ภาวะ Fund Flow ไหลออก น่าจะผ่อนคลายลง ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย น่าจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การประชุม Fed รอบนี้น่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และก็มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เพดานดอกเบี้ยรอบนี้จะจำกัด ขณะที่ในบ้านเราเชื่อว่าที่ระดับอัตราดอกเบี้ย นโยบาย 2% ก็น่าจะเป็นระดับที่เหมาะสม ภาวะดังกล่าวน่าจะทำให้Fund Flow มี ความนิ่งมากขึ้น โดยอย่างน้อยน่าจะหยุดการไหลออกม ส่วนจะมีการซื้อกลับเข้า มาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมืองในบ้านเรา ซึ่งล่าสุดมีความเป็นไปได้ มากที่ กกต. จะรับรอง ส.ส.เกิน 95% ภายในสัปดาห์หน้า นำไปสู่การเปิดสภาฯ
SET Index ยังมีช่องว่างในการปรับตัวขึ้น โดยเรายังคงเป้าหมายทั้งปีที่ 1610 จุด ส่วนระยะสั้น แนวรับอยู่ที่ 1558 จุด แนวต้านบริเวณ 1570-1575 จุด หุ้น Top Pickเลือก GULF, SCC และ SCGP
คาด Fed คงดอกเบี้ย 5.25%หลังเงินเฟ้อสหรัฐฯ พ.ค. +4.0%
วานนี้ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยบวก โดยเริ่ม จากในฝั่งจีนที่ PBOC ประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น (repurchase rate) 7 วัน ลง 0.1% สู่ระดับ 1.9% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยนี้ครั้งแรกนับตั้งแต่ ส.ค. 2022 ทำ ให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบราว 2 พันล้านหยวน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ (15 มิ.ย.) คาดว่าจะมีการดำเนินการเพิ่มเติม ผ่านการปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปีรวมถึงในศุกร์ (16 มิ.ย.) ยัง คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ โดยเน้นไปที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ และ อุปโภคภายในประเทศใหกลับมาฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แนะนำหุ้นที่เกี่ยวข้องกันการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจจีน อาทิ SCGP SCC IVL HANA KCE TU
ขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ ได้เผยเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค. +4.0%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +4.1%YoY รวมถึงชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ +4.9%YoY โดยทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังราคาพลังงานปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ +5.3%YoY ตามคาด ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ +5.5%YoY ซึ่งยังคงมาจากการ ขยายตัวของภาคบริการเป็นหลัก เฉพาะอย่างย่งค่าเช่าบ้าน (Shelter) ส่วนหนึ่งเป็น เพราะ Demand การจ้างงานยังมีอยู่ บวกกับดอกเบี้ยที่สูงทำให้พฤติกรรมของ ประชาชนเปลี่ยนจากซื้อบ้านมาเป็นเช่าบ้านแทน
ทั้งนี้ เงินเฟ้อสหรัฐที่ชะลอตัวลง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ Fed จะพิจารณาผ่อนคลาย นโยบายทางการเงิน ขณะที่ Fed Watch Tool เทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ ที่ว่า Fed คงดอกเบี้ยครั้งแรกในวันนี้ หลังจากขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 10 ครั้งติดต่อกัน รวมถึงคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปของ Fed
วงจรขาขึ้นดอกเบี้ยที่ใกล้ยุติลงในต่างประเทศ คาดว่าจะเป็นสัญญานการหยุดขึ้น ดอกเบี้ยในประชุมกนง. วันที่ 2 ส.ค. นี้ และอาจเห็นการคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2% ซึ่ง น่าจะการช่วยลดแรงต่อ SET Index ลงได้บ้าง
สรุป เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลังได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยบวก ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน รวมถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวต่อเนื่อง หนุน Fed คงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่บ้านเราอาจเห็น กนง. คงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2% ในการ ประชุมรอบเดือน ส.ค. ซึ่งน่าจะเป็นช่วยลดแรงต่อ SET Index ลงได้บ้าง
คาด กกต.รับรองผล สส.ครบ 95% สัปดาห์หน้า แต่จุดสนใจ คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มกระบวนการพิจารณารับรองผล สส. โดยใน ระบบเขต 330 คน เป็นกลุ่มที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน คาดจะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวอีก ครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า (19 – 23 มิ.ย.66) จึงจะออกประกาศเรื่องรับรองผล การเลือกตั้งในคราวเดียวโดยอาจประกาศรับรอง ครบทั้ง 500 คน (ตามแผน = 27 มิ.ย.66 ก่อน กกต. ท่านหนึ่งจะเกษียณอายุ 70 ปี) ซึ่งการรับรองผลดังกล่าว คาดทำ ให้กระบวนการต่างๆเร็วขึ้นกว่าเดิมราว 2 สัปดาห์กว่าๆจาก Timeline การจัดตั้ง รัฐบาลเดิม และหนุนให้วานนี้ SET Index ปิดตัวในแดนบวกกว่า 11 จุด ยืนระดับ 1562.40 จุด
แม้กระบวนการต่างๆจะเกิดเร็วขึ้นราว 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม วาระสำคัญของ ประเด็นนี้ คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกต้องได้เสียง เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน รวม 750 คน หมายความว่าต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุน 376 คน ขึ้นไป ซึ่งเสียงของพรรคร่วม รัฐบาลที่มีการลมมติข้อตกลง MOU ร่วมกันมีเพียง 312 เสียงซึ่งขาดอีก 64 เสียงถึง จะมีคะแนนเสียงสนับสนุนเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งต้องเพิ่งพาเสียงสนับสนุนจาก สว.บางส่วน ทั้งนี้จากข้อมูลที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ พบว่าล่าสุดมีจำนวน สว.ที่จะ โหวตให้ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีราว 17 เสียง ซึ่งต้องติดตาม ต่อเนื่องว่า หากเวลาดำเนินไปจนถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว จะได้คะแนน เสียงสนับสนุนถึง 376 เสียงจาก 750 เสียง หรือไม่ หากไม่ผ่านการโหวตก็จะทำให้ จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ต้องชะลอออกไป ซึ่งอาจทำให้ Fund Flow ต่างชาติหยุดชะงัด และ ส่งผลให้ SET Index ผันผวนจนกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ
สรุป การรับรองผล สส.ของ กกต.เป็นไปด้วยความราบรื่น และคาดเปิดสมัยประชุม รัฐสภาช่วงต้นเดือน ก.ค. 66 ต่อมา คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วจัดตั้ง ค.ร.ม. นำขึ้นทูลเกล้าฯ และถวายสัตย์ปฎิญาณก่อนเริ่มทำหน้าที่ ซึ่งคาดเร็วสุด กระบวนการควรจบภายในเดือน ก.ค.66 อย่างไรก็ตามหากจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ไม่ได้ จากคะแนนเสียงสนับสนุนไม่เกินกึ่งหนึ่งของ 750 เสียง(376 เสียงขึ้นไป) อาจทำให้ SET Index ผันผวนในทิศทางลง จากที่ Fund flow ต่างชาติยังรอความชัดเจนของประเด็น ดังกล่าว
เวลาต่างชาติกับสถาบันฯ ซื้อหุ้นไทยพร้อมกัน หุ้นมักขึ้น
วานนี้ต่างชาติและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิทั้งคู่กว่า 1.8 พันล้านบาท และ 2.2 พันล้านบาท ตามลำดับ หนุนให้ SET Index ปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งซึ่งจากสถิติในอดีต ตั้งแต่ปี 2021 - ปัจจุบัน ถ้าต่างชาติและสถาบันซื้อสุทธิหุ้นไทยพร้อมกัน SET Index มักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 0.65%ต่อวัน และมีโอกาสที่ Return จะเป็นบวก 88.7% รองลงมาคือ ต่างชาติซื้อสุทธิ SET Index มักสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยลดหลั่นลงมา เหลือ 0.35%ต่อวัน และมีโอกาสที่ Return จะเป็นบวก 73.3% เป็นต้น
นอกจากนี้เริ่มเห็นต่างชาติและสถาบันฯ ซื้อสุทธิหุ้นไทยพร้อมกันถี่ขึ้น ซึ่งในอดีตเวลา ต่างชาติและสถาบันฯ ซื้อหุ้นไทยพร้อมกันย้ำๆ SET Index มีโอกาสขึ้นได้เร็วในเวลา สั้นๆ
ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย. ที่มักเกิด Window Dressing รวมถึงกองทุนยัง ถือเงินสดอยู่เยอะ จึงเชื่อว่า น่าจะเห็นเม็ดเงินจากกองทุนคอยพยุงตลาดในช่วงที่เหลือ ของเดือน และถ้ามี Fund Flow ต่างชาติช่วยเติมอีกแรง คาด SET Index ก็ยังมีโอกาส ขึ้นได้โดดเด่น
แนะนำสะสม หุ้นเด่น Window Dressing ช่วงครึ่งหลังเดือน มิ.ย.
ปกติในช่วงก่อนกลางปี หรือก่อนสิ้นปี มักจะมีโอกาสเห็นการทำ Window Dressing ของสถาบันฯ ขึ้นได้และในช่วงครึ่งหลังเดือน มิ.ย. 66 นี้ ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า มีโอกาส เห็นการทำ Window Dressing จากสถาบันฯ สูง เนื่องจาก ฝ่ายวิจัยทำการศึกษา สถานะการถือครองเงินสดในกลุ่มตัวอย่างกองทุนหุ้นไทย 50 กองทุนรวมกัน ณ สิ้น เดือน เม.ย. 66 พบว่า มีสถานะการถือครองเงินสดที่สูงถึง 6.9% ของ NAV รวม (สูง กว่าระดับปกติที่ 2% -3%)
ทั้งสถานะเงินสดของกองทุนที่สูงกว่าปกติ รวมถึงใกล้เข้าสู่ช่วง Window Dressing ในครึ่งหลังของเดือน มิ.ย. ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing สูง ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
1. เป็นหุ้นขนาดใหญ่ (อยู่ในดัชนี SET50)
2. เป็นหุ้นที่มักจะให้ผลตอบแทนชนะตลาดในช่วง ครึ่งหลังของเดือน มิ.ย. ย้อนหลัง 5 ปี(ผลตอบแทนที่ชนะ SET หรือ Alpha >0)
3. ราคาหุ้นย่อตัว (Return YTD
ได้ผลลัพธ์ คือ หุ้น SCGP, GPSC, SCC, CBG, GULF, TU, BGRIM, TOP, CPF, AOT (BK:AOT), LH
ยกตัวอย่าง SCGP เป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 และปีนี้ย่อตัวลงมาแล้ว -32% อีกทั้ง ในอดีตย้อนหลัง 5 ปี ช่วงครึ่งหลังของเดือน มิ.ย. มักปรับตัวขึ้นได้เฉลี่ย 6% และให้ Alpha หรือ ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ชนะ SET ถึง 8.3%
สำหรับวันนี้คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1545 – 1558 จุด Top pick เลือกหุ้นเด่น Window Dressing อย่าง SCC, SCGP, GULF
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities