Selling climax
กลยุทธ์: แนะถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมไปที่แนวรับแรกที่ 1580-1600 จุด และแนวรับสําคัญที่ 1540 จุด แม้ดัชนี SET วานนี้ จะหลุดแนวรับสําคัญนี้ลงมาแต่เราไม่กังวล และคาดว่าจะใช้เวลาไม่ นานทีดัชนีจะดีดกลับขึ้นไปเหนือระดับดังกล่าว นําโดยกลุ่มธนาคาร พาณิชย์ที่น่าจะเห็นแรงซื้อกลับอย่างรุนแรง โดยเมื่อคืนนี้กลุ่มธนาคาร สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นได้ถึง 2% กว่า จากความกังวลของนักลงทุนในตลาด ที่ลดลง ทั้งนี้ หากอ้างอิงจากมาตรวัด PBV ของเราเมื่อวานนี้ Top pick สําหรับการ Buy on dip ในกลุ่มนี้ยังคงได้แก่ KBANK (BK:KBANK) และ SCB ซึ่งมี ราคาเป้าหมายในเชิงพื้นฐานของเราอยู่ที่ 167 บาท (32% upside) และ 145 บาท (49%) ตามลำดับ
• Not reasonable: เรามองว่าไม่มีเหตุผลใดๆที่ต้องทําให้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงรุนแรงมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ล่าสุดนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ โดยตรง ดังนั้นเราไม่เห็นผลกระทบใดๆในมิติของ Earnings ในบ้านเรา แสดงว่าการปรับลงทุกจุดของดัชนีย่อมหมายถึง ความถูกของดัชนีที่ เพิ่มขึ้นตามลําาดับ ล่าสุดเมื่อคืนนี้ เครื่อง สําคัญทั้งหลาย (Spread) ที่เรา Monitor ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสําคัญ แสดงถึงความเสี่ยงในตลาดที่ ลดลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้จากการตรวจสอบล่าสุดจะพบว่าเหตุการณ์ Bank collapse ในสหรัฐฯได้ทําให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงมาแล้วจากสัปดาห์ ก่อนราว 3.2% ดังนั้น หากมองว่าตลาดหุ้นไทยไม่ควรลงมาแรงกว่า ก็น่าจะมี Maximum การลงจํากัดอยู่เพียงบริเวณ 1570 จุดเท่านั้น มองการปรับตัวหลุดระดับแนวรับสําคัญของเราที่บริเวณ 1540 จุดเมื่อวานนี้ ก่อให้เกิด Trigger ขายที่สําคัญ ไม่ว่าจะมาจากธุรกรรม Shorts sell หรือ Force sell เองก็ตาม สะท้อนผ่านมูลค่าการ Short sell เมื่อวานนี้พุ่งสูงแตะ ระดับ 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีก่อน และการขายสุทธิของนักลงทุนโบรกเกอร์ ที่มาพร้อมกับปริมาณ ธุรกรรมในตราสาร Single Stock Futures (SSF) ที่โตขึ้น และการปิด สถานะลงอย่างชัดเจน
• Panic buying: ดังนั้นหากในช่วงถัดไปมี Sentiment ที่ดีเกิดขึ้นในตลาด อย่างเช่นวันนี้ คาดว่าเราจะเห็นพฤติกรรมการไหลขึ้นของดัชนีได้อย่าง ทันทีทันใดเช่นเดียวกัน จากปรากฏการณ์ Short covering และ Buyback ทั้งนี้จากการตรวจสอบของเราล่าสุด พบว่าหุ้นที่ถูก Short sell ลงมาหนัก มากเมื่อวานนี้ ทั้งในแง่ของปริมาณและมูลค่าจะได้แก่ PTT (BK:PTT), DELTA, BDMS, BANPU, PTTEP, TTB, TISCO, SCC ส่วนหุ้นที่มีการปิดสถานะใน ตราสาร SSF เมื่อวานนี้มากสุดจะได้แก่ AAV, AMATA, AP, AWC, BAM, BGRIM, BJC, BTS, CBG, CK, CKP, COM7, CPALL (BK:CPALL), CPF, CRC, EA, ERW, ESSO, GFPT, GPSC, GULF, ICHI, IRPC, JAS, KBANK, KCE, M, MAJOR, MBK, MINT, OR, ORI, OSP, PLANB, PTG, PTTGC, RATCH, S, SCGP, SIRI, SPALI, STEC, STGT, THANI, THCOM, TOP, TQM, TRUE, TTB, VGI มองกลุ่มหุ้นเหล่านี้มีโอกาสเห็นการซื้อกลับได้
อย่างรวดเร็วหากดัชนีปรับตัวสูงขึ้นตามที่เราคาดไว้ในช่วงถัดไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities