ตอนนี้บริษัทผู้ผลิตพลังงานยักษ์ใหญ่นามแก๊สพรอม (MCX:GAZP) ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินอย่างเคร่งครัด ด้วยการระงับการส่งออกพลังงานไปยังประเทศทางตะวันตก ให้กับประเทศที่ไม่ยอมชำระการค้าด้วยสกุลเงินรูเบิล จนเป็นเหตุให้นักลงทุนเริ่มที่จะปั่นราคาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าให้ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาก๊าซธรรมชาติในตอนนี้ได้ปรับตัวลดลงมาจากขาขึ้น 52% ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วันที่รัสเซียเริ่มทำการรุกรานยูเครน ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดสงคราม ราคาก๊าซธรรมขาติก็ได้ปรับตัวขึ้นมาอ่อนๆ อยู่แล้ว ตั้งแต่จุดต่ำสุดในวันที่ 30 ธันวาคม จากแรงกดดันที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ รายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนที่จะบุกยูเครน ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จึงทำให้นักลงทุยบางกลุ่มตั้งคำถามว่า
“สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสามเดือนครึ่ง จะยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวขึ้นได้อีกอย่างนั้นหรือ?” คำตอบคือ…ใช่
ไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะไม่เชื่อว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะไม่ปรับตัวขึ้นต่อ ขนาดว่าช่วงที่รัสเซียบุกยูเครน และยังส่งก๊าซธรรมชาติให้ตะวันตกตามปกตินั้น ราคาก๊าซธรรมชาติยังปรับตัวขึ้นได้ แล้วตอนนี้ที่กำลังจะตัดการส่งออกก๊าซไปยังตะวันตก ซึ่งพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากถึง 45% นั้น ทำไมราคาก๊าซธรรมชาติจึงจะไม่ปรับตัวขึ้น
หากยุโรปยอมจำนนต่อความต้องการของปูติน และซื้อสินค้าของเขาด้วยสกุลเงินรูเบิล อุปทานด้านพลังงานก็อาจกลับมาอีกครั้ง แม้ว่ายุโรปจะยอมจำนนต่อปูตินในประเด็นนี้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่ใช่การตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ หรือโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นจึงยังมีพื้นที่ว่างสำหรับการลดอุปทานซึ่งจะก่อให้เกิดความไม่แน่นอนมากมาย จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ภาพรวมที่ได้ก็มีความสอดคล้องกันอยู่ในหลายๆ ประการ
จากรูปจะเห็นว่ากราฟสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้ากำลังขึ้นทดสอบกรอบด้านบนของรูปแบบธงลู่ลง ซึ่งเป็นการพักตัวหลังจากขาขึ้นเกือบ 81% จากจุดต่ำสุดของวันที่ 15 มีนาคมภายในเดือนเดียว ยอดธงนั้นคือจุดสูงสุดของวันที่ 18 เมษายน ขาขึ้นในตอนนั้นสอดคล้องกับอินดิเคเตอร์วอลลุ่ม (Volume) ที่แสดงแนวโน้มขาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม
การปรับตัวลดลงของวอลลุ่มตามรูปแบบธง ที่เริ่มทำหัวตกลง สามารถตีความได้ว่านักลงทุนที่พากันออกจากตลาดในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อทำกำไรไปก่อน นี่คือช่วงเวลาที่คนที่อ่านเกมออกตั้งแต่ต้นขอมีกำไรไปตุนให้อุ่นใจเอาไว้ก่อน แม้ใจหนึ่งจะเชื่อว่าขาลงครั้งนี้เป็นเพราะการออกจากตลาดเพื่อทำกำไร แต่อีกใจหนึ่งพวกเขาอาจจะกำลังเริ่มตั้งคำถามกับพฤติกรรมขาขึ้นก่อนหน้านี้
จากขาขึ้นที่เกือบ 81% ก่อนหน้านี้ น้อยคนนักจริงๆ ที่จะเชื่อว่าขาลงในตอนนี้จะสามารถพัฒนากลายเป็นขาลงในระยะยาวได้ นักลงทุนส่วนใหญ่ในตอนนี้ล้วนแต่เชื่อว่านี่เป็นเพียงการย่อเท่านั้น ที่สำคัญ พวกเขายังเชื่อด้วยว่าขาขึ้นครั้งต่อไปจะต้องสามารถยืนเหนือจุดสูงสุดล่าสุดได้ เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหน ขาขึ้นก็เป็นฝ่ายคุมเกมในตอนนี้ทั้งหมด ขาขึ้นครั้งใหม่กำลังสะสมแรง และรอจังหวะที่ความต้องการมีสูงกว่าซัพพลายอีกครั้ง
ถ้าหากเกิดการทะลุจุดสูงสุดเดิมขึ้นไปได้จริง นั่นจะเป็นส่งสัญญาณไปยังนักลงทุนขาขึ้นที่ยังลังเลอยู่ ให้รู้ว่ายังมีพื้นที่ว่างสำหรับขาขึ้น ให้ทำกำไรได้มากขึ้นอีกมากมาย ต่อให้ไม่มีคนใหม่เข้ามา คนที่วางคำสั่งขายอยู่ก็จะตกใจกลัวกับขาขึ้นตามเทรนด์เดิม และรีบตัดขาดทุนตัวเองหรือไม่ก็เปลี่ยนฝั่งมาอยู่กับขาขึ้น สามารถกล่าวอีกอย่างหนึ่งได้ว่าภายในสภาพแวดล้อมที่เทรนด์ใดเทรนด์หนึ่งสามารถกุมตลาดได้อย่างเบ็ดเสร็จ การเข้าร่วมนั้นง่ายกว่าการต่อต้าน ซึ่งความคิดเช่นนี้มีแต่จะทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้นไม่ใช่การพยากรณ์ เราไม่สามารถชี้ได้ว่าราคาจะขึ้นหรือลงจากพื้นที่ว่างเปล่า ที่ราคายังมาไม่ถึงได้ ดังนั้นเราจึงได้แต่อ่านตามเกม ที่ชี้ให้เห็นว่ามีโอกาสขึ้นมากกว่าลง ยิ่งล่าสุดที่ขาขึ้นรอบล่าสุดเกิดจากการดีดตัวขึ้นในบริเวณที่แนวต้านพึ่งจะกลายเป็นแนวรับ แสดงให้เห็นว่าระดับราคาที่เกิดจากจุดสูงสุดในวันที่ 6 ตุลาคม ถือเป็นแนวรับชั้นดี
ด้วยขาลง 45% ที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น เชื่อได้เลยว่าในเดือนเมษายน ตอนที่ราคาสามารถกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ได้ ต้องมีคนวางคำสั่งขายซ้ำ เพื่อหวังทำกำไรอีกรอบแน่นอน แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ที่ไม่เหมือนกับเดือนตุลาคม ปี 2021 อีกแล้ว ทำให้บางคนเลือกที่จะย้ายข้าง ดันราคาก๊าซธรรมชาติให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี
สำหรับนักลงทุนที่พึ่งมาดูกราฟก๊าซธรรมชาติเพราะสงครามนั้นอาจจะมองว่าจุดสูงสุดในวันที่ 6 ตุลาคมเป็นแค่จุดสูงสุดธรรมดาจุดหนึ่ง แต่เราขอบอก ณ ตรงนี้เลยว่าไม่ใช่ จุดสูงสุดนี้เคยเป็นจุดสูงสุดของราคาก๊าซธรรมชาตินับตั้งแต่ปี 2008 และแน่นอนว่าสงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ก็เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสงครามเย็น ที่เราได้เห็นการงัดอาวุธออกมาใช้กันจริงๆ ความเสี่ยงนี้จึงมากพอที่จะดันราคาก๊าซธรรมชาติ ให้ขึ้นยืนเหนือหมุดหมายสำคัญแห่งปี 2008 นี้ได้อย่างสบายๆ
ยิ่งได้มองภาพก๊าซธรรมชาติที่กว้างขึ้น ยิ่งทำให้เราได้เห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขาขึ้นในระยะยาว ขาขึ้น 52% ที่เกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่ เส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 200 เดือนกำลังเปลี่ยนจากแนวต้านระยะยาว เป็นแนวรับระยะยาว ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะทะลุรูปแบบธงขึ้นไป และต้องทำราคาปิดสูงกว่า 7.500 ด้วย จากนั้นจะรอให้ราคาย่อลงมาทดสอบแนวรับที่รูปแบบธงอีกครั้ง
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอจนกว่าจะทำราคาปิดเหนือ 7.200 ได้ จากนั้นรอจังหวะย่อเพื่อเข้าซื้อ
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะสวนเทรนด์ด้วยการวางคำสั่งขาย ทำกำไรในระยะสั้นก่อนที่จะตามขาขึ้นในระยะยาวต่อไป
ตัวอย่างการเทรดที่ 1: ขาลง
- จุดเข้า: $7.10
- Stop-Loss: $7.20
- ความเสี่ยง: $0.10
- เป้าหมายในการทำกำไร:$6.50
- ผลตอบแทน: $0.60
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6
ตัวอย่างการเทรดที่ 2: ขาขึ้น
- จุดเข้า: $6.50
- Stop-Loss: $6.40
- ความเสี่ยง: $0.10
- เป้าหมายในการทำกำไร:$7.10
- ผลตอบแทน: $0.60
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:6