Coordinated action
• SET: คาด SETIndex เปิดตลาดสัปดาห์นี้ในโทนผ่อนคลาย รับข่าว ข้อตกลงการซื้อกิจการ Credit Suisse ของ UBS (รายละเอียดด้านล่าง) นอกจากนั้น ธนาคารกลางสําคัญของโลกหลายแห่งยังได้ร่วมมือกันเติม สภาพคล่องให้กับเงิน USD ผ่านธุรกรรม Swap คล้ายกับช่วงวิกฤต Covid ส่งผลให้ USD อ่อนตัวลง และ Risk sentiment ทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น ไม่นับรวมกับการประกาศลด RRR ของธนาคารกลางจีน (PBOC) เมื่อช่วง วันศุกร์ที่ผ่านมา
• Strategy: เรามีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้นต่อการร่วมมือกันของ Policymaker ต่างๆทั่วโลกในการอัดฉีดสภาพคล่อง เพิ่มความแข็งแกร่ง ให้กับสถาบันการเงิน และการลดความเสี่ยง Systematic risk ด้วยเหตุนี้ ในเชิงกลยุทธ์ แนะถือครองหุ้นในส่วนที่ได้เข้าสะสมมาก่อนหน้านี้ที่ บริเวณดัชนี 1580-1600 จุด และ 1540 จุด ตามล่าดับ คงคาดการณ์ว่า SET จะสามารถสร้างฐานในระยะสั้นได้ที่บริเวณ 1550 จุด
Done deal: UBS ตกลงเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse ในวงเงิน 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในข้อตกลงนี้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดสรรเงินกู้ยืมจํานวนสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญฯ ขณะที่รัฐบาล สวิตเซอร์แลนด์ยังได้อนุมัติเงินค่าประกันจํานวนสูงถึง 9 พันล้านเหรียญฯ มองปัจจัยดังกล่าวมีโอกาสท่าให้กลุ่มสถาบันการเงินทั่วโลกปรับตัวรีบาวน์ในระยะสั้นได้
• Beware: อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่น่าจับตาต่อในช่วงถัดไปได้แก่ผลกระทบ ด้าน Wealth effect ของผู้ถือหุ้นกู้ Credit Suisse ในรอบนี้ โดยเฉพาะหุ้น กูความเสี่ยงสูงอย่าง ATi ซึ่งในรอบนี้กลับโดนลดชั้นไปต่ากว่าผู้ถือหุ้น สามัญ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ Surprise นักลงทุนหลายคน ภาวะเช่นนี้อาจท่า เกิดปรากฏการณ์ Mini bond shock ในตลาดทุนยุโรปจนน่ามาสู่การเทขาย หุ้นในช่วงสั้นได้ นอกจากนั้น ยังต้องติดตามทิศทางตลาดแรงงานใน อุตสาหกรรมการเงิน หลัง Credit Suisse เตรียมปรับลดการจ้างงานขนาน ใหญ่ FOMC: สําหรับปัจจัยที่สําคัญที่สุดในสัปดาห์นี้คงหนีไม่ผลการประชุม Fed ซึ่งจะทราบผลในช่วงคืนวันที่ 22 มี.ค.ตามเวลาบ้านเรา คาด Fed ขึ้น ดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ต่อไปซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ น่าจับตาได้แก่มุมมองของ Fed ต่อประเด็น Bank failures ที่เกิดขึ้นล่าสุด ในสหรัฐฯ โดยเราคาดว่าโทนที่ออกมา Fed จะพยายามแยกประเด็นปัญหา นี้ออกจากปัญหาใหญ่อย่างแรงกดดันเงินเฟ้อ และนั่นหมายถึงการใช้ เครื่องมือในการเข้าจัดการที่แตกต่างกัน
Surprise?: มอง Positive surprise มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หาก Fed มีการ ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อลง่อย่างสําคัญ (ล่าสุดคาดการณ์ PCE และ Core PCE ปีนี้ขยายตัวอยู่ที่ 3.1% และ 3.5% ตามล่าดับ) ในทางกลับกัน มอง Negative surprise อาจเกิดขึ้น หาก Fed ปรับเพิ่มคาดการณ์ Terminal rate ขึ้นจากเดิมที่ 5.00-5.25% ซึ่งจะทําให้เป็นระดับที่สูงกว่า ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ณ ตอนนี้
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities.