ในช่วงเวลาตลาดหมี ตลาดการเงินมีแนวโน้มขาลง ทำให้การลงทุนมีความเสี่ยงขึ้น ความนิยมของการลงทุนในหุ้นปันผลจึงได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันจากผลประกอบการ บวกกับกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้นในช่วงเวลาที่หุ้นราคาต่ำในขณะนี้ กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจ
แต่การลงทุนในหุ้นปันผลนั้นจะดูจากเปอร์เซ็นต์การจ่ายเงินปันผลอย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากมีกับดักมากมายรอนักลงทุนอยู่ ดังเช่นเมื่อครั้งที่นักลงทุนจำนวนมากติดกับดักหุ้นปันผลที่จ่ายเงินปันผลสูง แต่มูลค่าบริษัทกลับถดถอยเนื่องจากมูลค่าหุ้นพุ่งสูงเกินจริงจากช่วงโควิด
ในบทความนี้เราจะนำเครื่องมือจาก InvestingPro เข้ามาช่วยคัดกรองหุ้นที่จ่ายปันผลงาม พร้อมกับกรองหุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้น(upside) ไปพร้อม ๆ กัน โดยใช้ฟิลเตอร์มาตรฐานสำหรับการใช้กรองหุ้นปันผลดังนี้
อัตราผลตอบแทนเงินปันผลต่อปี
อัตราส่วนผลตอบแทนของกิจการ
อัตราส่วน P/E
คะแนนกระแสเงินสด
และตัวกรองสุดท้ายที่เราจะเพิ่มเข้ามาในบทความนี้คือ
มูลค่ายุติธรรมขาขึ้น(upside) ของหุ้น
เมื่อเราใช้ตัวคัดกรอง “I Dream of Dividents” ซึ่งเป็นตัวกรองยอดนิยมของ InvestingPro บวกกับการเพิ่มตัวกรอง “คะแนนกระแสเงินสด” และ “มูลค่ายุติธรรมขาขึ้น(upside) ของหุ้น” เราจะได้รับรายชื่อหุ้นที่เข้าเกณฑ์สุขภาพทางการเงินที่ดีพร้อมกับจ่ายปันผลสูงในเวลาเดียวกัน เมื่อดู 5 รายการแรก เราจะได้หุ้นดังต่อไปนี้
สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (BK:SMPC)
ราคาปัจจุบัน: 11 บาท
ขาขึ้น(upside): 26.9%
ปันผล: 9%
บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ประกอบธุรกิจผลิตถังแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) และถังแก๊สประเภทอื่น ๆ มีความโดดเด่นคือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อครัวเรือน ทำให้บริษัทมีสุขภาพทางการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ดี และมีเงินสดเพียงพอสำหรับการจ่ายดอกเบี้ย จะจ่ายเงินปันผลครั้งต่อไปในวันที่ 11 พ.ค. 2566 ถือเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจับตาในช่วงนี้
ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (BK:TISCO)
ราคาปัจจุบัน: 90.25 บาท
ขาขึ้น(upside): 42.8%
ปันผล: 8.6%
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจด้านการเงินและการธนาคาร ประกอบกิจกรรมสองประเภทหลัก คือ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทฯ และบริษัทย่อยให้บริการธนาคาร บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ให้เงินกู้ยืมสำหรับบริษัท จากการตรวจสอบสุขภาพการเงินด้วย InvestinPro พบว่ามีสุขภาพทางการเงินพอใช้ แม้จะมีการจ่ายปันผลถึง 8.6% แต่มีข้อควรระวังเนื่องจาก RSI ชี้แสดงว่าหุ้นอยู่ในภาวะ oversold
โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (BK:PTL)
ราคาปัจจุบัน: 15.9 บาท
ขาขึ้น(upside): 75.3%
ปันผล: 8.2%
บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นฟิล์มโพลีเอสเตอร์, ฟิล์มเคลือบโลหะ (metalized film), ฟิล์มเคลือซิลิโคนและเมล็ดพลาสติก (PET) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าราคาจะร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หลังไตรมาสที่ 3 ทำผลงานไม่เข้าเป้า เนื่องจากราคาพลังงานสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้า แต่แนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลังราคาพลังงานย่อตัวลงในช่วงนี้ ประกอบกับอุปสงค์ดีขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ PTL จะจ่ายปันผลครั้งถัดไปในวันที่ 16 พ.ค. 2566
ไทยออยล์ จำกัด (BK:TOP)
ราคาปัจจุบัน: 46.75 บาท
ขาขึ้น(upside): 10.7%
ปันผล: 8%
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและเป็นผู้จัดจำหน่าย ประกอบกิจการในแปดประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและน้ำมัน RSI ชี้แสดงว่าหุ้นอยู่ในภาวะ oversold (ขายมากเกินไป) เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันเริ่มผ่อนคลาย และความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังมีผลการดำเนินงานที่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และจ่ายปันผลถึง 8% หุ้นไทยออยล์มีกำหนดปันผลครั้งถัดไปในวันที่ 10 พ.ค. 2566
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (BK:TFG)
ราคาปัจจุบัน: 5.1 บาท
ขาขึ้น(upside): 36.7%
ปันผล: 7.8%
บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจธุรกิจแปรรูปอาหารครบวงจร บริษัทฯ ดำเนินกิจการใน 3 ส่วนงานหลักคือ ธุรกิจสัตว์ปีก ธุรกิจสุกร และธุรกิจอาหารสัตว์ แม้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นจะมีการปรับตัวลง 11.3% แต่หากพิจารณาในช่วง 5 ปี ราคาหุ้นยังคงบวกอยู่ที่ 22.72% เมื่อพิจารณาเงินปันผลที่ให้สูงถึง 7.8% ไทยฟู้ดส์จึงเป็นหุ้นตัวหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ติดตามหุ้นตัวนี้ในวอชลิสต์เพื่อหาจังหวะเข้าสะสม ไทยฟู้ดส์ จะปันผลครั้งถัดไปในวันที่ 11 พ.ค. 2566
หากนักลงทุนต้องการค้นหาหุ้นธีมอื่น ๆ สามารถทำการบ้านหุ้นได้ง่าย ๆ ด้วย InvestingPro
Note: ข้อมูลข้างต้นรวมถึงราคาและบทวิเคราะห์เป็นการรวบรวมข้อมูลในวันที่ 2 พ.ค. 2566
Disclaimer: หุ้นที่ปรากฏในบทความนี้เป็นเพียงผลลัพธ์ที่นำเสนอจากตัวคัดกรองหุ้นโดยเครื่องมือ InvestingPro ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน