🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

SET INDEX เดินขึ้นภู รอดูสถานการณ์ปีหน้า 

เผยแพร่ 27/12/2565 10:22
SETI
-

การซื้อขายช่วง 4 วันสุดท้ายของปี 2565 เชื่อว่าจะเห็น Momentum ค่อยๆ ขยับ ขึ้น โดยมีเป้าหมายบริเวณ 1630 – 1635 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง สำหรับปัจจัยแวดล้อมที่น่าสนใจเป็นนโยบายของจีนที่ผ่อนคลายเรื่องการควบคุม Covid และจะนำไปสู่การเปิดประเทศเกือบสมบูรณ์ตั้งแต่ 8 ม.ค.66 กรณีดังกล่าว สร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อภาคการท่องเที่ยวและการเดินทาง โดยน่าจะเห็น การเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมาสู่บ้านเรา เร็วกว่าที่คาดหมายได้ ในอีกทางหนึ่ง ก็เชื่อว่าจะเห็นการเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนให้กลับมาเติบโตตาม ศักยภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคการส่งออกของบ้านเรา อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตาม คือการตัดสินใจของรัฐบาล ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนค่า Ft ที่จะมีผลในงวด ม.ค.66 หรือไม่ ซึ่งเราให้น้ำหนักที่เชื่อมโยงมายังอัตราเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยนโยบาย

SET Index น่าจะแกว่งตัวในทิศทางขึ้น แต่ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยมี เป้าหมายสิ้นปีบริเวณ 1630 – 1635 จุด ส่วน วันนี้ประเมินกรอบที่ 1620 – 1635 จุด หุ้น Top Pick เลือก ADVANC, AOT (BK:AOT) และ CBG

จีน REOPENING หนุนท่องเที่ยว+ส่งออกไทยฟื้นตัวเร็วกว่าคาด

ประเทศจีนทิศทางการผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 ดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นครั้งแรกที่มีการ ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ แต่ยังคงต้องตรวจ PCR ก่อนขึ้นเครื่อง จากประเทศต้นทาง 48 ชั่วโมง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 นอกจากนี้จีนมีแนวโน้มผ่อน คลายมาตรการป้องกันจากระดับขึ้นสูงสุด (Category A) สู่ระดับขั้นที่ต่ำลงมา (Category B) ซึ่งหลังจากทางการจีนประกาศมาตรการดังกล่าวดังกล่าว ส่งผลให้ยอดค้นหาเที่ยวบิน ระหว่างประเทศของจีนพุ่งขึ้นทันทีกว่า 7 เท่า (ข้อมูลจากทาง Bloomberg) จึงยิ่งสร้าง ความคาดหวังต่อภาคการท่องเที่ยว ภาคการค้า การจับจ่ายใช้สอยให้กลับมาฟื้นตัวได้เร็ว ขึ้น เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่อได้ในปีหน้า (IMF คาด ปี 66 จีนขยายตัว 4.4%YoY)

การกลับมาเปิดเศรษฐกิจของประเทศที่จีน ฝ่ายวิจัยประเมินว่าจะมีอุตสาหกรรมที่ได้ ประโยชน์ 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

• ภาคการท่องเที่ยว คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทยมากกว่าที่ ททท. มั้งปี 2566 คาด 20 ล้านคน โดยน่าจขะเริ่มเห็นคนจีนเข้ามาในไทยได้เร็ว ขึ้น จากเดิมคาดเข้ามาในไทยช่วงกลางปี 66 โดยในภาวะปกตินักท่องเที่ยวชาวจีน เคยมีสัดส่วนสูงถึง 30% (ราว 11 ล้านคน) ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยปี 2562 ดีต่อหุ้น AOT, CENTEL, ERW

• ภาคการส่งออก พบว่า ในภาวะปกติปี 2562 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปจีนราว 12% ของมูลค่าการส่งออก และอยู่อันดับ 2 ของมูลค่าการส่งออกไทยราย ประเทศ ขณะที่ปัจจุบันข้อมูล 10M65 การส่งออกจากไทยไปจีนยังติดลบ 6% YoY ซึ่งสินค้าส่งออก 5 อันดับแรก นำโดย 1.) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง 2.) ผลิตภัณฑ์ยาง 3.) เม็ดพลาสติก 4.) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 5.) เครื่อง คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ดังนั้นหากจีนเปิดประเทศการค้าของไทย กับจีนน่าจะกลับมาคับคลั่งขึ้น และถ้าเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ฯ มีหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิNER, STA, HANA, KCE, TKN

• ในอีกแง่มุมการกลับมาเปิดเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 2 ของโลก มีโอกาสผลักดันราคาน้ำมัน, ปิโตรเคมี & โรงกลั่น (+TOP, PTTGC, IRPC) และสินค้าเกษตร ทำให้ภาวะเงินเฟ้อปี 2566 ของแต่ละประเทศ เป็นปัจจัย ที่ตลาดจับตา

สรุป การกลับมาเปิดประเทศของจีนตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า คาดเป็นแรงหนุนให้ภาคการ ท่องเที่ยวและการส่งออกของไทยกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด กระตุ้นให้เศรษฐกิจทั้ง ไทยและจีนขยายตัวต่อเนื่อง ท่ามกลางความเสี่ยง Recession ขณะเดียวกันความเสี่ยง เชิงภูมิรัฐศาสตร์ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากรุนแรงอาจเด่นชัดขึ้นในปีหน้า

หากเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ช่วยลดข้อจำกัด UPSIDE ตลาด

รมว.พลังงาน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ให้ถูกลงกว่า 190.44 สตางค์/หน่วย (งวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566) หรือคิดเป็นค่าไฟเฉลี่ยที่ เรียกเก็บกับประชาชน 5.69 บาท/หน่วยแน่นอน ขณะนี้ได้ส่งตัวเลขให้คณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 28 ธ.ค. 2565 จะมีการประชุมบอร์ด กกพ.เพื่อคำนวณตัวเลขใหม่ ประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยฯคาดเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนให้ อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงในอนาคต โดยล่าสุด CPI เดือน พ.ย.65 อยู่ที่ 5.6%YoY ชอลอตัว ลงเป็นเดือนที่ 3

ประเด็นเรื่องเงินเฟ้อสูง และการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของกนง. ต่อ (มีการประชุมครั้งถัดไป ณ 25 ม.ค. 65) ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คอยรบกวน พร้อมกับจำกัด Upside ตลาดหุ้น ไทยในปี 2566 โดยปัจจุบันฝ่ายวิจัยฯประเมินดัชนีเป้าหมายในปี 2566 ภายใต้สมมุติฐานดอกเบี้ย 1.5% อิงกับ MEYG เฉลี่ย 4.2% จะได้ P/E ที่เหมาะสม 17.4 เท่า เมื่อคูณกับ EPS66F 99.2 บาท/หุ้น (เติบโต 6%) จะได้ Target SET 1740 จุด

แต่ถ้าเกิดมีการขึ้นดอกเบี้ยของ กนง. ขึ้น 0.25% มาที่ 1.75% ตามกลไกจะกดดัน P/E ตลาดให้ซื้อขายถูกลง 0.74 เท่า เหลือ 16.8 เท่า รวมถึงเป้าหมายดัชนีลดลง 73 จุด เหลือ 1667 จุด

สรุปในเบื้องต้นดัชนีเป้าหมายในปี 2566 อยู่ในกรอบ 1667 – 1740 จุด (ภายใต้ ดอกเบี้ย 1.75% - 1.5%) แสดงให้เห็นว่า Upside ตลาดค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าประเด็น เงินเฟ้อผ่อนคลายลง รวมถึงกนง.ไม่ได้รีบเร่งขึ้นดอกเบี้ย ช่วยหนุน Target SET เอน เอียงไปทางกรอบบน (1740 จุด) นานขึ้น สำหรับกลยุทธ์การลงทุนอาจต้องคัดสรรหุ้น มากขึ้น แนะนำสะสมหุ้น 3 ธีมเด่น ดังนี้

1. หุ้นปันผลสูง แนะนำ ADVANC, AP, ASK

2. หุ้น China Play แนะนำ AOT, CBG

3. หุ้น Domestic Consumption แนะนำ HMPRO COM7 สำหรับ Top pick วันนี้เลือก ADVANC, AOT, CBG

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย