รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบจำกัด

เผยแพร่ 01/07/2565 10:15
อัพเดท 09/07/2566 17:32

Investment Ideas:

SET ปรับลดูลง ท่ามกลางการซื้อขายผันผวน โดยมีแรงขายต่อเนื่องในช่วงบ่าย หลังกังวล ธปท. ปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยก่อนการประชุม กนง. เดือน ส.ค. - SET วานนี้ปิดที่ระดับ 1,568.33 จุด ลดลง 17.85 จุด (-1,13%) มูลค่าการซื้อขาย 71,991.49 ล้านบาท (สูงสุด 1,591.23 จุด และต่ําสุด 1,564.82 จุด) SET เคลื่อนไหวในแดนบวกในช่วงแรกของการซื้อขาย สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ปรับลดลง จากความ กังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน หลังสหรัฐฯ รายงานประมาณการ GDP ครั้งสุดท้าย หดตัวเพิ่มขึ้น และมากกว่าที่ Market Consensus คาดหมาย ขณะที่มุมมองของเฟดในการประชุม ร่วมกับ ECB และ BOE ยังคงย้ําจุดยืนที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธนาคารกลางในกลุ่ม ประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ เป็นปัจจัยเพิ่มน้ําหนักความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม SET เริ่มกลับมาปรับทิศทางในช่วงก่อนปิดตลาดเช้า รวมไปถึงการซื้อขายในช่วงบ่าย หลัง มีว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมแถลงข่าวในประเด็น “การปรับทิศทางการดําเนินมาตรการ ทาทารเงินภายใต้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทําให้นักลงทุนเทขายหุ้น เพื่อลดความเสียง จากกังวลต่อการที่ ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนการประชุม กนง. เดือน ส.ค. ภาพรวม SET ใน เดือน มิ.ย. ปรับลดลง 91 จุด (-5.5%) ภาพรวมการลงทุนวันนี้: คาด SET ฟื้นในกรอบที่จํากัด - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,5501,580 จุด เราคาดว่า SET มีโอกาสกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway Up เนื่องจากคลาย ความกดดันต่อความกังวลที่ ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบียก่อนการประชุม กนง. เดือน ส.ค. ซึ่งส่งผลให้ SET วานนี้ปรับลดลงในช่วงบ่ายของการซื้อขาย อย่างไรก็ตามมุมมองที่เป็นบวกของ ธปท. ต่อภาพรวม เศรษฐกิจในประเทศ มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้รายย่อยที่มีความเปราะบาง รวมทั้งการยกเลิกเพดานการจ่ายเงินปันผลของธนาคารพาณิชย์ จากเดิมที่กําหนดไว้ที่ 50% ของกําไรสุทธิ จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของ SET ยังคงมีปัจจัยกดดันจากความ กังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถอถอย จากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลูก หลังสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ค. ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องจากเดือน เม.ย. ที่ 6.3% เพิ่มน้ําหนักต่อการที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามถ้อยแถลงของประธานเฟดในการประชุมร่วมกับ BOE และ ECB ในวันก่อนหน้า กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 40% เน้นหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และส่งออกอาหาร

- กลยุทธ์การลงทุน เรายังคง ให้น้ําหนักการลงทุนในหุ้น 40% ของพอร์ต ระยะสั้นเรากลับมาให้ความสนใจหุ้นในกลุ่มธนาคาร หลัง ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ และมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เราเลือก KBANK (BK:KBANK) BBL KKP รวมไปถึง Theme ที่เรา แนะนําไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาหุ้นยัง Laggard เราเลือก RATCH EGCOCKP GULF GPSC และ BGRIM โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่มีสัดส่วน SPF สูง อย่าง GPSC และ BGRIM จะได้ประโยชน์ จากราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลง หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล เราเลือก BH และ BDMS ที่เราให้น้ําหนักเป็นหุ้น Defensive Stock หุ้นใน Theme เปิดเมืองเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS M SPA MAJOR BEM ERW MINT SHR และ VRANDA และหุ้นส่งออกกลุ่มอาหาร เราเลือก TU CFRESH CPF GFPT TFG และ ASIAN

ธปท. เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจน แต่ยังต้องช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ขณะที่ความมั่นคงของธนาคาร พาณิชย์ของไทยยังแข็งแกร่ง เรามองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารระยะสัน เลือก KBANK BBL KKP เป็นหุ้น เด่น - 3 ประเด็นที่ได้จากการแถลงของ กนง. ช่วงเย็นวานนี้ (1) ธปท. ให้ธนาคารพาณิชย์ ปรับอัตราเงินนําส่ง FIDF กลับมาเป็น 0.46% ตั้งแต่ต้นปี 2566 (2) มาตรการเพิ่มเติมเพื่อดูแลลูกหนี้รายย่อยที่มีความเปราะบาง ธปท. ให้คงอัตราผ่อนชําระบัตรเครดิตขั้นต่ํา 5% ออกไปอีก 1 ปี ทําให้จะสิ้นสุดปี 2566 และเริ่มปรับเป็น 86 ถึงสิ้นปี 2567 นอกจากนี้ยังให้คงขยายเวลาชําระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลที่ 1 ปี ถึงสิ้นปี 2566 และ (3) ยกเลิกเพดานจ่ายปันผลของธนาคารพาณิชย์ จากเดิมที่จํากัดอัตราการจ่ายไม่เกิน 50% ของกําไรสุทธิ ประจําปี แต่ให้ยึดหลักความระมัดระวัง ขณะที่มาตรการเดิมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคธุรกิจยังคงอยู่ ได้แก่ (1) มาตรการแก้หนี้ระยะยาว ช่วยการปรับโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนแก่ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชน ถึงสิ้นปี 66 (2) โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถโอนทรัพย์มาชําระหนี้ได้ และให้ สิทธิซื้อคืนภายในระยะเวลาที่ตกลงไว้ จนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2566 และ (3) การเพิ่มสภาพคล่องภายใต้ มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อรองรับการฟื้นตัวและการปรับตัวของธุรกิจ ซึ่งจะสามารถใช้เม็ดเงินที่เหลืออยู่ ได้ จนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2566 ทั้งนี้ ธปท. มีความเห็นว่าเศรษฐกิจไทย ในภาพรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น แต่ เป็นการฟื้นตัวที่ไม่เท่าเทียบกัน ทําให้เกิดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อดูแลลูกหนี้รายย่อยที่มีความเปราะบาง ขณะที่ ความมั่นคงของธนาคารพาณิชย์ของไทย ธปท. ประเมินว่า อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสียง (BIS Ratio) ซึ่ง อยู่ที่ประมาณ 20% (เกณฑ์ขั้นต่ําที่ 8.5%) ถือว่าธนาคารพาณิชย์ของไทยสะสมเงินกองทุนในระดับสูงมาก ส่วนอัตราส่วนเงินสํารองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL COverage ratio) สะสมไว้มากในช่วงโควิด ตั้งแต่ปี 2563 - 2564 สูงถึง 1659% เรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร เลือก KBANK BBL KKP เป็นหุ้นเด่น แนะนําเล่นเก็งกําไรระยะสั้น

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ปัจจัยทางเทคนิค – หุ้นแนะนํา ได้แก่ @ M (แนวต้าน 54.00-55.25 / แนวรับ 51.50-50.75/Stop loss 49.25) 6 MBK (แนวต้าน 17.00-17.40 / แนวรับ 16.30-16.10 /Stop loss 15.30) G ERW (แนวต้าน 4.08-4.12 / แนวรับ 3.92-3.88/ Stop loss 3.76)

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย