หากเทียบเคียงขนาด GDP ก่อน กับ หลังการระบาดของ Covid พบว่า GDP ไทย ยังต่ำกว่าช่วงก่อน Covid เทียบกับประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ยุโรป หรือ จีน พบว่าขนาด GDP ได้ปรับตัวสูงขึ้นไปก่อน Covid อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งภาพ ดังกล่าวอาจเป็นเหตุที่ทำให้ Performance ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะที่ Laggard อย่างไรก็ตาม เราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในงวด 1Q66 ขณะที่ ประเทศที่เติบโตขึ้นไปก่อนอย่าง สหรัฐ กับ ยุโรป มีความเสี่ยงต่อการเกิด Recession ซึ่งภาวะดังกล่าวน่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาอยู่ในความสนใจมาก ขึ้น โดยเรายังเชื่อว่ามีโอกาสที่จะเห็น Fund Flow ไหลกับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ ทั้งนี้แรงหนุนอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของ Valuation ที่หากดูในภาพรวมของ Market Earning Yield Gap ของตลาดหุ้นบ้านเรา ยังกว้างราว 4%
เชื่อว่า SET Index น่าจะผันผวน แต่มีDownside ที่จำกัดอยู่ที่บริเวณ 1550 จุด ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 1570 จุด ในทางกลยุทธ์ แนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี เข้าพอร์ต Top Pick วันนี้เลือก BEM, CPALL (BK:CPALL) และ SCGP
ความเสี่ยง RECESSION ในยุโรปยังต้องระวัง เมื่อศุกร์ที่ผ่านมามีการรายงานตัวเลข PMI ในสหรัฐและยุโรป รายละเอียดดังนี้
• ดัชนี PMI ของยุโรปเดือนเม.ย. ในภาคบริการที่ขยายตัวอยู่ที่ระดับ 56.5 สูงสุด ในรอบ 11 เดือน แต่ในทางกลับกันอาจหนุนให้เงินเฟ้อฝั่งยุโรปชะลอตัวได้ช้า กว่าคาด และอาจทำให้ ECB ยังคงต้องดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดอยู่ ขณะที่PMI ภาคการผลิตหดตัวลงอยู่ที่ระดับ 45.5 ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี
• ดัชนี PMI ของสหรัฐเดือน เม.ย. ในภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 50.4 สูงสุดในรอบ 6 เดือน และภาค PMI ภาคบริการอยู่ที่ 53.7 สูงสุดในรอบ 12 เดือน
อย่างไรก็ตามตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสานกัน กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐและ ยุโรปปิดตัวในกรอบแคบราว +0.1% ถึง +0.5% ขณะที่ราคาสินค่าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ ปรับตัวลดลง ทำให้กันความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจ Recession ก็ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม อย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนประเด็นที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ (แสดงดังตารางด้านล่าง) หลักๆ คือ ตัวเลข GDP สหรัฐที่จะมีการรายงานในวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากจะเป็น ตัวแปรที่สะท้อนกลยุทธ์การลงทุนของตลาดหุ้นสหรัฐในไตรมาสที่ 2 ทั้งนี้ตลาดคาด GDP 1Q66 ขยายตัว 2.0% ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.6%
สรุป ความกังวลเรื่อง Recession ในยุโรปมีมากขึ้น หลังดัชนี PMI ภาคการผลิต ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่เข้ามากดดัน Upside ในตลาดหุ้นเช่นกัน
เศรษฐกิจไทยยัง LAGGRAD มีโอกาสฟื้นตัวคืนสู่ช่วงก่อนโควิดได้อีก
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วง 1Q66 ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวเลขทาง เศรษกิจสะท้อนออกมาในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่สถานการณ์ด้านแรงงานที่อัตรา ว่างงานไทยเดือน ก.พ. อยู่ระดับ 0.9% ซึ่งต่ำกว่า 1% ครั้งแรกในรอบเกือบ 4 ปีขณะที่ อัตราดอกเบี้ยไทยปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิดแล้วที่ 1.75% ส่วน อัตราเงินเฟ้อไทยมีแนวโน้มลดลงเช่นกัน
สัญญาณการฟื้นเศรษฐกิจในบ้านเราที่หลักๆ มาจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภค ภายในประเทศ จึงเชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนให้ GDP ไทยในช่วง 1Q66 กลับมายืนอยู่เหนือ ระดับก่อนเกิดโควิดได้อีกครั้ง (ดัชนี GDP มากกว่า 100 จุด) และเมื่อพิจรณาผลตอบแทน ตลาดหุ้นเทียบกับช่วงก่อนโควิด (ปลายปี 2562) SET Index ปัจจุบัน อยู่ต่ำกว่าระดับ ก่อนโควิด -1.5% (ปัจจุบัน 1558 จุด และก่อนโควิด 1580 จุด) ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ +27% ถึง +34% ชี้ให้เห็นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวได้อีกมาก
สรุป เศรษฐกิจไทยที่ส่งสัญญานการฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วง 1Q66 น่าจะเป็นแรงหนุน ให้ GDP บ้านเราขยายตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่ SET Index ยังค่อนข้าง Laggard จาก ช่วงก่อนโควิด-19 เมื่อเทียบกับฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าไทยมากขึ้นในระยะถัดไป
ตลาดย่อตัวลง ขณะที่ EARNING1Q66 เริ่มเห็นแนวโน้มฟื้น น่าสะสม มากขึ้น
ปัจจุบันเข้าสู่ช่วงประกาศงบ 1Q66 ของบริษัทจดทะเบียน ล่าสุดทาง Bloomberg รายงานว่า กำไร 1Q66 สูงกว่าที่ตลาดคาดราว 6% ถือเป็นการเริ่มต้นได้ดีขณะที่ฝ่าย วิจัยทำ Earning Preview ออกมา 1 ใน 4 ของ Market Cap. รวม เห็นการฟื้นตัวทั้ง 31%QoQ และ 9%YoY (ฝ่ายวิจัยยังคงการทำ Earning Preview ออกมาต่อเนื่อง) และ ราคาหุ้นที่รายงานงบออกมาดีก็ Outperform ตลาดอย่างเห็นได้ชัด อาทิ KTB เป็นต้น
อีกทั้งหากดูข้อมูลสถิติในอดีต พบว่า เวลากำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้น QoQ ต่อเนื่อง หรือ กำไรผ่านจุดต่ำสุด SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะถัดไปเสมอ
ความหวังกำไรรอบ 1Q66 ดีขึ้น บวกกับการใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกที น่าจะเป็น Sentiment ช่วยหนุนให้ Fund Flow ชะลอการขายหุ้นไทย และไหลเข้าในระยะ ถัดไปได้
สำหรับวันนี้คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1550 – 1570 จุด หุ้น Toppick แนะนำหุ้นแนวโน้มกำไร 1Q66 ฟื้นตัว อย่าง SCGP, BEM, CPALL
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities