ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 75 จุดเบสิสของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มพิจารณาความเป็นได้ถึงโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทที่กำลังเติบโตและอุตสาหกรรมรายย่อยต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Upstart (NASDAQ:UPST) Holdings, Inc. (NASDAQ: UPST) ซึ่งเป็นฟินเทครูปแบบใหม่ ที่นักลงทุนอาจตั้งข้อสงสัยในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากความกังวลที่มีต่อภาวะถดถอย และประวัติการดำเนินธุรกิจ ที่สามารถก้าวขึ้นมาในฐานะบริษัทมหาชน (IPO – ปลายปี 2020) หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นมากกว่า 8% ในวันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน ทั้งๆ ที่ไม่มีข่าวสำคัญจากบริษัทและยังต้องรับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
เหตุการณ์นี้อาจเป็นตัวอย่างของความตื่นเต้นของนักลงทุน ที่กำลังมองหาหุ้นเติบโตหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงสิ้นปี 2020 หุ้นของ Upstart ได้ถูกขายออกตั้งแต่เดือนตุลาคม หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดตลอดกาล และต้องปรับตัวลดลงกว่า 90% จากผลกระทบโรคระบาด อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้ว่าจะมีการเทขายเป็นอย่างมาก แต่บริษัทก็สามารถฟื้นตัวเลขการเงินในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมาได้ มีรายรับเพิ่มขึ้นจาก 66.8 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2020 เป็น 311.1 ล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสที่ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2022 และรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจาก 11.1 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. 2020 เป็น 34.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สิ้นสุด ณ เดือนมีนาคม 31 ต.ค. 2022 ข้อมูลนี้ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นในการเติบโตของบริษัท เข้าผลประโยชน์ทางธุรกิจ
เมื่อหุ้นตัวนี้มีผลงานดี ในช่วงเวลาที่หุ้นตัวอื่นๆ กำลังต้องรับแรงกดดัน ในบทความนี้ เราจะใช้ InvestingPro+ มาพิจารณาการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นบริษัท เพื่อวิเคราะห์และดูว่าคุ้มไหมที่จะลงทุนกับบริษัทที่มีชื่อว่า Upstart
มาทำความรู้จักกับ Upstart
หมายเหตุ: ข้อมูลราคาทั้งหมดเป็นข้อมูล ณ ราคาปิดวันที่ 21 มิถุนายน
Upstart Holdings, Inc. เป็นแพลตฟอร์มการให้ยืมปัญญาประดิษฐ์ (AI) บนคลาวด์ ที่ให้บริการสินเชื่อผู้ใช้งาน โดยใช้ตัวแปรที่ใหม่ ที่ไม่ใช่รูปแบบการทำธุรกิจแบบดั้งเดิม เช่น การศึกษาและการจ้างงาน เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือทางเครดิต แพลตฟอร์มดังกล่าวรวบรวมความต้องการของผู้บริโภคในด้านของสินเชื่อและเชื่อมต่อข้อมูลกับเครือข่ายพันธมิตรธนาคารที่ใช้เทคโนโลยี AI ของบริษัท
สถิติพื้นฐาน:
- มูลค่าตลาด: 3.24 พันล้านดอลลาร์
- ราคาปัจจุบัน/ช่วง 52 สัปดาห์: $38.23 ($25.43 - $401.49)
- อัตราส่วน P/E: 20.5x
จากการคำนวณของ InvestingPro+ แสดงให้เห็นว่าราคาเฉลี่ยเป้าหมาย ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ 13 คนที่ติดตามหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 49.92 ดอลลาร์ คิดเป็นการปรับตัวขึ้นอีก 30.6% จากระดับราคาหุ้นปัจจุบัน ในขณะที่มูลค่าของหุ้นที่ควรจะเป็น InvestingPro คำนวณเอาไว้ว่าควรจะอยู่ที่ 54.25 ดอลลาร์ หรือมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 41.9% จากราคาหุ้นปัจจุบัน
Source: InvestingPro+
InvestingPro+ ยังให้คะแนนสถานะทางการเงินของบริษัทเป็น 2 ใน 5 โดยกำหนดให้ Upstart Holdings มีผลการดำเนินงานที่อยู่ในระดับดี
Source: InvestingPro+
ถ้าไม่นับคะแนนสุขภาพทางการเงินที่ค่อนข้างอ่อน กราฟเกณฑ์เปรียบเทียบประสิทธิภาพเทียบกับการประเมินมูลค่ายังแสดงให้เห็นว่า Upstart Holdings มีอัตราส่วน PE สูงที่สุดในบรรดาบริษัทอื่นๆ
Source: InvestingPro+
Termination of No-Action Letter คืออะไร?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ได้ขอให้ยกเลิกหนังสือไม่ดำเนินการ () (เป็นวิธีการป้องกันบริษัท จากการถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการให้กู้ยืมโดยชอบธรรม ที่เกี่ยวกับอัลกอริธึม) จาก Consumer Financial Protection Bureau (CFPB) โดยมีเจตนาที่จะเพิ่มจำนวนตัวแปรใหม่ที่มีนัยสำคัญ ในรูปแบบการรับประกันภัยและการกำหนดราคา สิ่งนี้หมายความว่าอะไร?
นักวิเคราะห์ของ Wedbush เชื่อว่าบริษัทสามารถกระชับความสามารถในการดำเนินสินเชื่อให้รัดกุมยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากการยื่นคำร้องนี้ ซึ่งอาจทำให้บริษัทตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในแง่บวก การเลิกจ้างนี้จะช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเปลี่ยนแปลงแบบจำลองตามเวลาจริงโดยไม่ต้องขออนุมัติ
ต้นทุนกับอัตราการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น
ในระหว่างการนำเสนอในที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายบริหารของ Upstart กล่าวว่าบริษัทมีอัตราการขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ แม้ว่าความสามารถในการชำระของผู้กู้จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากอัตราเงินเฟ้อ แต่อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์กับการขาดทุนสูง
ฝ่ายบริหารกล่าวว่าความคาดหวังผลตอบแทนของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นและอัตราการขาดทุนกำลังเพิ่มแรงกดดันต่อผู้กู้ ซึ่งทำให้ผู้กู้มีโอกาสน้อยที่จะยอมรับเงินกู้และยังมีโอกาสน้อยที่บริษัทจะอนุมัติเงินกู้ตามกรอบ APR นอกจากนี้ บริษัทยังมีแรงจูงใจที่จะเพิ่ม take rate ภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อปริมาณการทำธุรกรรม
ต้นทุนทางการเงินของบริษัทสูงและเพิ่มขึ้นตามหลักฐานจากการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ล่าสุด ซึ่งตามที่นักวิเคราะห์ของ Wedbush เห็น ประเด็นนี้อาจนำไปสู่การเติบโตของการทำธุรกรรมที่ชะลอตัวหรือลดลง นักวิเคราะห์กล่าวว่าคุณค่าของบริษัทที่มีต่อผู้กู้อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการขึ้นราคาเงินกู้สูงถึง 400 bp ในขณะที่อัตราบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเพียง 75 bp ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สิ่งนี้อาจทำให้เงินกู้ของ Upstart ไม่น่าสนใจสำหรับผู้กู้ ที่หวังว่าจะนำเงินไปเพิ่มการเติบโตของบริษัท
หุ้น Upstart ยังถูกไม่พอที่จะควรเสี่ยงลงทุน
อ้างอิงข้อมูลจาก InvestingPro+ ที่ระบุถึงความเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น เช่น ความเสี่ยงในการเพิ่มเครดิตในช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำ อัตราการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น อัตราการเติบโตที่ลดลง รวมถึงสภาพทางการเงินที่อ่อนแอ และอัตราส่วน PE ที่สูง เราไม่ แนะนำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ในตอนนี้
Pro+ ให้ความเห็นว่ามีบริษัทมีศักยภาพที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 30.6% ตามเป้าหมายของนักวิเคราะห์และศักยภาพตามการวิเคราะห์ของ InvestingPro+ ที่จะปรับตัวขึ้น 41.9% แต่เราเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการเข้าสู่หุ้น เนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงที่ได้กล่าวไป ดังนั้นตอนนี้อาจเป็นเวลาที่จะต้องรอหุ้นตัวนี้ จนกว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะสามารถวัดได้จากรายงานผลประกอบการของบริษัท ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 สิงหาคมนี้