Stick with HELTH and export-oriented
• SET: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นวานนี้ รับข่าวปัจจัยการเมืองในประเทศที่ พรรคเพื่อไทยประกาศอย่างเป็นทางการที่จะนําพรรครวมไทยสร้างชาติเข้า ร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีกพรรคหนึ่ง ส่งผลให้เสถียรภาพของว่า รัฐบาลใหม่เริ่ม ดูดีขึ้น และทําให้เมื่อวานนี้ Fund flow มีทิศทางกระเตื้องขึ้นมาบ้าง
• Outperformance: ด้วยเหตุนี้ แม่ว่าในระยะสั้นปัจจัยภายนอกอาจยังไม่ มีทิศทางดีขึ้นมากนัก จากประเด็นทิศทางเศรษฐกิจและภาคอสังหาของจีน รวมไปถึงการทรงตัวในระดับสูงของเงินดอลลาร์และ Bond yield สหรัฐฯ แต่ด้วยปัจจัยการเมืองในประเทศที่ตลาดน่าจะตอบรับเชิงบวกชั่วคราวนี้ อาจหาให้ SET Index ปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะ สั่นได้ ทั้งนี้ ยังคงจําเป็นต้องติดตามพัฒนาการทางการเมืองของไทยที่ สําคัญต่อไป ทั้งประเด็นคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนําา Wait & See ในภาพรวมต่อไป พร้อม Selective การถือครองไปไปยังกลุ่ม Defensive ที่มี Positive earnings momentum ในช่วงถัดไปยังกลุ่มโรงพยาบาล (BH, BDMS, BCH) รวมไปถึงกลุ่มหุ้นที่ลงมาแรงก่อนหน้านี้ และรับข่าวร้ายในแง่ของ ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกไปมากแล้ว และได้อานิสงส์จากการอ่อน ค่าของเงินบาท อย่างเช่นกลุ่มผู้ส่งออกอาหารและสินค้าอุตสาหกรรม เกษตร ซึ่งเมื่อวานนี้เริ่มเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นขึ้นมาบ้างแล้ว
• MINT: เราประเมินว่า MINT น่าจะยังเป็นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่มีโมเมนตัม แข็งแกร่งกว่ากลุ่มในช่วงนี้ ล่าสุดมีมุมมองเชิงบวกจากการประชุม นักวิเคราะห์ และคาดว่า 2H66 จะมีผลประกอบการที่ดีกว่าช่วง 1H66 เนี่องจากไม่มีผลขาดทุนจาก NH Hotel และคาดว่ายังสามารถเติบโตได้ YoY เช่นกัน จาก RevPar ที่ยังเติบโตได้จาก ADR และอัตราการเข้าพัก ในขณะที่กลุ่ม QSR คาดสามารถรักษาระดับ Magin ได้ จากการควบคุม ต้นทุน และการเติบโตของ ŞSS หนุนโดยประเทศจีนที่มีฐานค่าในช่วง 2H65 เรายังคงคาแนะนํา “ อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40.50 บาท
• TOP: เรามีมุมมองเชิงบวกกับการประชุมนักวิเคราะห์ โดยแนวโน้มค่าการ กลั่นยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ว่า 2H23 น่าจะยังดีและเห็นการฟื้นตัว ของกําไรใน 3Q23 ด้วยความต้องการนํามัน Middle distillate และ Jet ที่สูงขึ้น คงคําแนะนํา “ชื่อ” ที่ราคาเป้าหมาย 62 บาท
• PTG: เรามีมองเป็นบวกเล็กน้อยกับการประชุมนักวิเคราะห์ โดยแนวโน้ม ค่าการตลาดน่าจะปรับดีขึ้นใน 3Q23 แต่อย่างไรก็ดี ด้วยปัจจัยฤดูกาลที่ ปริมาณขายน่าจะลดลง QoQ จึงอาจส่งผลให้กําไรยังจะทรงตัวหรือดีขึ้น เพียงเล็กน้อย ทั้งนี้เรายังประมาณการกําไรทั้งปีที่ 762 ล้านบาท โดย 1H23 คิดเป็น 51% ของประมาณการ พร้อมคงราคาเป้าหมายที่ 10.70 บาท จาก Upside ที่ยังไม่มากนัก จึงคงคําแนะนําเพียงแค่ “ถือ”
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities