ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเมื่อวาน ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมา ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ตลาดกลับมาให้ความสําคัญต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง หลังจากที่นาย จอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ออกมาแสดงความเห็นว่า เป็นเรื่อง สมเหตุสมผลที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 3.50-4,00% และปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นการดําเนินการที่ถูกต้อง ด้านด้ชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมา แม้ว่าถ้อยแถลงของประธานเฟดจะ ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาเช้านี้อยู่ที่ 104.40 จุด ขณะ ที่ค่าเงินบาทกลับแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเมื่อวานที่ระดับ 35.40 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้ลงมาอยู่ ที่บริเวณ 35.02 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่ามาจากข่าวที่จีนปรับลดวันกักตัว อาจจะส่งผลดีต่อ นักท่องเที่ยวจีนที่อาจจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวาน นี้ได้แก่ Richmond Manufacturing Index และ CB Consumer Confidence ออกมาลดลงกว่า ที่คาด สําหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ Final GDP q/g. FinalGDP Price Index q/q คาดว่าจะออกมาเท่าเดิม และติดตามการประชุม OPEC รวมถึงถ้อยแถลงของนาง ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป และถ้อยแถลงของนาย พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คืนนี้ ด้านกองทุนทองคํา SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.03 ต้น ปัจจุบันถือครองที่ 1,054.37 ต้น
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคํายังคงทรงตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,820 - 1,840 เหรียญ โดยมีการปรับตัวลดลงอย่างช้าๆ ขณะที่ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทําให้ราคาทองคําไทยลดลงอย่างรวดเร็ววันนี้คาดว่าราคา ทองคําจะอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,810 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,835 เหรียญ สําหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,810 เหรียญ และแนวต้าน 1,835 เหรียญ สําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 30,000 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 30,400 บาท/บาททองคํา
โดยเน้นย้ํานักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2- 5 เหรียญ ดังนั้นการ วิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th