Politics in Focus
• SET: คาดสัปดาห์นี้ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1510-1560 จุด โดยปัจจัยภายนอกที่ต้องติดตามในระยะสั้นยังคงได้แก่พัฒนาการทางตัวเลข เศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมไปถึงการปรับตัวท่าจุดสูงสุด ใหม่ของ Bond yield สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกดดันต่อตลาดหุ้นผ่านภาพของ Yield gap ต่างๆได้ โดยอาจต้องติดตามรายละเอียด FOMC Minutes ที่จะออกมาใน คืนวันที่ 16 ส.ค.นี้ด้วย ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายในประเทศ จําเป็นต้องติดตาม พัฒนาการทางการเมืองของไทยเป็นสําคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อ entiment ของ ตลาดหุ้นไทยโดยรวมได้ (รายละเอียดด้านล่าง)
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะนําา Wait & See ในภาพรวม และ Selective การถือครองไปยังกลุ่มโรงกลั่นและโรงพยาบาล ซึ่งมีภาพการฟื้นตัวของ Earnings momentum ในช่วงถัดไป คงกรอบแนวต้านสูงสุดของ SET ตาม Valuation ที่ระดับ 1560 จุดตามเดิม
• Politics: ติดตามปัจจัยการเมืองในสัปดาห์นี้ ซึ่ง ณ ขณะนี้เราประเมินว่า Base case ที่อยู่ในความคิดของตลาดก็คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยมีพรรค เพื่อไทยเป็นแกนน่าและนายกรัฐมนตรีฯ ดังนั้น หากมีกรณีใดกรณีหนึ่ง
1) ค่าตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 ส.ค.นี้ เกี่ยวกับกรณีการโหวต นายกรัฐมนตรีรอบ 2 ซึ่งถ้าหากมีค่าวินิจฉัยออกมาที่กระทบกระทั่งต่อ Timeline การโหวตนายกฯให้ล่าช้าออกไป มองจะเป็นความผิดหวังที่ เกิดขึ้นในตลาดได้ ดังต่อไปนี้ อาจเป็นจิตวิทยาเชิงลบทีเกิดขึ้นต่อตลาดได้
2) หาก Timeline การโหวตนายกฯเป็นไปตามแผน คงต้องติดตามดูว่าการ โหวตแคนดิเดตที่มาจากพรรคเพื่อไทยจะสําเร็จตั้งแต่รอบแรกเลยหรือไม่ และจะมีการอ้างเกณฑ์คุณสมบัติขึ้นมาในสภาฯเพื่อเปิดประเด็นซักถาม ด้วยหรือไม่ หากการโหวตรอบแรกไม่สําเร็จ อาจเป็นจิตวิทยาเชิงลบได้ เช่นก้น
3) ระหว่างนี้ไปจนถึงการโหวตนายกฯ หากมีพัฒนาการใดๆที่หาให้โอกาส ของนายกฯคนถัดไปที่จะมาจากพรรคเพื่อไทยลดลง มองว่าจะทําให้นัก ลงทุนเริ่มไม่มั่นใจต่อแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาในช่วง ถัดไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คงจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นที อิงกับภาพการบริโภคทีก่าลังขาดตัวช่วยอย่างหนักในช่วงนี้พอสมควร
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities