🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

อย่าตกใจกับสภาพตลาดคริปโตฯ ในปัจจุบัน ให้มองว่าตอนนี้คือโอกาส!!

เผยแพร่ 27/05/2565 12:38
TSLA
-
BRKa
-
PYPL
-
BTC/USD
-
ETH/USD
-

ในวันที่บิทคอยน์และอีเทอเรียมพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 พวกมันกลายเป็นความหวังสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดกำลังจะประกาศชัยชนะในฐานะสินทรัพย์ตัวหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นานความหวังก็หลายเป็นฝันร้ายทันที เมื่อขาขึ้นในสกุลเงินดิจิทัลทั้งสองนั้นหมดแรง สร้างจุดปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันก่อนหน้า เกิดเป็นรูปแบบการกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงที่มีนัยสำคัญทางการวิเคราะห์ทางเทคนิค

เมื่อวันที่ 24 มกราคม บิทคอยน์และอีเทอเรียม สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 60% ของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดได้ร่วงลงถึงระดับต่ำสุด วิ่งอยู่เหนือจุดต่ำสุดของวันที่ 24 มกราคม จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การสร้างจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห้นว่าตลาดคริปโตฯ กำลังไซด์เวย์ เตรียมตัวที่จะทะลุกรอบปรับฐานออกไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง 

และในวันที่ 9 พฤษภาคม ตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็เลือกทางอีกครั้ง นั่นคือการทะลุกรอบสามเหลี่ยมและปรับตัวลดลง ก่อให้เกิดการเข้าสู่ตลาดหมีอย่างเป็นทางการ และลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาสัญญาณทางเทคนิค ที่จะพอเป็นตัวช่วยยืนยันความหวังของแนวโน้มขาขึ้น ผมต้องขอเตือนเอาไว้ตรงนี้ก่อนว่า ตลาดแห่งนี้คือนิยามใหม่ของคำว่าความผันผวนในตลาดลงทุน และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป

สถานการณ์ตลาดคริปโตฯ ในปัจจุบัน

หลังลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 10 พฤศจิกายน สู่จุดต่ำสุดในวันที่ 24 มกราคม บิทคอยน์และอีเทอเรียมต่อการพักฟื้นบาดแผล ปรับฐานอยู่ใกล้กับจุดต่ำสุดมากกว่าที่จะไปอยู่ใกล้จุดสูงสุดในปี 2021

Bitcoin Daily Chart.

อ้างอิง: Barchart

กราฟรูปนี้คือราคาบิทคอยน์ที่ไซด์เวย์อยู่ในกรอบราคาระหว่าง $48,187.21 และ $33,076.69 ในวันที่ 9 พฤษภาคม ราคาได้ปรับตัวลดลงไปถึง $25,919.52 และในวันที่ 12 พฤษภาคม คือการลงสร้างจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 Ethereum Daily Chart.

อ้างอิง: Barchart

สถานการณ์ของอีเทอเรียมก็คล้ายๆ กัน ปรับตัวลดลงสู่จุดต่พสุดในวันที่ 24 มกราคมที่ $2,163.316 พักตัวชั่วคราวระหว่างจุดต่ำสุดและ $3,579.866 และขยับลงต่อไปที่ $1,721.474 ในวันที่ 12 พฤษภาคม ในขณะที่กำลังเขียนบทความนี้อยู่ บิทคอยน์และอีเทอเรียมยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดในวันที่ 24 มกราคม สร้างกรอบปรับฐานเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะวิ่งไปในทิศทางใดต่อ

ฝ่ายต่อต้านได้โอกาสซ้ำเติม “เตือนแล้วไม่ฟัง”

ในงานคาร์นิวัลประจำปีของบริษัท Berkshire Hathaway (NYSE:BRKa) ในเมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของบริษัทกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลว่า:

“ถ้าคุณบอกผมว่าคุณเป็นเจ้าของบิทคอยน์ทั้งหมดในโลก และคุณเสนอขายให้ผมในราคา $25 ผมจะไม่รับมันเพราะผมไม่รู้ว่าจะเอาบิทคอยน์ไปทำอะไร? ผมคงต้องขายคืนให้คุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย”

บัฟเฟตต์ไม่เชื่อว่าบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลเป็น "สินทรัพย์ที่มีประสิทธิผล" ชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) หุ้นส่วนและเพื่อนสนิทของบัฟเฟตต์พูดอย่างตรงไปตรงมาต่อสกุลเงินดิจิทัลว่า:

“ในชีวิตของผม ผมพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่โง่เขลา ชั่วร้าย และทำให้ผมดูแย่เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ซึ่งบิทคอยน์เป้นทั้งสามสิ่งที่กล่าวมานั้น”

ชาร์ลียังกล่าวต่อไปอี่กว่า“เหตุผลที่การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลดูเป็นเรื่องที่โง่เง่าเพราะมันยังคงมีแนวโน้มที่จะเป็นศูนย์ และเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายที่บ่อนทำลายระบบธนาคารกลางสหรัฐ ผู้นำคอมมิวนิสต์จีน เขาฉลาดพอที่จะแบนบิทคอยน์ในประเทศจีน”

แต่ฝั่งสนับสนุนคริปโตฯ กลับมองว่าตอนนี้คือโอกาส

เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลเป็นตัวแทนของวิวัฒนาการของการปฏิวัติฟินเทค ที่นำโดยการใช้งานบล็อคเชย (blockchain) ผู้นำด้านเทคโนโลยีจำนวนมากจึงยอมรับสกุลเงินดิจิทัล ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) นักลงทุนและผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal (NASDAQ:PYPL) เรียกคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ว่า "ศัตรูหมายเลขหนึ่งของบิทคอยน์" พร้อมกับบอกว่า “ให้คุณปู่เป็นตำนานแห่งโอมาฮ่าไปก็ดีแล้ว”  

นอกจากปีเตอร์ ธีล ยังมีคนดังที่เป็นคนรุ่นใหม่หลายคนให้การสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นแจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) ผู้ก่อตั้ง Block อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ Tesla (NASDAQ:TSLA) และผู้ก่อตั้งและผู้นำด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ให้การสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการนำเงินไปลงทุนในบิทคอยน์ อีเธอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ 

สิ่งที่น่าสนใจในการต่อสู้ระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าคือการต่อสู้ทางแนวคิด ผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลมักจะเป็นเสรีนิยม พวกเขาพยายามปฏิเสธบทบาทของรัฐบาลในการควบคุมปริมาณเงินในระบบ และการใช้เงินเป็นโซ่พันธนาการผู้คนทางอ้อม ในขณะที่คนรุ่นก่อนมองว่าเรื่องของการเงินจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญควบคุม ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่ก็เป็นความจริงที่ตอนนี้นักเก็งกำไรระยะสั้นยังคงติดอยู่ในตลาดหมี และกำลังเผชิญกับบาดแผลทางการเงิน ซึ่งบางคนก็มองว่านี่คือโอกาสในการกลับเข้าไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล

การเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลกในฐานะสินทรัพย์ไม่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสกุลเงินดิจิทัลมีความก้าวหน้าอย่างมากในการเป็นสินทรัพย์กระแสหลัก อย่างไรก็ตาม พวกมันยังคงต้องเจอปัญหาที่ขัดขวางการเติบโต การดูแลกระเป๋าเงินดิจิทัลและความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ การแฮ็กคอมพิวเตอร์ถือเป็นอันตรายที่ชัดเจนและคุกคามตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้อย่าสม่ำเสมอ เกาหลีเหนือ รัสเซีย จีน อิหร่าน และประเทศอื่นๆ มีความสามารถในการเจาะข้อมูลที่สำคัญ ส่งผลให้เกิดการโจรกรรม นอกจากนี้ การเรียกค่าไถ่ (ransomware) ผ่านสกุลเงินดิจิทัลมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ สิ่งกีดขวางการเติบโตของตลาดสกุลเงินดิจิทัลมากที่สุดคือรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล เพราะคริปโตเคอเรนซีคุกคามอำนาจการควบคุมปริมาณเงินของพวกเขา เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานกำกับดูแลกล่าวถึงอันตรายของคริปโตและชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนทุกวัน เพราะแรงจูงใจของพวกเขาคือการควบคุมกระเป๋าเงินของทุกคน ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจ

แม้โอกาสจะสวยงามเพียงใด แต่ความเสี่ยงก็ยังคงเป็นความเสี่ยง

ความเชื่อมั่นเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ผลักดันมูลค่าของสินค้าให้สูงขึ้นหรือต่ำลง และตลาดสกุลเงินดิจิทัลก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่สกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่ใช่ ถึงจะมีโอกาสในการทำกำไรได้ สำหรับผู้ที่มีความอดทนและยอมรับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม แต่ก็ควรที่จะลงทุนเฉพาะจำนวนเงินทุนที่คุณยินดีจะขาดทุนได้เท่านั้น ผลตอบแทนที่ได้มักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่เท่ากันอยู่เสมอ

การเคลื่อนไหวของราคาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าบิทคอยน์ อีเทอเรียม และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากกว่า 19,540 ตัวจะต้องเจอกับจุดต่ำสุดใหม่ และต้องพบกับการปรับฐานที่สำคัญ ตั้งแต่ปี 2010 การเข้าไปลงทุนในช่วงเวลาที่มีแต่คนสิ้่นหวังเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุด และแนวโน้มราคาในปัจจุบันอาจเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการพิจารณาเพิ่มสกุลเงินดิจิทัลเข้าไปในพอร์ตของคุณ ก่อนที่ความบ้าคลั่ง และการเก็งกำไรจะเข้ามาในตลาดวัฏจักรแห่งความโลภแห่งนี้อีกครั้ง 

หากในอนาคตอันใกล้ เราได้เห็นข่าวหรือกระแสการกลับมาบูมของสกุลเงินดิจิทัลอีก ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะตลาดแห่งนี้คือนิยามของคำว่าผันผวนในโลกยุคใหม่

 
 

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย