ทิศทางราคาทองคํา
ราคาทองคําปรับตัวลดลงหลังจากที่เมื่อวานดีดตัวขึ้นมาที่บริเวณ 1,835 เหรียญ ก่อนที่จะร่วงลงมาปิด ที่บริเวณ 1,823 เหรียญ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาจากบริเวณ 104.20 จุด ลงมาที่บริเวณ 103.60 จุด ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการเคลื่อนตัวสวนทางกับภาวะที่ควรจะเป็น โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง น่าจะส่งผลให้ทองคําปรับขึ้น แต่ทองคํากลับปรับลง หรือจากข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีขึ้น ดัชนีดอลลาร์ควรจะแข็งค่าขึ้น แต่กลับอ่อนค่าลง ด้านค่าเงินบาทปรับแข็งค่า โดยค่าเงินบาทแข็งค่า จาก 35.45 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าลงมาที่บริเวณ 35.30 บาท/ดอลลาร์ อีกปัจจัยกดดันให้ราคาทองคํา ปรับลดลงมาจากแรงเทขายทองจากกองทุนทองคํา SPDR ที่เมื่อวานนี้ขายออก 4.64 ต้น ปัจจุบันถือ ครองที่ 1,056.4 ต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าในหลายครั้ง ทองคําเผชิญแรงขายจากกองทุน SPDR แต่ก็ไม่ได้ กดดันให้ทองคําร่วงลง แต่สําหรับครั้งนี้กลับทําให้ราคาทองคําร่วงลงไปด้วย ดังนั้นจะเห็นถึงความ ผันผวนไม่แน่นอนของตลาด ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดการกับดัชนีดอลลาร์ไม่ให้แข็งค่าเกินไป และจะส่งผล ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯโดยองค์รวมดูดีขึ้น สําหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Goods Trade Balance, Prelim Wholesale Inventories m/m, CB Consumer Confidence, Richmond Manufacturing Index และ Crude Oil Inventories ภาพรวมคาดว่าจะออกมาทรงตัวหรือ ลดลงเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคําทางเทคนิค
ราคาทองคํายังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับ ในลักษณะตามแนวโน้มทิศทางขาลง โดยราคาทองคํายังเคลื่อนตัว ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลางวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะมีแนวรับที่ 1,818 เหรียญ ซึ่งเป็นบริเวณจุดต่ําสุดเดิม และ แนวต้านที่ 1,840 เหรียญ สําหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,823 เหรียญ และแนวต้าน 1,840 เหรียญสําหรับราคาทองคําไทยมีแนวรับที่ 30,200 บาท/บาททองคํา และมีแนวต้านที่ 30,650 บาท/บาททองคํา
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2-5 เหรียญ ดังนั้น การ วิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นโดย สถาบันการลงทุนทองคำ แม่ทองสุก MTS สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 0 2770 7788 หรือทางเว็บไซต์ mtsgold.co.th