เมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐย่อตัวลงเล็กน้อย เพราะนักลงทุนบางส่วนพยายามที่จะกลับเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง สัญญาซื้อขายดัชนีดอลลาร์สหรัฐล่วงหน้าเมื่อวานนี้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการปรับตัวลดลงในวันจันทร์ ท่ามกลางการเข้าสู่แนวโน้มขาลงอย่างเป็นทางการของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดัชนีดอลลาร์สหรัฐกลับวิ่งสวนทางขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 20 ปี
จากการวิเคราะห์ของเรา ได้พบความเป็นไปได้ที่แม้แต่เราเองก็ยังตกใจ เพราะในระยะกลางถึงยาว เราไม่เห็นสัญญาณใดเลยที่จะบ่งชี้ว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าจนดัชนีดอลลาร์สหรัฐเข้าสู่แนวโน้มขาลง แต่เรากลับเห็นความเป็นไปได้ที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐจะมุ่งหน้าขึ้นทดสอบระดับราคา 116 จุดแทน
จากรูปกราฟด้านบนนี้ เราจะเห็นดัชนีดอลลาร์สหรัฐขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในแนวโน้มขาขึ้น ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่จุดต่ำสุดในปี 2021 ลักษณะการวิ่งเช่นนี้ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ราคาอาจจะสร้าง peaks หรือ troughs ที่สูงขึ้น แต่ที่น่าสนใจคือเส้นแนวรับสีแดงในกราฟรายวัน ที่ต้องขยายขึ้นไปดูกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้นว่าเกิดมาจากอะไร
เมื่อพิจารณาในกราฟที่กว้างขึ้นอย่างกราฟรายสัปดาห์ เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าเส้นสีแดงนั้นคือเส้น neckline ของรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขาขึ้นขนาดใหญ่ ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2016 นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นด้วยว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 50 สัปดาห์ ได้ตัดเส้นค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ระยะยาว 200 สัปดาห์ขึ้นมาแล้ว แต่เพราะเป็นการตัดกันของทั้งสองเส้นเป็นครั้งที่สองในกรอบราคาบริเวณนี้ เราจึงไม่กล้าที่ฟันธงได้มากนักว่าการตัดกันครั้งนี้จะเป็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นต่อของดัชนี
แต่เมื่อได้เริ่มวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว ก็ต้องวิเคราะห์ให้จบ ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่น่าเป็นไปได้มากแค่ไหนก็ตาม เมื่อวัดจากจุดต่ำสุดของกรอบ ขึ้นมายังจุดสูงสุด จะพบว่าราคาได้ปรับตัวขึ้นมาทั้งหมด 1,415 จุด แล้วถ้าเราเอากรอบนี้ไปวางเทียบกับจุดเบรกเอ้าท์กรอบที่ 102.40 จุด จะพบว่าระดับราคาเป้าหมายอีก 1,415 จุดจะอยู่ที่ 116 จุด กล่าวง่ายๆ คือแนวต้านที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ หากเป็นจริงตามที่คำนวณ ในอนาคตก็จะกลายเป็นแนวรับแทน
ยิ่งถ้าได้พิจารณากราฟรายเดือน ก็จะยิ่งเห็นสัญญาณยืนยันของแนวโน้มขาขึ้น
จากการวิเคราะห์กราฟรายเดือน เป็นที่ชัดเจนว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 เดือนนั้นสามารถรับรูปแบบหัวไหล่ขาขึ้นเอาไว้ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในระหว่างปี 2004-2014 เส้นค่าเฉลี่ยเส้นนี้เคยเป็ยแนวต้านที่สำคัญมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 50 เดือนก็สามารถตัดเส้นค่าเฉลี่ย 200 เดือนนี้ขึ้นไปได้แล้ว ยิ่งส่งเสริมการเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวมากขึ้น
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง ควรรอดูราคาที่ย่อตัวกลับลดลงมาจากรีบาวด์ตอนนี้ก่อน ถ้าเกิดรูปแบบ double-top ขึ้น ให้ขาย หรือถ้าราคาสามารถยืนเหนือจุดสูงสุดก่อนหน้าได้่ ให้ซื้อ
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะซื้อเมื่อราคาย่อ หรือไม่ก็ซื้อเมื่อราคาปรับตัวขึ้นสูงกว่าจุดสูงสุดเดิม
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะสวนเทรนด์ด้วยการวางคำสั่งขายลงมา เก็บกินกำไรตอนย่อลงสั้นๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาทำกำไรตามเทรนด์หลักอย่างขาขึ้นต่อไป
ตัวอย่างการเทรด (ขาลง)
- จุดเข้า: 105.00
- Stop-Loss: 105.30
- ความเสี่ยง: 30 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:102.60
- ผลตอบแทน: 240 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:8
ตัวอย่างการเทรด (ขาขึ้น)
- จุดเข้า: 102.30
- Stop-Loss: 101.30
- ความเสี่ยง: 100 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:105.30
- ผลตอบแทน: 300 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:3