Volatile week
• SET: คาด SET Index แกว่งด้วในกรอบ 1490-1560 จุดสัปดาห์นี้ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างขึ้นจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการที่จะ มีเหตุการณ์สําคัญหลายอย่างระหว่างสัปดาห์ ทั้งปัจจัยภายในและปัจจัย ภายนอก โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองภายในที่คงจะต้องติดตามตั้งแต่การ แถลงข่าวของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ส่วนทางด้านปัจจัยภายนอกนั้น เรายังคงเห็นการทรงตัวในระดับสูงของ Bond yield และเงินดอลลาร์ สหรัฐฯ ที่เริ่มส่งผลกดดันกระจายไปยังหลายสินทรัพย์มากขึ้น อย่างเช่น Cryptocurrency ล่าสุด นอกจากนั้น เช้าวันนี้ยังมี Sentiment เชิงลบจาก จีนเล็กน้อย หลัง PBOC หั่นดอกเบี้ย Prime rate รุ่น 1 ปีลงน้อยกว่าคาด แถมยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยรุ่น 5 ปีลงตามที่ตลาดคาดอีกด้วย
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนํา Wait & See ในภาพรวมต่อไป พร้อม Selective การถือครองไปยังหุ้นกลุ่มเหล่านี้
1) กลุ่มโรงพยาบาลซึ่งเป็นกลุ่ม Defensive และมี Positive earnings momentum ในช่วงถัดไป ได้แก่ BH, BDMS, BCH
2) กลุ่มส่งออกสินค้าอาหาร/อุตสาหกรรมเกษตรที่ลงมาแรงก่อนหน้านี้ และรับข่าวร้ายในแง่ของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกไปมากแล้ว รวมทั้งยังได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท เช่น CPF, BTG, GFPT, TU, AAI, ITC
3) กลุ่มธุรกิจ AMC ที่ได้ประโยชน์จากการซื้อหนี้ที่ได้ราคาดีขึ้น หลั่งหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท.ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งเห็นสัญญาณ Cash collection ที่ดีในช่วงหลัง อาทิ JMT, CHAYO
• Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/66 ของไทยในวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งล่าสุดตลาดคาดการณ์ขยายตัว 3.0% YoY และ 1.2% QoQ เรา มองมีโอกาสตัวเลขจริงจะออกมาค่ากว่าคาดได้ แต่คงจะไม่ได้ Surprise ตลาดมากนัก หลังจากที่ท่านผู้ว่าธปท.ได้ออกมาส่ง สัญญาณก่อนหน้านี้แล้ว
2) การลงมติของรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯคนใหม่ในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่ง ณ วันนี้ เราประเมินว่าตลาดได้ Price in ความเป็นไปได้ คุณเศรษฐา จากพรรคเพื่อไทยจะขึ้นดารงตาแหน่งเป็นนายกฯไว้ในระดับหนึ่งแล้ว ดังนั้น หากเป็นเช่นนี้จริง อาจมี Sentiment เชิงบวกต่ออีกเพียง เล็กน้อย ในทางกลับกัน หากมี Accident เกิดขึ้นจนทําให้คุณเศรษฐา ได้รับคะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง มองจะเป็น Sentiment เชิงลบสําคัญ อ
3) การประกาศตัวเลข Flash manufacturing PMI ประจําเดือนส.ค.ของ ประเทศสําคัญอย่างยุโรปและสหรัฐฯในวันที่ 23 ส.ค. ซึ่งคาดว่าตัวเลข จริงจะยังอยู่ในโซนหดตัวต่ากว่า 50
4) การจัดงาน Thailand Focus ของตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 23-25 ส.ค. ซึ่งหากมีการเลือกนายกฯสําเร็จในวันที่ 22 ส.ค. อาจทําให้ Mood & Tone ของการจัดงานจะมีกระแสตอบรับจากนักลงทุนต่างชาติที่ดีได้
5) การประชุมของกลุ่มผู้นําธนาคารกลางทั่วโลกที่เมือง Jackson Hole ในวันที่ 24-26 ส.ค. ซึ่งปีนี้มาในหัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy” ซึ่งแน่นอนทุกสายตาคงจับตาไปยังการปาฐกถา ของนาย Jerome Powell ว่าจะมีการส่งสัญญาณต่อไปยังแนวนโยบาย ตลาดได้ การเงินของ Fed ในช่วงถัดไปหรือไม่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities