สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําปรับตัวขึ้นในระหว่างการซื้อขายของตลาดเอเชียและช่วงต้นของตลาดยุโรป โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศ G7 เตรียมสั่งห้ามการนําเข้าทองคําจากรัสเซีย และจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในอังคารนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่ออุปทานทองคํากายภาพ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ผลิตทองคําราย ใหญ่อันดับ 2 ของโลก คิดเป็น 95% ของอุปทานทั่วโลก ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคําปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,840.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําปรับตัว ลดลงในเวลาต่อมาท่ามกลางแรงขายทํากําไร แต่ปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคําเมื่อวานนี้ ได้แก่ (1.) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด” ทั้ง ดัชนีการทําสัญญาขายบ้านที่ รอปิดการขาย (Pening home sales) ที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ศ. เมื่อเทียบรายเดือนสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะลดลง 3.7% ในเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของ สหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ศ. และ (2.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.22% หลังจากการดีมานด์ในการประมูลพันธบัตรรัฐบาล สหรัฐอายุ 2 ปีและ 5 ปีวานนี้เป็นไปอย่างซบเซา จนเป็นปัจจัยกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําร่วงลง ทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,820.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลง -4.64 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์ของสหรัฐ รวมไปถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดริชมอนด์ และประธานเฟดซานฟรานซิสโก
หากวันนี้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ หรือ ราคายืนเหนือแนวรับ 1,818-1,812 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดการฟื้นตัว ขึ้นในระยะสั้น หรือ จะทำให้มีแรงซื้อเก็งกำไรส่งผลให้ราคาดีดกลับช่วงสั้น ๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลง มาอีกครั้งหากราคายังไม่มีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น โดยประเมินแนวต้านที่ 1,839-1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,812
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,848-1,839
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,812
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th