รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เฟดเดินหน้า“ขึ้น” ดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และยังคงสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

เผยแพร่ 23/03/2566 10:23
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เฟดเดินหน้า“ขึ้น” ดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และยังคงสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จนแตะระดับ 5.25% ในปีนี้

  • Fed Funds Target Range

Actual: 4.75-5.00% Previous: 4.50-4.75%

KTBGM: 4.75-5.00% Consensus: 4.75-5.00%

    • คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติให้ “ปรับขึ้น” อัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ตามคาด พร้อมทั้งส่งสัญญาณใกล้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ก่อนที่จะทยอยปรับลดลงสู่ระดับ 4.3% ในปี 2024 และ 3.1% ในปี 2025

    • เมื่อเทียบประมาณการเศรษฐกิจในการประชุมเดือนธันวาคม เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลงในปีนี้ และปีหน้า พร้อมกับปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE อย่างไรก็ดี ปัญหาในระบบธนาคารที่เกิดขึ้น ทำให้เฟดจะคอยประเมินผลกระทบและติดตามพัฒนาการของข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด หลังปัญหาที่เกิดส่งผลให้เกิดภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ทั้งนี้ ประธานเฟดย้ำว่า “เฟดก็พร้อมขึ้นดอกเบี้ยอีก” หากจำเป็น เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ

    • Dot Plot ใหม่ของเฟดที่ยังคงชี้ว่า Terminal Rate จะอยู่ที่ 5.25% ซึ่งเรามองว่า เฟดมีโอกาสที่จะจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว แต่หากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสดใสและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงต่อ ก็จะเป็นเรื่องยากที่เฟดจะทยอยลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ตามที่ตลาดคาด ทำให้มีความเสี่ยงที่ผู้เล่นในตลาดจะปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดได้ ซึ่งอาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวเสี่ยงที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้บ้าง

    • Next FOMC Decision: May 4 2023 (1 AM BKK)

คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติให้ “ปรับขึ้น” อัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00%

  • FOMC มองกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวในระดับปานกลาง ส่วนภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี แม้ว่าระบบธนาคารสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่งอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อได้ และแม้ว่าผลกระทบดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน แต่ความเสี่ยงเงินเฟ้อยังคงเป็นสิ่งที่เฟดให้ความสำคัญอย่างมาก ดังนั้น คณะกรรมการจึงมีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% พร้อมกับเดินหน้าลดงบดุล โดย FOMC มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%

  • สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตนั้น FOMC จะติดตามพัฒนาการข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยคณะกรรมการมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกบ้าง อาจมีความเหมาะสม เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายได้ในอนาคต ส่วนประมาณการเศรษฐกิจและคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ย (Dot Plot) ล่าสุด บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้มีการปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าลง พร้อมกับปรับเพิ่มอัตราการเงินเฟ้อ โดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ที่สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยจนแตะระดับ 5.25% (ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประชุมเดือนธันวาคม)

  • ประธานเฟด ได้ระบุว่า ระบบธนาคารสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่ง และเฟดก็พร้อมใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ เพื่อปกป้องระบบธนาคารสหรัฐฯ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังคงเน้นย้ำว่า หากจำเป็น “เฟดก็พร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ” เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อให้สำเร็จ

เรากลับมามองว่า เฟดจะจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยที่ 5.25% แต่มีโอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงไปจนถึงช่วงปลายปี หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงดูดีอยู่

  • แม้ว่าเฟดจะเผชิญปัจจัยใหม่ อย่าง ปัญหาสภาพคล่องของระบบธนาคารสหรัฐฯ ในการประเมินทิศทางนโยบายการเงิน แต่จะเห็นได้ว่า Dot Plot ใหม่ล่าสุดของเฟดและถ้อยแถลงของประธานเฟด ยังคงเน้นย้ำว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงได้นานกว่าคาด จนกว่าที่เงินเฟ้อจะลดลงได้จริง (Higher for Longer) ซึ่งทำให้ เรามองว่า หากยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอตัวลงที่ชัดเจนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะฝั่งการจ้างงาน เช่น ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานต่อเนื่อง หรือ Continuing Claims เพิ่มสูงขึ้นเกิน 2.0 ล้านตำแหน่ง หรือ ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมลดลงต่ำกว่า 1.6 แสนตำแหน่ง และโมเมนตัมของอัตราเงินเฟ้อก็ยังไม่ได้ชะลอลงชัดเจน (อัตราเงินเฟ้อ +0.4%m/m ขึ้นไป) เฟดก็มีโอกาสคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงถึง 5.25% ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดของดอกเบี้ยเฟด (Terminal Rate) ในรอบการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ไปจนถึงช่วงไตรมาส 4 ก่อนที่เฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยลงได้ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย

  • มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย มีความแตกต่างจากมุมมองของเฟดอย่างเห็นได้ชัด โดยจาก CME FedWatch Tool ล่าสุด ผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่า เฟดจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยที่ 5.25% ก่อนที่จะทยอยลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 4.25-4.50% ในช่วงปลายปี ขณะที่เฟดมองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับ 5.25% ทั้งปีนี้ ซึ่งเรามองว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แย่ลงชัดเจน จนทำให้เฟดอาจเริ่มทยอยลดดอกเบี้ยลงได้ ผู้เล่นในตลาดก็จะเริ่มปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเฟดอีกครั้ง จากเดิมมองว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงทันที หลังแตะจุดสูงสุด ก็อาจมองว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้อีกสักพัก ซึ่งข้อมูลในอดีตตั้งแต่ปี 1960s ก็ชี้ว่า เฟดมักจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดไว้ราว 3-6 เดือน โดยหากตลาดเริ่มปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดใหม่ เราคาดว่า อาจจะเห็นการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ โดยเฉพาะบอนด์ยีลด์ระยะยาวได้บ้าง ส่วนเงินดอลลาร์ก็มีโอกาสแข็งค่ากลับขึ้นมาได้เช่นกัน ซึ่งต้องรอจับตารายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) รวมถึงรายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนนี้

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย