🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

เลือกหุ้นกำไร 2Q66โต สวนตลาด 

เผยแพร่ 10/08/2566 09:46
SETI
-

ตัวเลขผลประกอบการ 2Q66 ที่ประกาศออกมาแล้ว (ส่วนใหญ่ตามคาด) บวกกับ หุ้นที่ฝ่ายวิจัยทำ Preview น้ำหนักรวมประมาณ 56% ของ Market Cap พบว่า กำไรสุทธิงวด 2Q66 หดตัว 30.1% YoY และ 12.3% QoQ แต่อยางไรก็ตาม เห็น ว่ามีบาง กลุ่มอุตสาหกรรม และบางบริษัท สามารถแสดงผลประกอบการงวด 2Q66 ที่เติบโตสวนตลาดทั้ง YoY และ QoQ เช่น ท่องเที่ยว, รับเหมาฯ, Media และ ICT เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหุ้นอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจกล่าวคือ ผล ประกอบการ 2Q66 ออกมาไม่ดี แต่ถูกตีความว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเห็น สัญญาณฟื้นตัวชัดเจนใน 2Q66 เช่นกลุ่ม ค้าปลีก ปิโตรเคมี โรงพยาบาล Investment Theme ในช่วงนี้ จึงเน้นไปยังหุ้น 2 ลักษณะดังกล่าว ส่วนปัจจัย ทางการเมืองยังต้องตามพัฒนาการของการตั้งรัฐบาลต่อไป

SET Index สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาเหนือ 1520 จุดได้ ทำให้ภาพรวมทาง Technical ดูเป็นบวกขึ้น และทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นแนวรับ แนวต้านกำหนดที่ 1545 จุด สำหรับหุ้น Top Pickวันนี้เลือก BJC, COM7และ PTTGC

เงินเฟ้อแผ่ว ดอกเบี้ยเข้าใกล้ช่วงตรึง

วานนี้สำนักงานสถิติจีน เผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค. -0.3%YoY ซึ่งถือเป็นการ ปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเผชิญภาวะ เงินฝืดและมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ทางการ จีนเชื่อว่าเงินเฟ้อจะหดตัวเพียงชั่วคราวเท่านั้น หลังฐาน CPI ปีก่อนอยู่ในระดับสูง บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้เพิ่มเติมเข้ามาช่วงปลายเดือน ก.ค. น่าจะช่วยให้ภาพวมดีขึ้น

ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ วันนี้ (10 ส.ค.) เวลา 19.30 น. รอติดตามการประกาศตัวเลขเงิน เฟ้อเดือน ก.ค. โดย Consensus คาดว่า CPI จะอยู่ที่ +3.3%YoY ขณะที่ Core CPI จะอยู่ที่ 4.7%YoY ชะตัวลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย ทั้งนี้หากตัวเลขออกมาสูงกว่า คาดการณ์ (โดยเฉพาะ Core CPI ที่ต้องจับตามากเป็นพิเศษ) อาจทำให้ตลาดหุ้นต้อง เผชิญกับความผันผวน

ขณะที่บ้านเราล่าสุดผู้ว่าการ ธปท. ส่งสัญญาน “ตรึง” หรือ “คง” ดอกเบี้ย โดยได้เผย ว่า การดำเนินนโยบายการเงินของไทยเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนจาก Smooth Takeoff มาเป็น Landing แล้ว พร้อมกับย้ำว่ายังไม่มีความจำเป็นเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย เหมือนในช่วงที่ผ่านมา หรือปรับขึ้นดอกดเบี้ยให้สูงกว่า Nature Rate อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้ถึงกับปิดประตูขึ้นดอกเบี้ย โดยจะให้น้ำหนักต่อการตัดสินใจกำหนดอัตรา ดอกเบี้ย จาก 3 ประเด็นหลัก ดังนี้

1. ต้องเอื้อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตในระยะยาวอย่างมีศักยภาพ (GDP ที่ 3-4% ถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสม)

2. ต้องดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% ได้อย่างยั่งยืน

3. ดอกเบี้ยต้องไม่เป็นปัญหาต่อความสมดุลของเศรษฐกิจ เช่น ไม่ก่อให้เกิด ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย

ขณะเดียวกันยังมองว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอาจจะยังไม่เอื้อต่อการการปรับ ลดดอกเบี้ย พร้อมเตรียมปรับประมาณการณ์ GDP ไทยลงรอบหน้า ต่ำกว่า 3.6% ลบ เนื่องจากมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จนกระทบต่อภาคการส่งออก ส่วนเงิน เฟ้อ จะทยอยกลับเข้ากรอบเป้าหมายที่ 1-3%

สรุป เงินเฟ้อที่นิ่งขึ้น บวกกับยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หนุน ให้วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นในบ้านเราใกล้จบลง แนะนำหุ้นกลุ่ม High Dividend Yield ที่ คาดว่าจะ Outperform อาทิ SC SIRI CPN ADVANC รวมถึงหุ้น PF&REIT รวมถึง Infrastructure Fund น่าจะเริ่มฟื้นขึ้นได้

ความคืบหน้าของพรรคร่วมรัฐบาล (PART 2) หนุน SET Outperform ในอนาคต

วันนี้พรรคเพื่อไทยจะแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชาติไทยพัฒนาอีก 10 เสียง ทำให้ขณะนี้มีเสียงรวมกัน 238 เสียง ซึ่งต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ให้เกิน 250 เสียงขึ้นไป(รัฐบาลเสียงข้างมาก) และต้องมีเสียงสนับสนุนจาก วุฒิสมาชิกอีกกว่า 100 เสียง จึงจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพได้ ซึ่งต้องติดตามว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะมีพรรคใดเข้าร่วมเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ได้ทำทางเลือกที่เป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลไว้ในบทวิเคราะห์ Market Talk วานนี้

ขณะที่ประเด็นที่น่าติดตาม คือ การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะพิจารณารับ หรือ ไม่รับ คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่เสนอให้วินิจฉัย การใช้ข้อบังคับการประชุม ที่ 41 ของรัฐสภา ในการโหวตเลือกนายกฯ โดยศาลฯ นัดประชุม 16 ส.ค.66 หากไม่มี คำสั่งห้ามใดๆ หรือ ไม่รับไว้พิจารณา ก็น่าจะทำให้กระบวนการโหวตเลือก นายกรัฐมนตรีเดินหน้าไปด้วยดี โดยคาดวันโหวตนายกรอบ 3 ไม่เกิน ส.ค.66 แต่หาก ทางตรงข้าม ก็จะเกิดสุญญากาศทางการเมืองได้

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯคาดว่า หลังประเด็นการโหวตนายกสิ้นสุดลง SET Index มี โอกาสปรับตัวขึ้นแรง เฉกเช่นเดียวกับการเลือกตั้งในปี 2019 นับจาก กกต.รับรองผล การเลือกตั้ง (วงกลมสีส้ม) SET Index จะเกิดการปรับฐานจากความไม่แน่นนอนของ การตั้งรัฐบาล จากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงเปิดประชุมสภา (วงกลมสีเขียว) SET Index จะแกว่ง ออกข้างและค่อยๆปรับขึ้นเมื่อเข้าใกล้ช่วงโหวตเลือกนายกฯ (วงกลมสีม่วง) ซึ่งในรอบปี 2019 หลังจากได้นายกฯ SET Index กระชากแรง 5.5% ในรอบ 1 เดือน ขณะที่ในปี 2023 แม้การโหวตนายกฯรอบ 3 จะยังไม่รู้วันนัดหมายที่แน่ชัด แต่เป็นที่สังเกตว่าหลัง จากนั้น SET Index จะปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่าการโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 3 จะมีความคืบหน้าและรู้ผลลัพธ์ไม่น่าเกินช่วงต้น ก.ย.66 มองเป็นแรงหนุน สำคัญต่อ SET Index ในระยะถัดไป

สรุป ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินภาพการเมืองมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่มีความผันผวนอยู่บ้าง จากที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาร้องปมเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำ ผิดญัตติหรือไม่ อย่างไร ก็ตามจากสถิติการเลือกตั้งปี 2019 บ่งชี้ว่าหลังการโหวตเลือกนายกฯสำเร็จ SET Index ปรับตัวขึ้น 5.5% ใน 1 เดือนถัดมา ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นโอกาสสะสม SET Index โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index 1520-1545 จุด

หาหุ้นน่าสะสม ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาลประกาศงบ 2Q66

ฝ่ายวิจัยฯ ทำการรวบรวมกำไรงวด 2Q66 ทั้งที่ประกาศและทำ Earning Preview 135 บริษัท พบว่า มีกำไรงวด 2Q66 1.44 แสนล้านบาท (ลดลง -12%QoQ และลดลง -30%YoY) ถือเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ ในช่วงนี้

แต่ยังมีพอมี Sector ที่กำไรเติบโตทั้ง QoQ และ YoY สวนทางภาพรวมตลาดที่ลดลง อาทิ กลุ่ม HOME, INSUR, TOURISM, CONS, MEDIA, BANK, ICT, ETRON จะ สังเกตได้ว่าให้ผลตอบแทนที่ Outperform ตลาดเช่นกัน

ในอีกมุมจะสังเกตได้ว่า กำไรงวด 2Q66 ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามตลาดคาด (In-line) โดยต่ำกว่าที่ตลาดคาดเพียง -0.06% ถือว่าดีกว่ากำไรงวด 1Q66 ที่ต่ำคาด -3.4% และงวด 4Q65 ที่ต่ำคาดถึง -25% ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยอาจไม่ได้ผันผวนแรงเหมือน ช่วงที่มีการรายงานงบในช่วงที่ผ่านๆ มา

โดยหุ้นที่กำไรออกมาดีกว่าตลาดคาด ส่วนใหญ่จะขยับขึ้นได้ดี ต่างกับหุ้นที่กำไร ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนใหญ่ย่อตัวลง ยกเว้นหุ้นกำไรผ่านจุด Bottom Out รีบาวน์ ขึ้นมาได้ดี อาทิ SPRC DOHOME COM7 เป็นต้น

ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า ในช่วงฤดูกาลรายงานงบ 2Q66 กำไรมีโอกาสลดลงทั้ง QoQ และ YoY แต่ตลาดหุ้นไทยอาจจะไม่ได้ผันผวนเหมือนกับช่วงรางงานงบในไตรมาสที่ผ่านๆ มา เพราะ ส่วนใหญ่งบที่ประกาศจะออกมาเป็นไปตามตลาดคาด และ ไม่ได้ต่ำกว่าคาดเยอะเหมือนในอดีต

กลยุทธ์หากลุ่มหุ้นน่าสะสม ในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาลประกาศงบ 2Q66

1. กลุ่มกำไรงวด 2Q66 เติบโตเด่นสวนภาพรวมตลาด แนะนำกลุ่ม BANK

(KBANK (BK:KBANK), SCB), ICT (ADVANC), TORISM (MINT), CONS (STEC CK),

MEDIA (PLANB), ETRON (KCE)

2. กลุ่มหุ้น คาดหวัง (Bottom Out) โดยกำไรงวด 3Q66 มีโอกาสเติบโตต่อ

แนะนำ กลุ่ม COMM (COM7, BJC, DOHOME), PETRO&REFIN

(PTTGC, SPEC, TOP), HELTH (BCH CHG), TORISM (ERW, CENTEL),

CONS (STEC, CK), MEDIA (PLANB), ETRON (HANA, KCE)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย