Investment Ideas: • ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (23 ถึง 27 พ.ค.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,650 จุด (แนวรับ 1,600-1,580 จุด / แนวต้าน 1,635-1,650 จุด) SET สัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ระดับ 1,622.95 จุด เพิ่มขึ้น 38.57 จุด (+2.43%Wow) มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 71,995 ล้านบาท ลดลง 11.04%WoW ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในสัปดาห์นี้ มีโอกาสที่ SET จะฟื้นตัวต่อเนื่อง จาก Valuation ที่น่าสนใจ หลัง 2 สัปดาห์แรก SET ปรับลดลงกว่า 5% ทําให้หุ้นในกลุ่ม Laggard Play ที่เราแนะนํา ต่อเนื่องในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงน่าสนใจ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและ ส่งออก ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และค่าเงินบาทอ่อนค่า สัปดาห์นี้ติดตามรายงานเศรษฐกิจที่ สําคัญ ในประเทศ ติดตามรายงานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ (ตัวเลขส่งออก/นําเข้า) เดือน เม.ย. วันที่ 23 พ.ค. / ต่างประเทศ - ติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น เดือน พ.ค. ของกลุ่มยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ วันที่ 24 พ.ค. / รายงานคณะกรรมการกําหนดนโยบาย การเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 25 พ.ค. (เช้าวันที่ 26 ตามเวลาไทย) และรายงาน GDP สหรัฐฯ ช่วง 1Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) วันที่ 26 พ.ค. กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนําเก็งกําไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ํามันดิบ และค่าการกลั่นที่แข็งแกร่ง เลือก PTTEP ESSO TOP และ SPRC เป็นหุ้นเด่น ขณะที่ Theme หลัก เรายังให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่มที่ Laggard โดยเราเลือก ADVANC BH BDMS PTG SUSCO BEM GPSC BGRIM WHA AMATA และ CPALL (BK:CPALL) รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า เราเลือก EPG SMPC ASIAN TU GFPT TFG SAPPE และ MEGA และ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ เราเลือก AOT (BK:AOT) BAFS MINT CENTEL SHR VRANDA BH BDMS AMATA และ WHA ประธานเฟดเซ็นหลุยส์ เอื้อเฟดไม่ปิดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยแรง Recession สหรัฐฯ น้ําหนักไม่มาก คาด GDP ปี 65 อยู่ในกรอบ 2.56-3.0% - 3 มุมมองจากนาย James Bullard ประธานเฟูดสาขาเซนหลุยส์ (1) ความเห็น ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย James Bulard มองว่าเฟดควรเร่งขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 โดยวางเป้าหมาย อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.5% ภายในสิ้นปี 2565 รวมไปถึงไม่ควรตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย 75bps ในกาประชุม 14-15 มิ.ย. (มุมมองของ Jerome Powell ประเมินไว้ที่ 50bps เป็น Base Case) (2) คาดเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มลดลง และเฟดจะกลับมาดําเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายอีกครั้งในปี 2566-2567 และ (3) ความเป็นไปได้ต่อการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิด Recession ภายใน 1-3 ปีข้างหน้า ไม่ มาก คาด GDP สหรัฐฯ ในปี 2565 อยู่ในกรอบ 2.56-3.0% และอัตราการว่างงานที่ลดลงต่ํากว่าระดับ 3% ติดตามรายงาน GDP สหรัฐฯ ช่วง 1Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) วันที่ 26 พ.ค. โดยประมาณการรอบก่อน (เดือน เม.ย. 65) คาดหดตัว 1.4% ขณะที่ Market Consensus ยังเชื่อว่าประมาณการรอบ 2 จะไม่แตกต่าง จากรอบแรก
PBOC ลดดอกเบี้ย LPB ประเภท 5 ปี สู่ระดับ 4.45% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคอสังหาฯ - สํานักข่าว Bloomberg รายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 5 ปี จากเดิมที่ระดับ 4.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.45% (ต่ําสุดนับตั้งแต่ PBOC เริ่มทําการกําหนดอัตรา ดอกเบี้ยใหม่ ในปี 2562) การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในความพยายามของทางการจีน เพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ ภาคอสังหาฯ นอกจากจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังภาคการผลิตในหลายเมืองของประเทศ ต้องหยุดชะงักจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ในจีน ที่อยู่ในภาวะ ซบเซา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการที่เข้มงวดของทางการจีน โดยก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์จีนประเมิน GDP ในช่วง 2Q65 จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ซึ่งหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการ จะทํา ให้ GDP ของจีนจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายปี 2565 ที่ 5.5% เรายังให้น้ําหนักหุ้นเปิดประเทศ ท่องเที่ยวและส่งออก เลือก PTG BEM AOT BAFS SHR MINT MEGA ASIAN GFPT และ CPF เป็นหุ้นเด่น - ตลาดหุ้นยังมีทิศทางผันผวน ก่อนการเปิดรายงานการประชุม FOMC ที่ประชุมต้นเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ในช่วงปลายสัปดาห์ และการประชุม FOMC กลางเดือน มิ.ย. ซึ่งจะเป็น เดือนแรกของการเริ่มทํา QT แม้ระยะสั้นกรอบ SET เราประเมินแนวต้านไว้ที่ 1635-1650 จุด แต่เชื่อว่าจะ ยังมีความผันผวนในกรอบ Sideway up โดยกลุ่มที่น่าสนใจในการลงทุน เรายังให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่มที่ได้ ประโยชน์จากการเปิดประเทศ การส่งออก และการท่องเที่ยว จากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง ขณะที่การปรับประมาณการ GDP ปี 2565 ล่าสุด จากทางสภาพัฒน์ฯ พบว่าตัวเลขของภาคการส่งออก การ ท่องเที่ยว และการบริโภคในประเทศ ได้รับผลกระทบจากการปรับประมาณการเพียงเล็กน้อย ทําให้เรายังมี มุมมองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งธุรกิจที่เกี่ยวสนามบิน (AOT และ BAFS) โรงแรม (SHR และ MINT) กลุ่มขนส่งในประเทศ (BEM และ BTS) กลุ่มสถานีบริการน้ํามัน (OR PTG และ SUSCO) กลุ่มเกษตรและอาหาร (TU ASIAN GFPT และ CPF) และกลุ่มพาณิชย์ (MAKRO HMPROCPALL MEGA และ CRC) บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: CBG และ HANA
ปัจจัยทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,605-1,635 จุด / หุ้นแนะนํา G THG (แนวต้าน 70.00-75.50 / แนวรับ 62.50-58.00 /Stop loss 50.00) M MAKRO (แนวต้าน 38.5037.50 / แนวรับ 35.75-35.00 / Stop loss 33.75) BEC (แนวต้าน 15.8-16.5 / แนวรับ 14.8-14.5/ Stop loss 13.9)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities