สัปดาห์นี้ในเชิงภาพรวมเศรษฐกิจถือเป็นเทศกาลเงินเฟ้อ โดยจะมีการประกาศ ตัวเลขของหลายประเทศเริ่มจากบ้านเราในวันนี้คาดเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.64% YoY สูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็จะคิวของ จีน และ สหรัฐ ส่วนในมุม ของตลาดหุ้นบ้านเรา ถือว่าเป็นเทศกาลการประกาศผลประกอบการ 2Q66 ซึ่ง ภาพรวมเราประเมินว่า น่าจะเห็นการหดตัวทั้ง YoY และ QoQ แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิด Downside จากคาดการณ์EPS ที่เราทำไว้ 91.8 บาท/หุ้น หุ้นที่ สามารถประกาศกำไรเติบโตสวนทางภาพรวมได้ก็น่าจะ Outperform ตลาดหุ้น ได้ สำหรับประเด็นทางการเมืองต้องถือว่าเป็นแรงกดดันตลาดหุ้น โดยช่วง ปัจจุบันถือว่าเป็นสุญญากาศ กระบวนการโหวตเลือกนายกฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้ง หลัง ศาลรัฐธรรมนูญมีความชัดเจนกรณีคำร้องให้วินิจฉัยการใช้ข้อบังคับการ ประชุมที่ 41 ของรัฐสภา กับการโหวตเลือกนายกในวันที่ 16 ส.ค.66
คาดว่า SET Index น่าจะผันผวนอยู่ในกรอบแคบโดยมี 1545 จุด เป็นแนวต้าน สำคัญ และ 1520 เป็นแนวรับ Theme การลงทุนช่วงนี้เลือกหุ้นที่มีผล ประกอบการเติบโตสวนตลาดหุ้น Top Pick เลือก ADVANC, CPN และ PTTEP
เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มตึง อาจเพิ่มโอกาสให้เม็ดเงินไหลเข้าโซนเอเซีย
ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วค่อนข้าง Outperform นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เฉพาะอย่างยิ่งดัชนี NASDAQ ที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 32.9%Ytd อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินมีแนวโน้มชะลอไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงในสหรัฐ หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณตึง ตัวมากขึ้น โดยล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payrolls) ใน เดือน ก.ค. แม้จะยังเพิ่มขึ้น 187,000 ตำแหน่งแต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าตลาดคาด ที่ 200,000 ตำแหน่ง อีกทั้งยังปรับตัวสูงกว่าเดือนก่อนหน้าเพียงเล็กน้อยที่ 185,000 ตำแหน่ง
ภาคแรงงานสหรัฐที่ค่อยๆ ชะลอตัวลงเข้าสู่สมดุล อาจทำให้ Fed คงดอกเบี้ยไว้ ระดับสูงที่ 5.5% ซึ่งจะส่งผลให้ MEYG ติดลบที่ -0.72% สวนทางกับฝั่งเอเชียที่ MEYG อยู่ในระดับที่สูงกว่า อาทิ ไทย 3.7%, ฮ่องกง 4.5%, เวียดนาม 3.5%, ฟิลิปปินส์ 1.3% ดังนั้น ในระยะถัดไปอาจมีโอกาสเห็นเงินไหลออกจากสหรัฐไป สินทรัพย์อื่นได้มากขึ้น
นอกจากนี้ตลาดหุ้นบ้านเรา ซึ่งมีสัดส่วนอุตสาหกรรมกลุ่มพลังงานสูงถึง 1 ใน 3 อาจ ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลัง OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิต รวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นปี 2567 (เดิมสิ้นสุดที่ปี 2566) อีกทั้งก่อนหน้านี้ ซาอุอาราเบีย ยังได้ประกาศขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน รวมถึง รัสเซียได้ลดการส่งออกน้ำมันลง โดยเมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.56%
สรุป ภาครวมภาคแรงงานสหรัฐฯ แม้จะยังดูแข็งแกร่ง แต่เริ่มส่งสัญญาณที่ตึงตัวมาก ขึ้น หลังตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชลอตัวลง ขณะที่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ อยู่ใน ระดับสูง ส่งผลให้ MEYG แคบลงเรื่อยๆ ซึ่งสวนทางกับฝั่งเอเซีย ทำให้ระยะถัดไป อาจมี โอกาสเห็นเงินไหลออกจากสหรัฐไปสินทรัพย์อื่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ ปรับตัวขึ้น อาจลดแรงกดดันในตลาดหุ้นบ้านเราช่วงนี้
หาหุ้นงบ 2Q66เด่นสวนตลาด หลบสูญญากาศทางการเมือง
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงสูญญากาศการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง รวมถึงยังเป็นช่วงการรายงานงบ 2Q66 ของบริษัทจดทะเบียนที่กลับมาหนาแน่นอีก ครั้ง โดยมีรายชื่อหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมจะรายงานในสัปดาห์นี้
และฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมข้อมูลกำไรงวด 2Q66 ที่รายงานออกมาแล้ว 1.04 แสนล้าน บาท ลดลง 4%QoQ และเพิ่มขึ้น 6.5%YoY (คิดเป็นสัดส่วน 27% ของ Market Cap รวม) แต่หากนำมารวมกับบริษัทที่ฝ่ายวิจัยฯ ได้ทำ Earning Preview แล้ว จะพบว่า กำไรงวด 2Q66 อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท ( คิดเป็น 53% ของ Market Cap รวม) ลดลง 10.5%QoQ และลดลง 25.6%YoY กดดันให้สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงเผชิญ กับการรายงานงบงวด 2Q66 ที่มีโอกาสลดลงทั้ง QoQ และ YoY และยังอยู่ภายใต้ สูญญากาศทางการเมืองอีก
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำสะสมหุ้น Earning Play หรือ หุ้นแนวโน้มกำไร 2Q66 มีโอกาสเติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY สวนทางกับภาพรวมตลาด อย่าง MINT, MAJOR, CK, BGRIM, PLANB, BEM, JMT, SNNP, ADVANC, INTUCH, CPN, III, SIRI ฯลฯ
ขณะที่ SET Index วันนี้ประเมินเคลื่อนไหวในกรอบ 1520 –1545 จุด ส่วน Toppick เลือกหุ้นแนวโน้มกำไร 2Q66 เด่น ADVANC, CPN และหุ้นได้ Sentiment จากราคา น้ำมันขยับขึ้น อย่าง PTTEP
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities