🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐ 

เผยแพร่ 19/12/2565 09:47
SETI
-

ภาพของเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวสวนทางเศรษฐกิจโลก น่าจะถูกย้ำให้เห็นชัดเจน มากขึ้น ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลเพิ่มเติม โดยในการประชุม ครม. สัปดาห์นี้คาดหมายว่าน่าจะมีมาตรการของขวัญปีใหม่ อย่างเช่น ช้อปดีมีคืนวงเงิน 40,000 บาท , เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5,ลดภาระค่าครองชีพประชาชน และ การลด ค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัย ถูกนำเข้ามาพิจารณา ซึ่งสภาวะดังกล่าวน่าจะทำให้เห็น Fund Flow ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นบ้านราได้ ต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Domestic Consumption อย่างไรก็ตามยังมี ประเด็นที่ต้องติดตามในเรื่องความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เฉพาะอย่างยิ่งใน คาบสมุทรเกาหลี ส่วนบรรยากาศการซื้อขายรวมในตลาดหุ้นช่วงที่เหลือของปี จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าน่าจะซบเซา และ SET Index เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ

คาดว่า SET Index น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบบริเวณ 1610 – 1635 จุด ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายน่าจะซบเซาจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ หุ้น Top Pick เลือก หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ COM7, CRC และ MAJOR

ความกลัวเศรษฐกิจ RECESSSION บวกกับความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายแห่ง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูง เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว และความกลัวเรื่องเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้ม จะเข้าสู่ภาวะ Recession มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด S&P Global เผยดัชนีผู้จัดการฝ่าย จัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐและยุโรปเบื้องต้นเดือน ธ.ค. 65 อยู่ ในต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจยังคงอยู่ในภาวะหดตัว รายละเอียดดังนี้

• สหรัฐ PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 46.2 จุด (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 47.7 จุด) ซึ่งถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือน หลังได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

• ยุโรป PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 47.8 จุด อย่างไรก็ตามแม้จะ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังถือว่าอยูนในระดับต่ำกว่าระดับ 50 จุด นานกว่า 10 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ลดลงเป็นเดือนที่ 6 ตามความ ต้องการของลูกค้าที่ลดลง

ขณะเดียวกันความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน และยังไม่มีท่าทีว่า จะสิ้นสุด และล่าสุดความตรึงเครียดของการทำสงครามกลับมาอีกครั้ง ทำให้ ประเด็นดังกล่าวต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกใน ปีหน้าเกิด Downside Risk

• สงครามรัฐเซีย-ยูเครน โดยรัสเซียได้มีการระดมยิงขีปนาวุธมากกว่า 70 ลูกเข้าใส่ ยูเครน (16 ธ.ค. 65) ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เริ่มทำ สงคราม (24 ก.พ.) หลัง EU อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 9 พร้อมจะหา วิธีการเพิ่มแรงกดดัน อาทิ การกำหนดเพดานราคาน้ำมันระหว่างประเทศ เพื่อยุติ ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

• ความตรึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีโดยเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล 2 ลูกไปตกบริเวณชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่น (18 ธ.ค.65) เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจาก นานาชาติที่เข้มข้นขึ้น นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเพิ่มงบประมาณทางทหารเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (11.14 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่สิ้นสุด สงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อรับมือจีน เกาหลีเหนือ รัสเซีย

สรุป ความกลัวเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยมีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากภาค ธุรกิจในสหรัฐและยุโรปยังคงหดตัวต่อเนื่อง หลังธนาคารกลางหลายแห่งเดินหน้าปรับ ขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงยืดเยื้อและอาจมีแนวโน้มรุนแรง มากขึ้น ต่างปัจจัยแรงกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวนอีกครั้ง

ลุ้นแพคเกจของขวัญปีใหม่จากภาครัฐ 20 ธ.ค. 65

กระทรวงการคลังได้ข้อสรุปมาตรการช้อปดีมีคืน หรือช้อปช่วยชาติแล้ว ล่าสุดหน่วยงาน ต่างๆ ได้ส่งเรื่องบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเข้าสู่การ พิจารณาในวันที่ 20 ธ.ค. 2565 ทั้งนี้สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการมา ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่ใช้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท โดยแบ่งเป็นวงเงินซื้อ สินค้าและบริการไม่เกิน 30,000 บาทและเพิ่มเติมสำหรับการซื้อสินค้าที่มีใบกำกับภาษี อิเล็กทรอนิกส์อีก 10,000 บาท คาดเริ่ม 1 ม.ค.-15 ก.พ.66 รวมระยะเวลา 46 วัน อย่างไร ก็ตามคาดว่าทางกรมสรรพากรอาจสูญเสียรายได้กว่า 8,200 ล้านบาทแต่จะทำให้เงินหมุน ในระบบเศรษฐกิจกว่า 56,000 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ราว 0.35%

ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ผู้มีรายได้น้อย ผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐและ กลุ่มเปราะบาง โดยมีรายละเอียดดังนี้

• สถาบันการเงินรัฐเสนอมาตรการชำระดีมีคืน เช่น การให้รางวัลพิเศษสำหรับ สลากออมสิน รวมถึงมอบของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวินัย ผ่อนชำระดี จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 500-1,000 บาท

• กระทรวงการคลังเสนอมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติ กรรมสำหรับที่อาศัยออกไปอีก 1 ปีโดยลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% % ลง เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% สำหรับ ที่อยู่อาศัยอาคารพาณิชย์

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า จะเสนอมาตรการ เรา เที่ยวด้วยกันเฟส 5 จำนวน 1.5 ล้านสิทธิ์โดยคาดจะใช้งบประมาณ 5,400 ล้าน บาท ส่วนอีก 3,300 ล้านบาทจะใช้ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในประเทศ รวมถึงเสนอการขยาย

เวลาเปิดสถานบันเทิงถึง04.00 น.จากเดิม 02.00 น.ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเศรษฐกิจ ในการ ประชุม ครม.วันที่ 20 ธ.ค.2565 นี้

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางภาครัฐถือเป็นอีกหนึ่ง Sentiment บวกต่อหุ้นใน บางกลุ่มให้มีโอกาส Outperform ตลาดได้ภายใต้แปรงกดดันจากปัจจัยภายนอก รวมถึงมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง แนะนำ หุ้นช้อปดีมีคืน COM7, CRC, CENTEL, AEONTS

ก่อนสิ้นปีคาดมูลค่าซื้อขายหุ้นยังเบาบางตามฤดูกาล เน้นหุ้นมีปัจจัยบวก เฉพาะตัว CRC COM7 MAJOR

ในช่วงที่เหลือของปี ตลาดหุ้นยังขาดปัจจัยสนับสนุนจากภายนอก พร้อมกับความกังวล เศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรปที่มีโอกาสเกิด Recession มากขึ้น ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยมักจะ มีมูลค่าซื้อขายเบาบางในช่วงท้ายปี ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1. ช่วงเข้าสู่ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองของชาวต่างชาติ คือ วันคริสต์มาสตลอด จนถึงวันปีใหม่ ซึ่งปกติมูลค่าซื้อขายมีโอกาสลดลงในช่วงนี้โดยเฉพาะนักลงทุน ต่างชาติที่มีสัดส่วนซื้อขายหุ้นไทยมากสุดกว่า 52% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด บางส่วนอาจชะลอการซื้อขายในช่วงสั้นๆ

2. ขาดเม็ดเงินกองทุน LTF หนุน ทำให้คาดหวังแรงกระตุ้นจาก Window Dressing ได้ยาก สะท้อนได้จากปกติจะมีเงินไหลเข้ากองทุน LTF เฉพาะในเดือน ธ.ค. ราว 2.2 ถึง 2.8 หมื่นล้านบาท (ปี 2014 - 2019) แต่พอเปลี่ยนเป็นกองทุน SSF (ปี 2020 - 2021) เหลือการไหลเข้าเดือน ธ.ค. ไม่ถึง 2 พันล้านบาทต่อเดือน

3. ข้อมูลมูลค่าซื้อขายหุ้นไทยในครึ่งหลังเดือน ธ.ค. ติดอันดับต้นๆ ที่มูลค่าซื้อ ขายเบาบางสุด สะท้อนได้จากข้อมูลตั้งแต่ปี 2018 ครึ่งหลังเดือน ธ.ค. ติด Top 5 ใน 10 วันที่มูลค่าซื้อขายต่ำสุดจากวันทำการทั้งหมด1204 วัน เฉลี่ย 2.75 หมื่น ล้านบาท ขณะเดียวกัน SET แกว่งตัวในกรอบแคบมากเฉลี่ย 1.65 จุด

ภายใต้แนวโน้มมูลค่าซื้อขายช่วงที่เหลือของปีอาจเบาบาง ทั้งจากนักลงทุนต่างชาติ และกองทุน LTF ที่หายไป ทำให้หุ้นที่จะเลือกลงทุนต้องเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เป็นหลัก แนะนำหุ้นคาดหวังแรงหนุนจากมาตรการช้อปดีมีคืน CRC, COM7 (มีโอกาส ติด SET50 รอบ 1H66) รวมถึงหุ้น MAJOR ได้กระแสจากรายได้หนัง AVATAR2 ทะลุ 200 ล้านบาท หลังจากเข้าฉายเพียง 5 วัน

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย