🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ระดับ 1570 จุด น่าจะเป็นจุดหมายต่อไป 

เผยแพร่ 25/08/2566 09:32
SETI
-

SET Index ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องนับจาก 22 ส.ค.66 เหตุเพราะแรงกดดันจาก ปัจจัยการเมืองลดระดับลงมา ส่งผลทำให้Fund flow ไหลกลับเข้ามา หนุนมูลค่า การซื้อขายปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเราประเมินว่าที่ SET Index บริเวณ 1570 จุด อาจเป็นจุดหมายต่อไป และอาจเป็นจุดที่อาจเห็นการขายทำกำไรในระยะสั้น ทั้งนี้เป็นเพราะ ข้อจำกัดในทาง Valuation ซึ่งน่าจะเห็นการปรับลดประมาณการ กำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ลง โดยตัวเลข EPS ที่เราใช้อยู่ปัจจุบันอยู่ที่ 91.8 บาท/หุ้น ซึ่งอาจมีDownside ประมาณ 3 –4% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายมีกาปรับ ขึ้นมาอยู่ที่ 2.25% ภายใต้องค์ประกอบดังกล่าว และกำหนดสมมุติฐานให้Marke Earning Yield Gap อยู่ในช่วง 3.3 – 3.5% ซึ่งประเมินไปตามตัวแปรเรื่อง มูลค่า การซื้อขาย เมื่อประเมินกรอบเป้าหมายเบื้องต้นจะอยู่ในช่วง 1560 –1580 จุด

SET Index ยังมีMomentum เหวี่ยงขึ้นได้ต่อ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวช่วง 1545 –1570 จุด สำหรับ Invesment Theme อยู่ที่ Digital Money และเพิ่มเรื่อง การเริ่มฟื้นตัวของจีน Top Pick เลือก JMART, GULF และ SCGP

ติดตามประชุม Jackson Hole วันนี้ ส่วนจีนพอจะเห็นสัญญาณ บวก อาจหนุนให้ธีม China Play กลับมาน่าสนใจ

วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงมากกว่า 1% เข้าสู่โหมด Risk-off อีกครั้งก่อนการประชุม Jackson Hole ในคืนนี้ เวลา 21.05 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เพื่อติดตามทิศทาง แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป จากถ้อยแถลงของประธาน Fed (Jerome Powel) ซึ่งหากยังส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด เช่นเดิม อาจเป็นปัจจัยกดดันให้สินทรพย์เสี่ยงเกิดความผันผวนได้

ส่วนในฝั่งของจีนยังเห็นความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากภาระหนี้ LGFV ของรัฐบาลท้องถิ่นที่ ล่าสุดพุ่งสูงเกิน 50% ของ GDP โดยมีมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ขณะที่การจ่าย หนี้ล้าช้ามากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลท้องถิ่นจีนขาดสภาพคล่องหนัก แต่ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนกำลังเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว

เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ช้า กดดันเงินหยวนอ่อนหนักนับแต่ช่วงต้นปี 2566 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทำให้เงินหยวนเริ่มชะลอการ อ่อนค่าลง นอกจากนี้ในระยะถัดไป ยังพอจะเห็นสัญญาณเชิงบวกในจีนบ้าง ดังนี้

• ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนเดือน ส.ค. ปรับตัวสูงขึ้น โดยการสำรวจของ Bank of America พบว่า ผู้บริโภคมีแผนที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นใน 6 เดือน ข้างหน้า รวมถึงใช้จ่ายในสินค้าที่แพงขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนภาค Service ต่อไป

• ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีน - สหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น โดยสหรัฐฯ ได้ถอนบริษัทจีน 27 แห่งออกจาก Black List หลังตรวจสอลแล้วว่าบริษัท เหล่านี้มีอยู่จริง และถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ช่วงสัปดาห์หน้าจีนจะมีการ หารือเชิงลึกกับสหรัฐเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและการค้า

• การสร้างสกุลเงินใหม่ของกลุ่ม BRICS เพื่อลดบทบาทของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่ง ล่าสุดได้วางแผนที่จะสร้าง Payment System แล้ว รวมถึงได้ประกาศเชิญ ประกาศเชิญหลายประเทศให้เข้าร่วมกลุ่ม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อียิปต์ อาร์เจนตินา เอธิโอเปีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อขยายอิทธิพลร่วมกัน

ความคาดหวังที่เศรษฐกิจจีนจะค่อยๆ ดีขึ้น อาจหนุนให้ธีม China Play กลับมา น่าสนใจอีกครั้ง โดยฝ่ายวิจัยได้รวบรวมกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ จีนฟื้นตัว

สรุป หาก Fed ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจกดดันให้ตลาดหุ้นผันผวน ขณะที่ ในฝั่งของจีน ยังพอจะเห็นสัญญาณบวก ทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคของจีนเดือน ส.ค. ปรับตัวสูงขึ้น บวกกับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีน - สหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น รวมถึงการสร้างสกุลเงินใหม่ของกลุ่ม BRICS ซึ่งอาจหนุนให้ธีม China Play กลับมา น่าสนใจ แนะนำ SCGP , III , PTTGC

นโยบายลดค่าไฟ เป็นประเด็นน่ากังวลหรือไม่ ?

หนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อจากนี้ คือ นโยบายหลักๆของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้กับ ประชาชน เช่น Digital Wallet 10,000 บาท, ที่ดินทำกิน, ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570, เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท, ลดค่าไฟ, เกณฑ์ทหารโดยสมัคร ใจ, เพิ่มราคาพืชผลเกษตร, แก้ปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในจังหวัด ชายแดนภาคใต้, กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ และจะแก้รัฐธรรมนูญ

ซึ่งวันนี้ฝ่ายวิจัยฯ จะมาเจาะลึกในส่วนของนโยบายลดค่าไฟ โดยปัจจุบันพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาชู 3 แนวทางหลักที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

1. การปรับลดราคพลังงาน น้ำมัน-ไฟฟ้า-ก๊าซ ทันที เพื่อลดภาระการใช้จ่ายให้ ประชาชน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ หากพูดในมุมมองของวิธีการปรับลดในส่วนค่าไฟฟ้า จะเป็นการปรับลดในเชิง ของโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้า โดยเป็นการปรับลดตามกลไกต้นทุนพลังงานที่ แท้จริง เนื่องจากขณะนี้ราคาเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ทั้งราคาน้ำมัน และ ก๊าซฯในตลาดโลก ต่างก็ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้า

2. การเร่งพิจารณาพื้นที่ทับซ้อน เพื่อเพิ่มแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีราคาถูก ซึ่งใน ส่วนนี้ จะถือเป็นการเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯ เพื่อผลักดันให้มีราคาก๊าซฯ ที่ถูกลง โดยพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จะมีการเจรจาเรื่องปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อที่จะนำก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ทับซ้อนขึ้นมาใช้ประโยชน์ โดยมีการจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม การสำรวจและขุดเจาะจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-8 ปี ดังนั้นหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นนโยบายแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าในระยะยาว

3. การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดเพื่อเพิ่มทางเลือก และเพื่อลดการพึ่งพิง พลังงานแบบดั้งเดิม เป็นการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลระดับครัวเรือน หรือ ให้ กฟผ. ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซล เพื่อลดต้นทุนการใช้เชื้อเพลิงในการผลิต ไฟฟ้า

ดังนั้น หากกล่าวโดยสรุป นโยบายลดค่าไฟของทางพรรคเพื่อไทย คงเน้นไปในแนวทาง ลดต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากทำได้จริง ฝ่ายวิจัยมองว่าค่าไฟจะลดลง โดยไม่กระทบการบิดเบือนกำไรของกลุ่มผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการนำเสนอแนวทางระยะสั้นว่าจะลดได้ทันที ยังไม่เห็นรายละเอียดที่รัฐบาล เปิดเผยว่าจะใช้วิธีใดที่จะทำให้ราคาลดลงจากที่ กกพ. ประกาศไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ จึง อาจจะยังถือเป็นประเด็นที่ต้องรอติดตามการนำเสนอแนวทางในระยะสั้นที่ชัดเจนของ ทางพรรคฯต่อไป

ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงพยุงจาก Fund Flow ให้ผันผวนน้อยกว่า ตลาดหุ้นโลกในช่วงนี้

ในสัปดาห์นี้ จะเห็นได้ว่านักลงทุนเอนเอียงน้ำหนักมาที่ตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น สะท้อน ได้จากผลตอบแทน (wtd) ตลาดหุ้นณี่ปุ่น +2.7%, ไทย 2.5%, ฮ่องกง 1.5% Outpefrom กว่า ตลาดหุ้นโลก (MSCI ACWI Index) +0.5% และสหรัฐ(Dow Jones) -1.2%

ขณะที่ตลาดหุ้นไทย คาดยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ดีต่อหรือผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้น โลก หลังจากการได้รัฐบาลใหม่ รวมถึงมีการจัดงาน Thailand Focus ในสัปดาห์นี้ หนุน Fund Flow ต่างชาติเริ่มไหลเข้ามาพยุงตลาดเพิ่มเติม โดยสัปดาห์นี้ต่างชาติซื้อ สุทธิหุ้นไทยไป 1.5 พันล้านบาท (เป็นการซื้อสุทธิ 3 ใน 4 วัน) อีกทั้งยังมีการซื้อสุทธิ SET50 Futures ในวานนี้กว่า 4.8 หมื่นสัญญา (สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้) พร้อม กับ OI ที่ขยับขึ้น หากดูจากสถิติตอนที่ต่างชาติซื้อ SET50 Futures มากสุดอันดับ 1 ของปี 6.1 หมื่นสัญญา ในวันที่ 15 มี.ค. 66 หนุนให้ SET ขึ้นจาก 1523 จุด ไป 1609 จุดได้ในช่วง 2 สัปดาห์ถัดมา

ดังนั้น Fund Flow ต่างชาติที่ทยอยไหลเข้า ทั้งตลาดหุ้น และตลาดฟิวเจอร์สไทย ในช่วงนี้ น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Outperform ตลาดหุ้นโลกต่อได้

***อีกทั้ง Fund Flow ยังช่วยเพิ่มสภาพคล่อง หนุนให้ดัชนีเป้า SET Index มีโอกาส ขยับขึ้นมาชดเชย กำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2566 ที่ถูกปรับประมาณการลงได้ (ซึ่งฝ่า วิจัยฯจะนำเสนอรายละเอียดการปรับประมาณการใน Market Talk วันที่ 28 ส.ค. 66 นี้)***

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นดัก Flow อย่าง GULF, AOT (BK:AOT), TRUE, SCGP, AMATA, BJC, JMT, JMART, COM7

ส่วน Toppick วันนี้เลือก SCGP, GULF, JMART

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย