Sideways
• SET: คาด SETIndex แกว่งตัว Sideways ด้วยวอลุ่มที่สูงขึ้น หลังผ่าน พ้นช่วงหยุดยาวโดยที่ไม่ได้มีปัจจัยกระทบที่มีนัยสําคัญมากนัก โดยเรา ยังคงเฝัางับตาการยืนได้อย่างแข็งแกร่งของราคานํามันหลังจากมติการหั่น กําลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งอาจส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อปรับตัวลงช้ากว่าคาดได้ และกระทบกับประเทศที่เป็น Net oil importer โดยตรงอย่างไทย ส่งผลกระทบเชิง โครงสร้างมายังดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดรวมถึงเงินบาทของไทย นอกจากนั้น ในส่วนประมาณการ EPS ของ SET Index นั้น ยังคงถูก ปรับลดทอนลงอย่างต่อเนื่องหลังเข้าสู่เดือนเมษายน (-0.9%) ส่งผลให้การปรับขึ้นของ SET ยังคงติดขัดด้วยอุปสรรคด้าน Valuation เป็นสําคัญ หิ่งเตรียมเผชิญกับต้นทุนการน่าเข้าที่สูงขึ้นอีกครั้ง เดือนนี้
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ คงแนะนําาเพียงถือครองหุ้นในส่วนที่ได้ทยอย เข้าซื้อไปที่บริเวณดัชนี 1580-1600 จุด ซึ่งเป็นบริเวณแนวรับแรกของเรา โดยยังคงเน้นไปที่หุ้นในกลุ่มกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มค้าปลีก ซึ่งมักเป็นกลุ่มที่มักทนทานต่อแรงกดดันเงินเฟ้อได้ดี ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ยังอยู่ ในธีม Election rally ของเราอีกด้วย ทั้งนี้ คงกรอบแนวรับสําคัญ ประจําเดือนนี้ที่บริเวณ 1550 จุด
• HELTH: ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่ม Healthcare นั้น เรามีมุมมองเชิงบวกล่าสุด ต่อประเด็นที่ประกันสังคมปรับเพิ่มอัตราการเบิกจ่ายค่าบริการทางการ แพทย์กรณีเหมาจ่ายจาก 1,640 บาท/ราย เป็น 1,808 บาท/ราย โดยการ ปรับเพิ่มการเบิกจ่ายดังกล่าวจะส่งผลให้โรงพยาบาลมีรายได้และอัตราการ ทําก้าไรที่สูงขึ้น จากการมีค่าใช่จ่ายที่คงที่แต่มีฐานรายได้ที่สูงขึ้น ตาม จํานวนผู้ประกันตนในระบบ โดยตัวที่น่าจะได้ประโยชน์สูงสุดได้แก่ BCH และ CHG ซึ่งจํานวนผู้ประกันตนในระบบที่ 9.0 แสนราย และ 5.2 แสน รายตามลําาดับ ประเมิน Upside ต่อคาดกาณ์กําาไรปี 2566 ของทั้ง 2 บริษัทที่ 7.4% และ 5.6% คงคําแนะนํา “ชื่อ” หุ้นทั้ง 2 ตัว โดยมี ราคาเป้าหมายของ BCH ที่ 23.60 บาท และ CHG ที่ 4.7 บาท
• Factors: สําหรับปัจจัยที่น่าติดตามประจําสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) พัฒนาการของ Bond yield สหรัฐฯหลังปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมา จากการ Price in ความน่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.เพิ่มขึ้น โดยล่าสุด Fed Fund futures บ่งชี้ Probability ที่ 81% แล้ว โดยการ Price in ดังกล่าวเร่งตัวสูงขึ้น หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ประกาศออกมาในสัปดาห์ก่อนออกมา ตรงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีสิ่งที่น่าจับตาได้แก่ การยกด้ว ขึ้นเล็กน้อย YoY ของ Core CPI
2) การออกมาให้ความเห็นของกรรมการ Fed คนสําคัญทั้งหลาย อาทิ นาย John Williams, นาย Raphael Bostic, นาง Loretta Mester, นาย Patrick Harker และนาง Lisa Cook โดยใน 5 คนนี้มีนาย John Williams, นาย Patrick Harker และนาง Lisa Cook ที่มีสิทธิ์ โหวตในปีนี้ เราคาดว่าโทนโดยรวมจะออกมาคล้ายกับความเห็นของ นาย Christopher Waller ที่ได้ออกมาส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า “การเข้มงวดนโยบายการเงินของ Fed ยังคงมีความจําเป็นต่อไป หากเป็นเช่นนี้ คาดตลาดอาจมีการยกระดับความน่าจะเป็นในการ ขึ้นดอกเบี้ยของ Fed สูงขึ้นต่อได้จนส่งผลให้ Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัวสูงต่อในสัปดาห์นี้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities