้พื้นที่ใช้จ่ายเงินของแต่ละบุคคลลง Blockchain ดังนั้นจึงคาดว่า นโยบายดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนสงกรานต์ปีหน้า (
รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวว่าการท่องเที่ยวในประเทศ คือ ประตูรายได้ที่สำคัญ และรวดเร็วที่สุดในการกระจายรายได้ให้ประชาชน จะปรับโฉมสนามบินทั่วประเทศ โดย สร้างสนามบินใหม่ 2 แห่งคือ เชียงใหม่ และ ภูเก็ต ซึ่งแม้ว่าจะเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นยาก และ ใช้งบประมาณสูง แต่ในมุมของการลงทุนระยะสั้นคาดสร้าง Sentiement เชิงบวก ต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม อาทิ AOT, AAV, MINT, CENTEL, ERW เป็นต้น
นโยบายเร่งด่วน 3 ด้าน คือ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ , เร่งแก้หนี้ประชาชน, เร่งแก้ไขราคา พลังงาน
และเร่งด่วน 3 สร้าง คือ สร้างรายได้, สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ, สร้าง คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สรุป การจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ เห็นสัญญาณที่เร็วขึ้น ผ่านการเตรียมแถลงนโยบายต่อ รัฐสภาวันที่ 8 ก.ย.66 ขณะที่ Digital wallet มีโอกาสเกิดขึ้นจริง หลังได้ตัวนายกฯ ดังนั้นหุ้นที่อยู่ในกระแสเก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าว และฝ่ายวิจัยฯชื่นชอบ คือ COM7 TRUE SIRI SC JMART KBANK (BK:KBANK) SCB GULF
แนะนำหุ้น Laggard เกาะกระแสหุ้นจีนฟื้น
ตลาดหุ้นไทยหลังรายงงานงบ 2Q66 เสร็จสิ้น และจบประเด็นสูญญากาศทาง การเมือง หนุนให้ SET Index มีปริมาณซื้อขายกลับมาคึกคักขึ้น และปรับตัวเพิ่มขึ้น 41 จุด หรือ 2.7% Outperform กว่าตลาดหุ้นโลก MSCI ACWI ที่ปรับตัวขึ้น 0.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน และดัชนีที่ Laggard กว่า อย่าง MAI ก็ฟื้นขึ้นมาได้แรงถึง 6.3%
หากมาดูรายละเอียดเป็นราย Sector จากผลตอบแทน ytd (1 ม.ค. – 24 ส.ค. 66) พบว่า กลุ่มหุ้นที่ Laggard ตลาดอยู่มาก อาทิ กลุ่ม PKG -29%, AGRI -25%, PETRO -24% เป็นต้น ขณะที SET Index -7%ytd
อีกทั้งเช้านี้หุ้นจีนยัง +2% ถึง 3% ดังนั้นแนะนำหุ้นไทย Laggard ตลาดได้กระแสจาก ตลาดหุ้นจีนฟื้น
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities