Short squeeze
SET: ยังคงคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของเดือน มิ.ย.อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงดัชนีหุ้นไทยที่เริ่มเห็นสัญญาณที่แข็งแกร่งเมื่อ วานนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากโมเมนตัมของ Fund flow ที่ชื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และการ Long สุทธิในตราสาร Index futures ในระดับที่มี นัยสําคัญกว่า 3.7 หมื่นสัญญา ซึ่งถือเป็นการเปิดสถานะใหม่ส่วนใหญ่เสีย ด้วย มองการปรับตัว Outperform ของหุ้นไทยเมื่อวานนี้ส่วนหนึ่งเกิดจาก ปรากฏการณ์ Short squeeze สะท้อนผ่านการดีดขึ้นแรงของหุ้นที่ปรับลง มาแรงหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นอาทิกลุ่มพลังงานและกลุ่มโรงไฟฟ้า เป็นต้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเรานับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นมา หุ้นที่มีสัดส่วนวอลุ่มการ Short sell สูงที่สุดแล้วราคายังไม่ได้ดีดขึ้นมามาก นกจะได้แก่ EGCO, BGRIM, BTS, BIC, CBG เป็นต้น ซึ่งหุ้นเหล่านี้ อาจเห็นปรากฏการณ์ Short covering เกิดขึ้นได้ หากในระยะสั้นดัชนี SET ยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อไป
Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนา นขาย-ลงซื้อตามกรอบแนวด้าน- แนวรับที่ให้ไว้ประจําเดือนนี้ ซึ่งมีกรอบแนวด้านแรกอยู่ที่ระดับ 1570 จุด ดังนั้นหากดัชนีเดินหน้าขึ้นไปถึงระดับนี้ แนะนํานักลงทุน ขายทํากําไรหุ้นบางส่วนได้ และถือหุ้นในส่วนที่เหลือ เพื่อลุ้นการขายท่า กําไรที่ระดับถัดไป ซึ่งมีแนวต้านสําคัญของเราอยู่ที่ 1600 จุด (Bull case จาก PE Model ของเรา) หรืออาจใช้ช่วงเวลา 1 วันก่อนหน้าการประชุม FOMC เป็นเงื่อนไขในการ Lock profit ออกมาก่อนได้เช่นกัน เพื่อป้องกัน ความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.ดังกล่าว (ทราบผลคืนวันที่ 14 มิ.ย.ตามเวลาบ้านเรา)
Laggard: มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสําหรับผู้ที่ต้องการเข้าสะสมหุ้นใน จังหวะที่ SET ทะลุระดับ 1550 จุดขึ้นมาแล้วได้แก่ Sector ที่ปรับตัว Laggard นับตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่นับรวมกลุ่ม CONS และ PKG จะพบว่ากลุ่มถัดมาได้แก่กลุ่มค้าปลีก (COMM) ซึ่งเรา มองว่าราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาปรับลงล็กรับความกังวลกับผลการดาเนินงาน 2Q23 มากเกินไป จนเมื่อวานนี้เราแสดงให้เห็นว่า Valuation ของกลุ่ม ณ ปัจจุบันได้ลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจมากๆ และค่าสุดในรอบ 10 ปี
CCI: ที่สําคัญมองกลุ่มค้าปลีกดังกล่าวยังได้ปัจจัยบวก หลังเมื่อวานนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ที่ผ่านมาเป็นอย่างน้อยแล้ว เดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 55.7 สูงสุดในรอบ 39 เดือน (รูปที่ 1) ส่วนทางด้านดัชนีย่อยอย่าง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ความ เชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ใน อนาคต ต่างปรับเพิ่มต่อเนื่องเช่นกัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอย ของคนในประเทศที่น่าจะยังแข็งแรงอยู่ในช่วงถัดไป ทั้งนี้ หุ้นเด่นในกลุ่ม ประจําเดือนนี้ของเรายังคงได้แก่ BJC, MAKRO, CRC, GLOBAL, DOHOME
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities