Weak momentum on fund flow
• SET: ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นโลกอย่างต่อเนื่อง มองปัจจัยกดดันเมื่อวานนี้กลับมาเป็นทางด้าน Fund flow ที่อ่อนแรงต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ผิดหวัง ราคานํามันที่ร่วงลง และความวุ่นวายทาง การเมืองที่อาจกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังมีข่าวพรรคเพื่อไทยยังคง ต้องการตาแหน่งประธานสภาฯ ซึ่งอาจทําให้การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลมีความยุ่ง เหยิงมากขึ้น และทําให้การประชุมร่วมระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะถือหุ้นที่ได้ทยอยซี้อบริเวณดัชนี SET ตี๋ากว่า ระดับ 1490 จุดลงมา เพื่อรอโอกาสรอบถัดไป หากดัชนีเดินหน้าลงต่อสู่แนว รับสําคัญของเราที่บริเวณ 1450-1460 จุด ในวันนี้ล่าสุดต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกําหนด ของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก
• Weak foreign flow: สถานะของนักลงทุนต่างชาติยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเมื่อวานนี้ Short สุทธิใน Index futures ไปถึง 1.1 หมื่นสัญญา และเป็น การเปิดสถานะใหม่ใน Series U เป็นส่วนใหญ่ บ่งชี้ถึงมุมมองของนักลงทุน กลุ่มนี้ต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นไตรมาส 3 ที่อาจยังไม่ดีนัก สอดคล้องกับ มุมมองของเราที่ประเมินว่าเราจะเริ่มต้นไตรมาส 3 ด้วยเครื่องหมายค่าถามเต็ม ไปหมด ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการเมืองภายในประเทศ หรือแนวนโยบายการเงิน
• ส่วนประเด็นดุลการค้าที่ออกมาย่าแย่เมื่อวานนี้นั้น (รายละเอียดด้านล่าง) ยังเป็นปัจจัยซ่าเติมต่อมายังทิศทางเงินบาทและ Fund flow ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของตลาดตราสารหนี้ ที่เมื่อวานนี้เห็นการขายสุทธิในช่วง บ่ายถึง 3.6 พันล้านบาท โดยเป็นการกระจุกการขายในรุ่นระยะสั้นเป็นสําคัญ ส่งผลให้ Bond yield ระยะสั้นเช่นรุ่น 2 ปีของไทยปรับตัวสูงขึ้นท่าจุดสูงสุด ใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว (รูปที่ 1) และท่าให้ความชัน Yield curve (2s10s spread) ปรับตัวลงท่าจุดต่ําสุดใหม่ด้วยเช่นกัน (รูปที่ 2) ถือเป็นภาพที่ไม่ดีนัก ต่อกลุ่มหุ้น Domestic cyclical ในช่วงถัดไป รวมถึงธุรกิจที่จะต้องมีการ Rollover หุ้นกู้ระยะสั้นในช่วงถัดไป
Trade data: กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออก-นําเข้าของไทย ประจําเดือนพ.ค.มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1) การส่งออกหดตัว 4.6% น้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 8.0% โดยการ หดตัวที่สําคัญเกิดขึ้นในหมวด เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ / ผลิตภัณฑ์ยาง / เคมีภัณฑ์ / เม็ดพลาสติก / นํามันสําเร็จรูป
2) การนาเข้าหดตัว 3.4% YoY น้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 10.0% โดยการหดตัวที่สําคัญเกิดขึ้นในหมวด น้ํามันดิบ / เคมีภัณฑ์ / เหล็กและ ผลิตภัณฑ์/อัญมณีและทองคํา
3) การส่งออกไปจีนย่าแย่มาก โดยหดตัวไปถึง 24% เป็นการหดตัวของ สินค้าหลักที่มีสัดส่วนมากที่สุด 4 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ / ผลิตภัณฑ์ ยาง / เม็ดพลาสติก / มันสําปะหลัง สะท้อนภาพอุปสงค์และภาคการผลิต ของจีนที่กลับมาอ่อนแออย่างมากในช่วงหลัง
4) ดุลการค้าออกมาอ่อนแอมาก โดยขาดดุลไปถึง 1.8 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับที่ตลาดคาดว่าจะขาดดุล 390 ล้านเหรียญฯ มองเป็นปัจจัยกดดัน ค่าเงินบาทให้มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป และเป็นปัจจัยกดดันต่อไปยังดุล บัญชีเดินสะพัดที่จะประกาศออกมาในวันที่ 30 มิ.ย.นี้
5) Reaction ของตลาดพบการอ่อนค่าของเงินบาทอย่างชัดเจน โดยเป็น สกุลเงินที่อ่อนค่ามากที่สุดในเอเชียรอบ 1 วันที่ผ่านมา และมาพร้อมกับ แรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่เกิดขึ้นทั้งในตลาดหุ้น และตลาดตรา สารหนี้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities