สิ่งที่นักลงทุนในตลาดก๊าซธรรมชาติกำลังตั้งคำถามกันในตอนนี้คือ…
“หรือก๊าซธรรมชาติกำลังมุ่งหน้ากลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุด $9 อีกครั้ง?”
ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจว่าทำไมทั้งๆ ที่สภาพอากาศของอเมริกาที่กำลังจะเปลี่ยนไปเป็นร้อนขึ้นกลับทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้นภายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้า ที่ทำการซื้อขาย ณ ท่าเรือเฮนรี่ มีความผันผวน วิ่งขึ้นลงไปมา นักลงทุนกำลังสู้กันภายใต้ความคิดที่ว่าสภาพอากาศกำลังจะเปลี่ยนไป แต่สุดท้ายแล้ว ราคาก๊าซธรรมชาติกลับสามารถปรับตัวขึ้น และสามารถประคองตัวไว้เช่นนั้นได้สามวันติดต่อกัน
นักวิเคราะห์บางคนมองว่าพฤติกรรมราคาก๊าซธรรมชาติเหมือนจะเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน สภาพอากาศคือตัวแปรสำคัญ ปริมาณการเผาไหม้ก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้งาน สภาพอากาศที่สลับไปมาระหว่างร้อนกับเย็น และตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติตคงคลังในแต่ละสัปดาห์ล้วนแล้วแต่เป็นข้อมูลที่ต้องใช้พิจารณาร่วม
อันที่จริงแล้ว นักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อก๊าซธรรมชาติมาตั้งแต่สองสัปดาห์ก่อน พวกเขาเชื่อว่าขาขึ้นระลอกนี้ยังไม่จบจนกว่าจะได้เห็นราคาที่เป้าหมาย $10 บางคนถึงกับคาดการณ์ไปไกลแล้วว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นราคาก๊าซธรรมชาติขึ้นยืนเหนือจุดสูงสุดของปี 2008 ที่ $13 ภายในช่วงฤดูร้อนนี้ ในวันที่อากาศร้อนขึ้น ชาวอเมริกันจะหันมาใช้เครื่องปรับอากาศมากขึ้น ความต้องการ LNG จากยุโรปจะยิ่งช่วยสนับสนุนให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นไป
แต่ความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะสั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถมองข้ามไปได้ แม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวขึ้นมาแล้วในเดือนพฤษภาคม 13% หรือจะขึ้นมาแล้ว 28% ในเดือนมีนาคมและเมษายน แต่ก็ยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลง หากว่าตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังในระยะสั้นเพิ่มขึ้น
Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ skcharting.com ให้ความเห็นต่อพฤติกรรมราคาก๊าซธรรมชาติในตอนนี้ว่า
“แรงหนุนขาขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติครั้งใหญ่จะเริ่มขึ้นหากว่าราคาสามารถยืนเหนือระดับราคา $9 ได้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง มีโอกาสที่ก๊าซธรรมขาติจะสามารถขึ้นไปทดสอบระดับราคาถัดไปที่ $11 จากนั้นก็ขยับขึ้นทดสอบ $13 ในระหว่างทางนั้นก็อาจจะมีแวะพักตัว เพื่อให้นักลงทุนระยะยาวได้เข้ามาเสริม และดันราคาก๊าซธรรมชาติให้ปรับตัวขึ้นต่อไป ในทางกลับกัน หากว่าราคาไม่สามารถขึ้นยืนเหนือ $8.60 มีโอกาสที่ราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับ $7.60 และ $6.50”
บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในตลาดก๊าซธรรมชาติ Gelber & Associates มีความเห็นที่คล้ายกันกับ Dixit พวกเขากล่าวว่า ยังต้องการสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนกว่านี้จึงจะสามารถบอกได้ว่าราคาจะปรับตัวขึ้น หรือจะวิ่งกลับลงไปยัง $6.50
อ้างอิง: Gelber & Associates
หนึ่งในข้อมูลที่นักลงทุนต้องจับตาคือปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลัง ที่รายงานโดยสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) ประจำสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ของ Investing.com เชื่อว่าข้อมูลตัวเลขของสัปดาห์นี้จะออกมาใกล้กับ 87 bcf เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 71 bcf ของสัปดาห์ที่แล้ว และเท่ากันกับข้อมูลตัวเลขค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี (2017-2021) ที่ 87 bcf
Gelber & Associates เห็นว่าตัวเลขที่ออกมาอาจอยู่ที่ 84 bcf ต่ำกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยในรอบห้าปีเล็กน้อย แต่พวกเขาเชื่อว่าภายในแีกสามสัปดาห์ข้างหน้า อาจจะได้เห็นตัวเลขปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังเพิ่มขึ้นเป็น 100 bcf หรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม G&A ไม่เชื่อว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังจะสามารถขึ้นถึง 300 bcf ได้ เพราะตัวเลขในช่วงนี้จะมีการเพิ่มขึ้นและลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และเมื่อคืนนี้ ข้อมูลตัวเลขปริมาณก๊าซธธรมชาติคงคลังจาก EIA ที่ออกมาก็ได้เพิ่มขึ้นเป็น 89 bcf
สำนักข่าวรอยเตอร์ ที่อ้างอิงข้อมูล TDD หรือวันวัดระดับอุณหภูมิรวมจาก Refinitiv บอกว่าตัวเลข TDD ในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นจาก 64 TDD ในสัปดาห์ที่แล้วขึ้นมาเป็น 72 TDD อนึ่ง ค่าเฉลี่ยของการวัดค่า TDD คือ 65 TDD
เว็บไซต์พยากรณ์อากาศชื่อดังสำหรับก๊าซธรรมขาติ “NatGasWeather” รายงานเมื่อวันพุธว่า
“อุณหภูมิความร้อนพยายามที่จะขึ้นมาปกคลุมทางภาคใต้และภาคตะวันออกของสหรัฐฯ และคาดว่าจะทำได้ภายในอีกไม่กี่วันนี้ รัฐเท็กซัสและรัฐใกล้เคียงจะร้อนขึ้นกว่าปกติ แต่ถึงกระนั้นก็จะยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงฤดูร้อนในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม อากาศที่ร้อนขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความต้องการก๊าซธรรมชาติของชาวอเมริกันที่อยู่ทางภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ และนั่นอาจทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังขยับลดลงบ้างเล็กน้อย”