ปัจจัยแวดล้อมทางพิ้นฐานในต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขเศรษฐกิจซึ่งล่าสุด ทั้งใน สหรัฐ และ ยุโรป ตัวเลขต่างๆ ออกมาในทางบวก ซึ่งเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้น ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับ SET Index ปัจจัยหลักที่มีผลต่อทิศทางการ เคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้เป็นสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งกำลังเข้าใกล้จุดการ เปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม โดยวันนี้จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาฯ หลังจากนั้นใน วันพรุ่งนี้ (4 ก.ค.66) จะมีการประชุมสภาเพื่อลงมติเลือก ประธานสภาผู้แทน ราษฎร์ และ รองประธานอีก 2 ตำแหน่ง จากการติดตามพัฒนาการของข่าวยังไม่ เห็นข้อตกลงร่วมที่ชัดเจนของ เพื่อไทย และ ก้าวไกล ว่าจะเสนอชื่อใครสำหรับ ตำแหน่งประธานสภาฯ ขณะที่ลำดับต่อไปจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ยัง มีความไม่แน่นอนสูง ว่าจะได้คะแนนสนับสนุนพอหรือไม่ คาด SET Index ผันผวน
เชื่อว่า SET Index วันนี้ยังมีMomentum เหวี่ยงขึ้นต่อ แต่สุดท้ายอาจปิดไม่ต่าง จากระดับปัจจุบันมาก เพื่อรอลุ้นผลประธานสภาฯ คาดอยู่ในกรอบ 1490 – 1520 จุด หุ้น Top Pick เลือก ADVANC, KBANK (BK:KBANK) และ SCC
บรรยากาศตลาดหุ้นต่างประเทศอยู่โซนบวก คาดเป็นแรงหนุน ต่อ SET Index
การนัดหมายประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆ ที่ยังต้องรออีกหลาย สัปดาห์ ทำให้ในช่วงนี้ตลาดกลับมาพุ่งเป้าให้ความสำคัญกับตัวเลขทางเศรษฐกิจมาก ขึ้น โดยวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวขึ้นราว 0.4% -1.5% หลัง การรายงานหลายตัวเลขเศรษฐกิจ มีทิศทางที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ดังนี้
สหรัฐฯ : กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผย เงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ค. อยู่ที่ +3.8%YoY ต่ำ กว่าตลาดคาดที่ +4.6% และปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่ +4.3% นอกจากนี้ตลาด ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจาก จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่บ่งชี้ว่า ดัชนี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 64.4 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าคาดที่ระดับ 63.9
ยุโรป : สำนักงานสถิติยุโรปเผย เงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. อยู่ที่ +5.5%YoY ต่ำกว่าตลาด คาดที่ +5.6%YoY และปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนที่ +6.1%YoY เนื่องจากราคา น้ำมันชะลอตัวลง นอกจากนี้เงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน มิ.ย. +5.3%YoY ยังต่ำกว่าตลาด คาดที่ +5.5%YoY
จีน : สำนักงานสถิติแห่งชาติเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน เดือนมิ.ย. อยู่ที่ 49.0 จุด ตามคาด ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ 48.8 จุด อย่างไรก็ตามดัชนี PMI จีน จากผลสำรวจของสถาบันฯ CAIXIM ออกมาเหรือระดับ 50 จุด อยู่ที่ 50.5 จุด และยังสูงกว่าคาด 50.2 จุด อีกส่วนหนึ่งนักลงทุนยังคาดหวัง รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในไม่ช้านี้
ส่วนในสัปดาห์นี้มีประเด็นที่น่าติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ในบ้านเราคาดว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น หลังประชุมสภาฯ นัดแรก (4 ก.ค.) รวมถึงจับตาทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของกนง. จากตัวเลขเงินเฟ้อ ไทยเดือน มิ.ย. (5 ก.ค.) นอกจากนี้ยังต้องติดตามท่าทีของ Fed หลังการประกาศ ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ
สรุป ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจในต่างประเทศที่ส่งสัญญาณในเชิงบวก ทำให้ตลาด หุ้นเข้าสู่โหมด Risk-on มากขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านคาดว่าจะได้รับอานิสงส์เช่นกัน โดยวันนี้ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1490 - 1520 จุด
ประเด็นการเมืองกำลังเข้าจุดไคล์แม็กซ์ แต่ก็ใกล้เห็นบทสรุป กล ยุทธ์แนะนำ Buy On Dip
ประเด็นการเมืองยังร้อนแรง หลังการประชุมร่วม 8 พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อตอนสาย วันที่ 2 ก.ค. เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง ทั้งพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย ยังไม่อาจตกลงกันได้ โดยให้พรรคเพื่อไทยไปหาข้อสรุปภายในพรรคก่อนเที่ยงวันที่ 3 ก.ค. หรืออย่างช้าที่สุด ก็ต้องไม่เกินเช้าวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันโหวตเลือกเพื่อได้ตัว ประธานสภาฯ
แม้ยังเห็นความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นอยู่ แต่ตาม Timeline ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงท้ายของ บทสรุป คาดว่าจะเห็นการโหวตนายกฯ ในวันที่ 15 ก.ค. 66
ส่วนในมุมตลาดหุ้นไทย หลังเลือกตั้งมา 1 เดือนครึ่ง ถือว่าบอบช้ำมาระดับหนึ่ง โดย SET Index เคยปรับฐานลงไปกว่า 100 จุด แต่เริ่มมีการฟื้นกลับมาบ้าง หลังต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 3 วันติดต่อกันราว 3.3 พันล้านบาท และในอีกมุมตลาดหุ้นไทย Laggard กว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียมาก โดยในช่วง 1H66 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น +29%, ไต้หวัน +20%, เกาหลีใต้+16%, ฟิลิปปินส์-1.5%, อินโดนีเซีย -3% ทิ้งห่างไทยที่ - 10%
หากลงรายละเอียดเป็น Sector พบว่า ในช่วง 1H66 มีกลุ่มหุ้นที่ Outperform SET คือ ETRON BANK TOURISM HELTH TRANS ขณะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ Underperform SET คือ ENERG PETRO MEDIA FIN CONS PKG เป็นต้น และจะ เห็นได้ว่าผลตอบแทนมีการฉีกออกจากกันมาก
ดังนั้นภายใต้ประเด็นการเมืองเริ่มเข้าใกล้จุดไคล์แม็กซ์ แต่ก็ใกล้เห็นบทสรุปเช่นกัน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันลงมาจนให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน มาก ทำให้เชื่อว่าน่าจะมี Fund Flow ต่างชาติไหลเข้ามาสะสม หรือ Buy on Dip ในหุ้น ที่ลงมาลึก เพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาว Momentum ดังกล่าวอาจช่วยหุ้นไทยให้ ผันผวนน้อยลง และมีโอกาสฟื้นในระยะถัดไปได้
ฝ่ายวิจัยจึงทำการคัดกรองหุ้นน่า Buy on Dip ซึ่งเป็นหุ้นพื้นฐานที่อยู่ในกลุ่มถูกกดลง มาลึก และเริ่มเห็นสัญญาณ Cover Short กลับมา อย่าง PTT (BK:PTT), IVL, CK, PTTEP, CKP, TOP, EA, PLANB เป็นต้น
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities