ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้น้ำหนักไปทางบวก เริ่มจากตัวเลขเงินเฟ้อใน สหรัฐเดือน ก.ค.66 ออกมาที่ 3.2% YoY ต่ำกว่าคาด(3.3%) ผลดังกล่าวทำให้ เกิดความชัดเจนมากขึ้นเรื่องทิศทางดอกเบี้ย โดยตลาดคาดว่า Fed น่าจะคง อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.5% ไปจนถึงต้นปี 2567 ก่อนที่จะปรับลดลง ในอีก ด้านหนึ่ง จีน ประกาศยกเลิกข้อจำกัดในการจัดกรุ๊ปทัวร์ เดินทางไปต่างประเทศ เพิ่มเติมอีกหลายประเทศ ทำให้คาดหมายว่า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยง เดินทาง น่าจะได้รับกระแสเชิงบวกหนุน ส่วนการเมืองในบ้านเราโอกาสที่จะจัดตั้ง รัฐบาลสำเร็จมีสูงขึ้น หลังจากพรรคเพื่อไทย รวมรวมคะแนนเสียงอย่างเป็น ทางการได้ 238 เสียง ขณะที่ พลังประชารัฐ (40 เสียง) ส่งสัญญาณสนับสนุนเพื่อ ไทย และยังมีโอกาสที่จะเห็น 36 เสียงจาก รวมไทยสร้างชาติ เข้ามาสนับสนุนเพิ่ม
ปัจจัยแวดล้อมที่มีน้ำหนักบวกดังกล่าว น่าจะหนุนให้ SET Index สามารถดีดตัว กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1545 จุดได้ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1520 จุด สำหรับหุ้น Top Pick วันนี้เลือก AOT (BK:AOT), BEM และ SIRI
เงินเฟ้อสหรัฐขาลงต่อเนื่อง เชื่อ Fed คงดอกเบี้ยนโยบาย
สัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐฯ อยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยในเดือน ก.ค. +3.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +3.3%YoY ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน +4.7%YoY ต่ำกว่าตลาด คาดและเดือนก่อนที่ +4.8%YoY ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยหลักๆ ปรับตัว ลดลงจากสินค้า Commodities ขณะที่ภาคบริการยังต้องติดตาม เนื่องจากยังมีการ ขยายตัว อาทิ ค่าเช่าบ้าน การขนส่ง ฯลฯ
เงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ช่วยลดความกังวลในการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ขณะที่ล่าสุด Fed Watch Tool ให้น้ำหนักมากกว่า 50% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5% ไปจนถึงสิ้นปีนี้ (ต่ำกว่า Dot Pot ที่ระดับ 5.6%) อย่างไรก็ตามยังคงต้อง Monitor ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐหลังจากนี้ เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกเกือบ 2เดือน ที่ Fed จะมีการจัดประชุมครั้งถัดไป
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลในอดีตในช่วงที่ Fed ทรงดอกเบี้ย พบว่า ตลาดหุ้นมัก ปรับตัวสูงขึ้น สวนทางกับสินทรัพย์ปลอดภัยทอย่าง Dollar Index ที่อ่อนค่า หรือ ชะลอการแข็งค่าลง ปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักให้ค่าเงินบาทแข็งค่า และเป็น ทิศทางที่ดีต่อ Fund Flow ในการไหลเข้ามาในบ้านเรา
สรุป เงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการหยุดวัฏจักร ดอกเบี้ยขาขึ้นในรอบนี้ ซึ่งในช่วงที่ Fed มีการคงดอกเบี้ย มักจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น ขณะที่ Dollar Index มีการอ่อนค่า หรือ ชะลอการแข็งค่าลง ปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะเป็น แรงผลักให้ค่าเงินบาทแข็งค่า และดีต่อทิศทาง Fund Flow อย่างไรก็ตาม ยังคงติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพราะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง อาจทำให้เกิด ปัญหา Recession ตามมาได้
จีนกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว หวังบ้านเราได้รับ Sentiment บวก
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดการเดินทาง แบบกรุ๊ปทัวร์ไปในหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้ง สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น โดยจะมีผลทันทีตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป
การยกเลิกข้อจำกัดนี้คาดว่าจะเป็นตัวกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก โดย เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด จีนนับเป็น 1 ในประเทศที่มีการเดินทาง ท่องเที่ยวในต่างประเทศอันดับต้นๆ ของโลก ขณะที่ข้อมูลล่าสุดเผยว่า การเดินทาง ระหว่างประเทศของจีน (เส้นสีขาว) กำลังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะที่บ้านเราตัวเลขนักนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 พุ่งแตะ 15 ล้านคน โดยรัฐบาลคาดทั้งปี 25 ล้านคน ซึ่งยังเป็นจำนวนที่น้อยกว่าช่วงก่อนโค วิด ส่วนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย 7M66 อยู่ที่ 1.85 ล้านคน ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4 – 5 ล้านคน ทั้งนี้ การที่จีนยกเลิกข้อจำกัดดังกล่าว ฝ่ายวิจัยฯ เชื่อว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาคการท่องเที่ยวในบ้านเรา อีกทั้งในเดือน ต.ค. 66 ยังมี ปัจจัยหนุนจากช่วง Golden week ของจีน ที่เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมออก เดินทางท่องเที่ยว
สรุป จีนยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ไปในหลายประเทศ คาดว่าจะเป็น ตัวกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก และเชื่อว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในบ้านเรา อาทิ MINT CENTEL ERW AOT
ความคืบหน้าของพรรคร่วมรัฐบาล (PART 3) คาดเห็น SET Outperform ในอนาคต
จากตัวเลขที่มีการเปิดเผยจากพรรคเพื่อไทยพบว่าสามารถรวมเสียงจากพรรคร่วม รัฐบาลได้ 238เสียงซึ่งต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เกิน 250 เสียงขึ้นไป(รัฐบาลเสียงข้างมาก) และต้องมีเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกอีกกว่า 100 เสียง จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ วานนี้ทาง สส.พรรคพลังประชารัฐ (นายไผ่ ลิกค์) ได้ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคว่า สส.ทั้ง 40 คน พร้อมโหวต สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย ขณะที่ทางพรรครวมไทยสร้างชาติก็แสดงที่ สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก(>250 เสียงของสภาผู้แทนราษฎร์) และมีโอกาสสูงที่การโหวต นายกรอบที่ 3 มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น(>375 เสียงของรัฐสภา) ซึ่งกำหนดการใน เบื้องต้น ถูกคาดหมายว่าน่าจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงวันที่22-24 ส.ค.66
อย่างไรก็ตามต้องติดตามประเด็น การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะพิจารณารับ หรือ ไม่รับ คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอให้วินิจฉัย การใช้ข้อบังคับการประชุม ที่ 41 ของรัฐสภา ในการโหวตเลือกนายกฯ โดยศาลฯ นัดประชุม 16 ส.ค.66 ซึ่งหากไม่ มีคำสั่งห้ามใดๆ หรือ ไม่รับไว้พิจารณา ก็น่าจะทำให้กระบวนการโหวตเลือก นายกรัฐมนตรีเดินหน้าไปด้วยดี ประเด็นดังกล่าว ทำให้เกิด Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index ทั้งในมุมของ Flow ต่างชาติ และ Volume การซื้อขายให้กลับมาคึกคักอีก ครั้ง
สรุป ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภาพการเมืองมีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังท่าทีของพรรคพลัง ประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ แสดงท่าทีสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้แกนนำ คือ พรรคเพื่อไทย ทำให้การโหวตนายกรอบที่ 3 มีโอกาสสูงที่จะได้ตานายกฯ ดังนั้น SET Index มีโอกาส Outperform ตลาดหุ้นอื่นๆช่วงสั้น ถือเป็นโอกาสสะสม SET Index โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index 1520-1545 จุด
MSCI Rebalance หุ้นไทย ชอบ TTB COM7
เช้านี้ MSCI มีการปรับหุ้นไทยเข้าออกดัชนีในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยมีผลบังคับใช้ใน วันที่ 31 ส.ค. 66 มีรายชื่อดังนี้
โดยจากสถิติในอดีตย้อนหลัง 3 ปี หุ้นที่ถูกคัดเข้า มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากวันที่ ประกาศจนถึงวันที่มีผลบังคับใช้ (31 ส.ค. 66) เฉลี่ยราว 8% ถือเป็น Sentiment เชิง บวกต่อ TTB, COM7, ITC, PSG ในทางตรงกันข้ามหุ้นที่ถูกปรับออกจากดัชนีมี โอกาสผันผวนในช่วงแรก และมักจะขยับตัวขึ้นได้ยากในช่วงก่อนมีผลบังคับใช้
ดังนั้นกลยุทธ์ MSCI PLAY ชื่นชอบหุ้นที่ถูกคัดเข้าดัชนี TTB และ COM7 คาดหวัง การ Outpefrom ตลาดจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. 66
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities