ภาพรวมการลงทุน: เราคาดว่า SETสัปดาห์นี้ (13-16 ธ.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,635 จุด (แนวรับ 1,615-1,600 จุด แนวต้าน 1,625-1,635 จุด) เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้จะกลับมาฟื้นตัว หลังสะท้อนปัจจัยลบไป มากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ถดถอย รวมไปถึงการคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องยาวนานกว่าคาด สัปดาห์นี้ติดตาม การประชุมธนาคารกลาง 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกลาง สหรัฐ (FOMC) ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมวันที่ 15 ธ.ค. โดย Market Consensus คาดว่า เฟด ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม รอบนี้ รวมไปถึงรายงานเงินเฟ้อสหรัฐ และยุโรป และรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ ของญี่ปุ่น อังกฤษ ยู โรโซน และสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังมีปัจจัยจำกัด เนื่องจากภาพรวมการลงทุนยังอยู่ในภาวะดอกเบี้ยขา ขึ้น ทำให้ยังคงต้องมีความระมัดระวังในการลงทุน
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสำคัญ 3 แห่ง คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps - สัปดาห์หน้าติดตาม การประชุมธนาคารกลาง 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมวันที่ 15 ธ.ค. โดย Market Consensus คาดว่า เฟด ECB และ BoE จะปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมรอบนี้ โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. Market Consensus คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 50bps สู่ระดับ 4.25%-4.50% ในการประชุมรอบ นี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ที่ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 โดยเราคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2566 เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจชะลอ และสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้มีโอกาส ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 5% โดย FedWatch Tool ของ CME Group รายงานว่านักลงทุน คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือน พ.ค. 2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ ระดับ 4.75%-5.00% ขณะที่เราคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการ ประชุมรอบนี้ หลังเงินเฟ้อจะผ่านจุดสูงสุดในไม่ช้า ขณะที่ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงาน ตัวเลขเบื้องต้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนชะลอตัวสู่ระดับ 10.0%yoy ในเดือน พ.ย. จากระดับ 10.6%yoy ในเดือน ต.ค. ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% สู่ระดับ 3.50% นอกจากนี้ Market Consensus คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ใน 1Q66 และอีก 0.25% ใน 2Q66 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE แตะเพดานสูงสุดที่ 4.25%
กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% แนะนำพอร์ต 888 หุ้นน่าลงทุน – เราให้น้ำหนักหุ้นในพอร์ต 50% กลยุทธ์การ ลงทุน แนะนำพอร์ต 888 หุ้นน่าลงทุน ได้แก่ 8 หุ้นเก็งกำไรปลายปี 2565 (เล่นระยะสั้น) เราเลือก TOP SPRC PTTGC SCC CRC PTG SUSCO OSP / 8 หุ้นเด่นถือข้ามปี (เล่นระยะกลาง-ยาว) เราเลือก ADVANC AOT (BK:AOT) BAFS BGRIM BEM CPALL (BK:CPALL) GPSC MAKRO / 8 หุ้นพื้นฐาน Valuation ต่ำ ราคายังไม่กลับไปก่อน Covid-19 (เล่นระยะกลาง-ยาว) – เรา เลือก BAM BBL BCPG CPF HMPRO MINT PTT (BK:PTT) EGCO
สัปดาห์นี้ ติดตามการประชุม FOMC BOE และ ECB รายงานเงินเฟ้อ สหรัฐฯ อังกฤษ และ EU รวมไปถึงการรายงาน PMI ของญี่ปุ่น อังกฤษ ยูโรโซน และสหรัฐฯ - 13 ธ.ค. : อังกฤษ - ดัชนีรายได้เฉลี่ย + โบนัส เดือน ต.ค. การ เปลี่ยนแปลงในจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการ เดือน พ.ย. การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงาน (Employment Change) เดือน ต.ค. และอัตราการว่างงาน เดือน ต.ค. / เยอรมนี - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี เดือน พ.ย. ดัชนีภาวะ เศรษฐกิจปัจจุบันของเยอรมนีจากสถาบัน ZEW เดือน ธ.ค. และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมันจากสถาบัน ZEW เดือน ธ.ค. / ยูโรโซน - ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจจากสถาบัน ZEW เดือน ธ.ค. / สหรัฐฯ - รายงานประจำเดือน ของ OPEC ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CPI และ Core CPI) เดือน พ.ย. (คาด CPI เพิ่มขึ้น 0.3%mom และเพื่มขึ้น 7.3%yoy และ Core CPI เพิ่มขึ้น 0.3%mom และเพิ่มขึ้น 6.1%yoy) และรายงานปริมาณ สำรองน้ำมันดิบประจำไตรมาสจาก API // 14 ธ.ค. : อังกฤษ - ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ย. (คาด CPI เพิ่มขึ้น 0.6%mom และเพื่มขึ้น 10.9%yoy) ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สำหรับปัจจัยการผลิต เดือน พ.ย. / ยูโรโซน - ดัชนีภาค การผลิตอุตสาหกรรม เดือน ต.ค. / สหรัฐฯ - รายงานประจำเดือนของ IEA ดัชนีราคาสินค้านำเข้า เดือน พ.ย. และ ป ริมำณสำ รองน้ำมันดิบสห รั ฐฯ และป ริมำณสำ รองน้ำมันดิบที่เมือง Cushing และแถลงกำ รณ์ของ คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (ประชุมระหว่างวันที่ 13-14 ธ.ค. คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50bps สู่ระดับ 4.5% ทราบผลเช้าวันที่ 15 ธ.ค.)
ปัจจัยทางเทคนิค – เราคาดว่า SET วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด / หุ้นแนะนำทางเทคนิค ได้แก่ ORI (แนวต้าน 11.1-11.3 / แนวรับ 10.8-10.6 / Stop loss 9.95) SAWAD (แนวต้าน 52.00-53.00 / แนวรับ 49.50-49.00 / Stop loss 47.00) BJC (แนวต้าน 36.25-37.00 / แนวรับ 34.50-34.00 / Stop loss 32.75)
SET สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลงกว่า 1.13% สะท้อนความกังวลต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องมากกว่าที่ ตลาดคาด - SET ล่าสุด (9 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,623.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 50,594.33 ล้านบาท (สูงสุด 1,629.93 จุด และต่ำสุด 1,618.13 จุด) SET พักฐาน หลังสะท้อนปัจจัยลบในช่วงต้นสัปดาห์ไปมาก โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่อง และมีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไปสู่ระดับ 5.5%-6.0% ภายในปี 2566 มากกว่าที่ Market Consensus ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับลดลง 18.5 จุด (-1.13%) ด้วยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 52,971 ล้านบาท ลดลง 13.15%wow
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities